วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 21, 2024
spot_img
หน้าแรกAuto News”Hilux Generation” ตอกย้ำความเป็นรถเคียงข้างคนไทยมายาวนาน ครอบคลุมทุกการใช้งาน พร้อมแนะนำรุ่นปรับปรุงใหม่ปี 2567 มาพร้อมกับเครื่องยนต์มาตรฐาน EURO 5

”Hilux Generation” ตอกย้ำความเป็นรถเคียงข้างคนไทยมายาวนาน ครอบคลุมทุกการใช้งาน พร้อมแนะนำรุ่นปรับปรุงใหม่ปี 2567 มาพร้อมกับเครื่องยนต์มาตรฐาน EURO 5

-

มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และนายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วยนางสาวอัญญารัตน์ สุทธิเบญจกุล หัวหน้าวิศวกรระดับภูมิภาค บริษัท โตโยต้า ไดฮัทสุ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ร่วมเปิดงาน “Hilux Generation” ตอกย้ำการเป็นรถกระบะมหาชนครองใจคนไทย ตอบโจทย์ทุกการใช้งานทั้งในเชิงธุรกิจ และการใช้งานส่วนบุคคล เมื่อวันที่ 20 มีนาคมนี้ ที่ TOYOTA ALIVE บางนา

  มร. โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัดกล่าวแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า “นับตั้งแต่เปิดตัว IMV รุ่นแรกเมื่อปี พ.ศ. 2547 ได้มีการส่งมอบรถ IMV ให้กับลูกค้าชาวไทยแล้วจำนวนทั้งสิ้นกว่า 2.7 ล้านคัน ซึ่งนอกจากประสบความสำเร็จด้วยการขายภายในประเทศแล้ว เราได้ส่งออกรถในโครงการ IMV กว่า 4 ล้านคัน ไปจำหน่ายยังประเทศอื่น ๆ กว่า 120 ประเทศ ด้วยการใช้ชิ้นส่วนการผลิตภายในประเทศ เป็นการตอกย้ำว่าโครงการ IMV มีส่วนช่วยในการสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ และสร้างงานให้แก่คนไทย “ผมเชื่อว่า ด้วยความไว้วางใจจากลูกค้าชาวไทยในโครงการ IMV และ  แบรนด์โตโยต้า พร้อมด้วยการสนับสนุนจากรัฐบาลไทย จนโครงการ IMV ถูกขนานนามว่า “รถกระบะมหาชน”

ในปีที่ผ่านมา แม้ว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยประสบความยากลำบากและการเปลี่ยนแปลงมากมาย ทำให้ภาพรวมตลาดลดลง 9% โดยเฉพาะกลุ่มรถกระบะที่มียอดขายลดลงถึง 32%  อย่างไรก็ตาม  รถกระบะ HILUX REVO กลับมีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 40% ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 ทำให้ภาพรวมของส่วนแบ่งการตลาดของเราเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจากที่ HILUX CHAMP ได้เปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมาได้การตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า ส่งผลให้ปีนี้ โตโยต้ายังได้รับความเชื่อมั่นสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มรถกระบะและสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดกว่า 47% ในช่วงมกราคม – กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมั่นใจของคนไทยในรถกระบะ HILUX  และแบรนด์โตโยต้า แต่ในขณะเดียวกัน เราจะไม่หยุดลงทุนเพื่อพัฒนา และมุ่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าชาวไทย เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการใช้งานรถกระบะที่สามารถตอบโจทย์ ตั้งแต่กลุ่มขนส่งหนักขนส่งเบา และกลุ่มที่ใช้เป็นรถส่วนบุคคล”

 

HILUX REVO รุ่นปรับปรุงใหม่ ตอกย้ำความเป็นรถกระบะขวัญใจมหาชน

1. Hilux Revo Z Edition ทั้งรุ่น Double cab และ Smart cab ด้วยดีไซน์กระจังหน้าใหม่ ไฟตัดหมอก ไฟหน้ารมดำ และวัสดุภายนอกสีดำเมทัลลิกในรุ่น MID ภายนอกโฉบเฉี่ยว ดุดัน ตามคำเรียกร้องจากกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบการตกแต่งรถ ให้มีสไตล์ เท่ เป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยเพื่อคนไทย ทั้ง VSC และ HAC ในทั้งสองรุ่นย่อย

2. Hilux Revo Smart Cab Pre-runner & 4×4 ปรับโฉมตามเสียงเรียกร้องของลูกค้า ที่ชอบการออกแบบกระจังหน้าแบบ REVO-D ช่วยเสริมภาพลักษณ์รถกระบะใช้งานส่วนบุคคล และระบบช่วงล่าง Superflex suspension ที่นุ่มสบาย เหมาะกับการใช้งานในเมือง

3. Hilux Revo GR-Sport 4×4 นิยามความแกร่ง สปอร์ตพรีเมี่ยม กระบะสายพันธ์แกร่งรุ่นเรือธงที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากรถแข่งออฟโรดแรลลี่ ด้วยสมรรถนะการขับขี่เป็นเลิศกับเครื่องยนต์ 2.8 GD Super Power ปรับจูนใหม่ 224 แรงม้า แรงบิด 550 นิวตัน-เมตร ปรับจูนช่วงล่าง เพิ่มความกว้างฐานล้อ (wide tread) ด้านหน้าขึ้นอีก 140 มม ด้านหลัง 155 มม และเปลี่ยนเบรกหลังเป็นดิสก์เบรก ช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ ยึดเกาะถนนได้ดีมากขึ้น

 

นอกจากปรับการออกแบบภายนอกแล้ว ยังเพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายสูงสุด อาทิ กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ หน้าจอสัมผัสขนาด 10.25 นิ้วรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย

 

มร.ยามาชิตะ กล่าวย้ำว่า HILUX REVO ทุกรุ่น ได้ปรับปรุงให้ผ่านการรับรองตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (ระดับยูโร 5) ที่ช่วยลดการปล่อยละออง PM2.5 อีกด้วย หวังเป็นอย่างยิ่งว่า HILUX REVO ใหม่ และ HILUX CHAMP จะเป็นรถที่ครองใจคนไทย และได้รับการตอบรับอย่างดีเช่นที่ผ่านมา ทั้งสามารถครองส่วนแบ่งตลาดที่สูงยิ่งขึ้น ที่สำคัญไปกว่านั้น เรามุ่งหวังว่า HILUX จะยังคงเป็นรถที่สร้างรอยยิ้มไปพร้อมๆกับช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้สมกับที่ได้การขนานนามว่า “รถกระบะมหาชน”

นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่าHilux Generation เกิดขึ้นจากการที่รถกระบะ HILUX ของเราอยู่เคียงข้างและครองใจคนไทยมาอย่างยาวนาน และครอบคลุมทุกการใช้งานของคนไทย ด้วยยอดจำหน่ายรถกระบะของโตโยต้ากว่า 14,233 คัน คิดเป็น 46.8% ในเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ ของส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มรถกระบะ สะท้อนให้เห็นว่าโตโยต้านั้นยังเป็นคำตอบสำหรับลูกค้าได้ทุกกลุ่ม ตั้งแต่​กลุ่มการเน้นการใช้งานบรรทุกหนักจากรุ่น HILUX CHAMP ที่ได้เปิดตัวล่าสุดไปเมื่อปลายปี 2566 เพื่อเน้น​การใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างรุ่น HILUX REVO Pre-runner รวมทั้งรุ่น HILUX REVO Z Edition กระบะตัวเตี้ยใช้งานได้หลากหลาย หรือตกแต่งตามกระแสนิยม​ไปจนถึงการใช้งานระดับ high performance กับรุ่น HILUX REVO GR-Sport ​

กระบะ HILUX ได้รับความไว้วางใจและการขนานนามจากกลุ่มลูกค้ามาอย่างสม่ำเสมอว่าเป็น King of off-road ด้วยชื่อเสียงจากสมรรถนะอันเป็นเลิศของระบบการขับเคลื่อน 4×4 ประกอบกับเครื่องยนต์ที่มีพลกำลังและเทคโนโลยีในการขับขี่รอบด้าน ทำให้กระบะ HILUX มีความทนทานพร้อมรับทุกความท้าทายจากทุกวิถีแห่งการใช้งาน และในครั้งนี้ โตโยต้าได้แนะนำ รถกระบะ Hilux Revo GR-Sport 4×4 ใหม่เพื่อตอบสนองลูกค้ากลุ่มพรีเมี่ยมที่ชื่อชอบการใช้งานกระบะสมรรถนะสูง และ ตอกย้ำว่าโตโยต้าเป็นเจ้าตลาดด้านการพัฒนารถกระบะมาอย่างต่อเนื่อง”

นายศุภกร เล่าถึงเรื่องราวของการปรับปรุงรุ่น Prerunner ว่า “เราได้ตอกย้ำจุดขายกระบะไลฟ์สไลต์คนเมือง สำหรับออกไปทำกิจกรรมต่างๆ พร้อมสื่อสารเรื่องช่วงล่าง Superflex suspension ที่นุ่มสบายเพราะถูกปรับมาให้เหมาะกับการใช้งานในเมือง เพื่อเป็นการตอบโจทย์กลุ่มผู้ใช้งานของรถกระบะยกสูงซึ่งส่วนใหญ่ใช้งานเป็นรถในชีวิตประจำวัน ขับอยู่ในเมือง และมองหารถใช้งานในชีวิตประจำวัน ที่ขับขี่สะดวกสบาย มีฟังก์ชั่นแบบพรีเมียม และสามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตเชิงไลฟ์สไตล์ได้ เช่น การท่องเที่ยว จึงเป็นที่มาของคอนเซ็ปต์ “ให้คุณใช้ชีวิตได้มากกว่า” ซึ่งเราเน้นการสื่อสารแบบใช้งานจริงผ่านทุกช่องทาง เช่น อินฟลูเอนเซอร์ และออนไลน์คอนเทนต์ต่าง ๆ ที่ทำให้เห็นว่ารถกระบะนั้นก็สามารถใช้งานเป็นรถยนต์นั่งส่วนตัวได้อย่างสะดวกสบายและช่วยเสริมภาพลักษณ์ที่หรูหราได้เช่นกัน”

คุณอัญญารัตน์ กล่าวเพิ่มเติมถึงการปรับปรุงรุ่น Smart Cab และรุ่น Z Edition ว่า เราเห็นถึงความสำเร็จในดีไซน์ของรุ่น Hilux REVO-D ยกสูงที่มีรูปลักษณ์พรีเมี่ยม เป็นที่ถูกใจลูกค้าชาวไทยกลุ่มใช้งานส่วนบุคคล และจากการที่โตโยต้าลงพื้นที่พูดคุยกับผู้ใช้จริงทุกกลุ่มมาอย่างต่อเนื่องนั้น เราได้รับเสียงเรียกร้องจากลูกค้าในรุ่นสมาร์ทแค็บยกสูง ว่าอยากได้รูปลักษณ์แบบ REVO-D ยกสูง เราจึงขยายดีไซน์ลงมาในสมาร์ทแค็บยกสูงทุกเกรด เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์มีความเป็นใช้งานส่วนบุคคุลมากขึ้น และสร้างความภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าของมากขึ้น

ส่วนในตระกูล Z Edition เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าคนไทยที่มีเอกลักษณ์การใช้งานกระบะขับเคลื่อนสองล้อที่ไม่เหมือนใครในตลาดโซนเอเชียซึ่งเป็นการใช้งานเชิงพาณิชย์เป็นหลัก โดยลูกค้าคนไทยนั้นนิยมใช้งานเพื่อการขับขี่เป็นรถส่วนตัว ความต้องการเรื่องเอกลักษณ์ของรูปลักษณ์ภายนอกเป็นสิ่งสำคัญ อีกทั้งกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งเป็นลูกค้าวัยรุ่น ยังมีความชื่นชอบในการตกแต่ง ปรับจูนรถ เพื่อทำให้รถตอบสนองการความต้องการ และ แสดงตัวตนผ่านการตกแต่งรถด้วยอุปกรณ์ตกแต่งที่มีในท้องตลาด ​ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทางทีมออกแบบและพัฒนาจึงได้ทำให้รถกระบะเพื่อการใช้งานกลายเป็นรถกระบะสปอร์ตที่ผสมผสานระหว่างความโฉบเฉี่ยว แต่ดูเรียบหรู ด้วยราคาที่จับต้องได้ และพร้อมที่จะต่อยอดตกแต่งเพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ และ แสดงความเป็นตัวตนของลูกค้าแต่ละท่าน ​ยิ่งไปกว่านั้น เราได้เพิ่มสเปคเรื่องความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นไฟตัดหมอกในรุ่นMID และ ระบบ VSC ที่มาพร้อมกับ HAC ในทุกรุ่นของ Z Edition อีกด้วย

2
สุดยอดแห่งรถกระบะสมรรถนะสูง

คุณอัญญารัตน์ สุทธิเบญจกุล หัวหน้าวิศวกรระดับภูมิภาค บริษัท โตโยต้า ไดฮัทสุ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด​ กล่าวเพิ่มเติมถึงแนวคิดการปรับปรุงใหม่ของ HILUX REVO GR-Sport Wide Tread ว่า “HILUX REVO GR Sport 4×4 เป็นรถที่ออกแบบและพัฒนา ภายใต้วิสัยทัศน์ “Making Ever-better Motorsports-bred Cars” ด้วยความมุ่งหวังให้เป็นมากกว่าแค่รถกระบะเพื่อการใช้งาน แต่เป็นรถที่จะร่วมสร้างประสบการณ์ใหม่ๆให้กับลูกค้าที่ชื่นชอบการขับขี่และการผจญภัย Hilux REVO GR Sport 4×4 จะเพิ่มความสนุกในการขับขี ทีมพัฒนาได้เพิ่มขีดจำกัดในการขับขี่ ทั้งบนถนนทางเรียบ (ออนโรด) และ ทางขรุขระที่มีอุปสรรคธรรมชาติ (ออฟโรด)

Hilux REVO GR Sport 4×4 ถูกพัฒนา มีการปรับความสูงและความกว้างของรถ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการข้ามผ่านอุปสรรคบนถนนออฟโรด และยังเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่บนถนนทางเรียบ อีกทั้งเครื่องยนต์ได้ถูกพัฒนาเพิ่มกำลังเพื่อเพิ่มความสนุกและการตอบสนองในการขับขี่ ในส่วนของดีไซน์ Hilux REVO GR Sport 4×4 มาพร้อมกับการออกแบบที่ผสมผสานระหว่างแรงบันดาลใจจากสนามแข่ง rally และ รูปลักษณ์ที่สปอร์ตทั้งภายนอก และ ภายในตามคอนเซปต์ของ Gazoo Racing ที่มาคู่กับความสมดุลตามหลักอากาศพลศาสตร์

 

Highlight ของ Hilux REVO GR Sport 4×4

  1. ดีไซน์ภายนอก Hilux REVO GR Sport 4×4 ได้รับการออกแบบให้มีความเป็นรถกระบะออฟโรด DAKAR Rally ออกแบบให้มีทั้งการป้องกันในการก้าวข้ามอุปสรรค ในขณะเดียวกันก็จัดการเรื่องอากาศพลศาสตร์ได้อย่างดี จุดเด่นคือดีไซน์ใหม่ทั้งด้านหน้าและด้านหลังพร้อมตัวถังขนาดกว้างขึ้นและสูงขึ้น มิติองศาด้านหน้าเชิดขึ้น 20 มิลลิเมตร ก้าวข้ามขีดจำกัดในเส้นทางออฟโรดได้ดียิ่งขึ้น
  2. สมรรถนะเครื่องยนต์ Hilux REVO GR Sport 4×4  ใหม่นี้ ยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2.8 ปรับจูนใหม่ แรงขึ้น 10% กำลังสูงสุด 224 แรงม้า (165 กิโลวัตต์) แรงบิด 550 นิวตัน/เมตร พร้อมเกียร์ที่ตอบสนองได้เร็วขึ้น สอดรับกับกำลังเครื่องยนต์เป็นอย่างดี พร้อมโหมดสปอร์ตที่ปรับจูนมาเฉพาะรุ่น
    Hilux REVO GR Sport 4×4  รีดกำลังเครื่องยนต์ได้ดียิ่งขึ้น ขับสนุกได้ทุกเส้นทาง
  3. ระบบช่วงล่าง มีการปรับปรุงให้มีระยะฐานล้อหน้ากว้างขึ้น 140 มิลลิเมตร ด้านหลัง 155 มิลลิเมตร ช่วยให้เกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น ความสูงจากพื้นเพิ่มขึ้น 37 มิลลิเมตร นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาระบบโช้คอัพหน้ากระบอกเดี่ยว (Monotube) พร้อมปรับจูนคอยน์สปริง ระบบโช้คอัพหลังพร้อมแหนบแบบนุ่ม เบรกหลังพัฒนาจากดรัมเบรคเป็นดิสเบรก ตกแต่งด้วยคาลิปเปอร์สีแดง เพิ่มความสปอร์ตให้
    กับรถ ล้ออัลลอยด์ 17 นิ้ว มาพร้อมกับยาง BF Goodrich All terrain 265/65R17

ดีไซน์ภายใน อัพเกรดให้ความรู้สึกพรีเมียมมากขึ้น ในห้องโดยสารที่มีธีมสีดำทั้งคัน เบาะวัสดุหนังกลับ (Suede) กระชับตัวผู้ขับขี่ได้ดีขึ้น ดีไซน์สอดรับกับสมรรถนะความเป็นรถแข่ง โทนสีดำภายในตัดด้วย เซนเซอร์มาร์กและเข็มขัดนิรภัยสีแดง อัดแน่นด้วยอุปกรณ์เสริมความสะดวกสบาย อาทิ จอกลางคอนโซลขนาด 10.25 นิ้ว พร้อม Wireless Apple Carplay & Android Auto แท่นชาร์ตโทรศัพท์แบบไร้สาย

 

- Advertisment -

Must Read