กรุงเทพฯ, 31 มีนาคม 2568 : เมื่อเร็วๆ นี้ นายจิระพล รุจิวิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทในเครือ ไพรม์มัส กรุ๊ป พร้อม นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ นายสุโรจน์ แสงสนิท นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย ให้เกียรติร่วมกล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ และเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ Eco-Exploration Trip ครั้งที่ 2 เส้นทางกรุงเทพฯ – จังหวัดจันทบุรี อย่างเป็นทางการ ณ โชว์รูมและศูนย์บริการ Mercedes-Benz ไพรม์มัส ออโต้เฮาส์ สาขาเลียบด่วน-เอกมัยรามอินทรา
สำหรับโครงการ Eco-Exploration Trip เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยรถยนต์ไฟฟ้า ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสร้างการตระหนักถึงประโยชน์ของเทคโนโลยียานยนต์สะอาด ทั้งเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่นอีกด้วย ที่สำคัญ เพื่อเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่และส่งเสริมการท่องเที่ยวแนวรักษ์โลก ด้วยยานยนต์ไฟฟ้าให้แก่ลูกค้ารถยนต์ ในเครือไพรม์มัส กรุ๊ป โดยกิจกรรมครั้งนี้ มีรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเข้าร่วมกว่า 40 คัน
ในวันแรก เริ่มต้นด้วยการนัดสมาชิกรวมพลกันที่โชว์รูม “เบนซ์ไพรม์มัส” สาขาเลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา เพื่อลงทะเบียนรับ Snack Box เติมพลังก่อนเดินทางสู่จังหวัดจันทบุรี พร้อมเริ่มเข้าสู่พิธีการ ด้วยการเชิญผู้บริหารจาก ไพรม์มัส กรุ๊ป, ททท. และสมาคมยานยนต์ไฟฟ้า กล่าวต้อนรับอย่างเป็นทางการ ต่อด้วยการชี้แจงเส้นทางและรายละเอียดของกิจกรรม จากนั้นผู้บริหารทั้ง 3 ท่าน ร่วมพิธีเปิดโครงการ และตีธงปล่อยขบวนคาราวานรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเป็นทางการ
จุดแรก มุ่งหน้าสู่อนุสรณ์เรือรบหลวงประแส ชมเรือรบหลวงและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของราชนาวีไทยในการเข้าร่วมสงครามเกาหลี พร้อมสัมผัสธรรมชาติที่สวยงามโดยรอบของแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นสัญลักษณ์ของชุมชนแห่งนี้ นอกจากเพลินเพลินกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิดแล้ว เรายังได้ร่วมทานอาหารในแบบบุฟเฟ่ต์กับร้านอาหารทะเล “ริมเล” ร้านอาหารชื่อดังของปากน้ำประแส จัดเต็มด้วยเมนูอาหารทะเลที่คัดสรรวัตถุดิบ กุ้ง หอย ปู ปลา มาจากชาวประมงโดยตรง มาพร้อมรสชาดอาหารจัดจานชนิดที่ต้องยกนิ้วให้กันทีเดียว
หลังจากอิ่มหน่ำสำราญกันเรียบร้อย เราได้ออกเดินทางอีกครั้งกับเส้นทางสายสั้นๆ เพื่อมุ่งหน้าสู่ “ทุ่งโปรงทอง” ป่าชายเลน ที่เกิดจากความร่วมมือร่วมใจของเทศบาลและชาวบ้าน ในการฟื้นฟูต้นไม้และระบบนิเวศ จนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ยอดนิยมของจังหวัดระยอง โดยเปลี่ยนจากขับรถมานั่งรถพวงข้าง เพื่อเดินทางไปยังท่าเรือแสมผู้ นั่งเรือหางยาวล่องไปตามคลองแสมผู้ ที่มีความยากว่า 3 กม.สัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านริมลอง ก่อนลัดเลาะไปตามป่าชายเลน ชมทัศนียภาพที่สวยงามแปลกตาของต้นโกงกาง ต้นแสม ต้นลำพู ที่อุดมสมบูรณ์ และเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเล กุ้ง หอย ปู ปลาตีน ทั้งสัมผัสธรรมชาติของท้องทะเลอ่าวไทย
จากนั้น เรือได้แล่นวกกลับสู่ท่าเรือ แวะสักการะศาลเจ้าพ่อแสมผู้ และเดินลัดเลาะไปยังสะพานไม้ที่ทอดยาวกว่า 2 กม. พาดผ่านกลางทุ่งโปรง ที่มีสีทองอร่ามกว้างใหญ่แบบสุดลูกหูลูกตา และป่าโกงกาง ที่มีต้นโกงกาง ตะบูน ลำพู และแสม พร้อมเดินขึ้นไปที่หอชมวิว มีความสูงไม่มากนัก สามารถปีนขึ้นไปได้อย่างสบายๆ เมื่อขึ้นไปชั้นบนสุด จะได้เห็นภาพมุมสูงของคลองแสมผู้และป่าโกงกางที่สวยงามตระการตาในแบบพาโนรามา ก่อนมุ่งหน้าเดินทางสู่ที่พักริมทะเล “เป๊กกี้ โคฟ รีสอร์ท : Peggy’s Cove Resort” ที่ตกแต่งสไตล์หมู่บ้านชาวประมง บนหาดคุ้งวิมาน เพื่อเช็คอินน์ แยกย้ายสู่ห้องพัก เล่นน้ำและพักผ่อนตามอัธยาศัย
ในงานเลี้ยงยามค่ำคืน บรรยากาศเต็มไปด้วยสีสันสไตล์ Pool Party ทางทีมผู้บริหารของภาครัฐและเอกชน ได้พูดคุยและเสวนาเรื่องยานยนต์ไฟฟ้าในไทย จากนั้นเข้าสู่โหมดความสนุกสนานกับมินิคอนเสิร์ตจาก 3 หนุ่มสาวเอเนอร์จีแรงส์ “ออน-เอ๊ะ-แมน” ของวงละอองฟอง ที่สร้างความครึกครื้น และเพลิดเพลินด้วยเพลงในสไตล์ต่างๆ พร้อมชวนผู้ร่วมทริปร้องเพลงและเต้นตามกันแบบไม่มีใครยอมใคร จนต้องยกกล้องขึ้นถ่ายรูปเพื่อเก็บเป็นที่ระลึก ก่อนที่จะปิดงานกันแบบมีความสุขและเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
วันรุ่งขึ้น หลังจากเต็มอิ่มกับอาหารเช้าจาก เป๊กกี้ โคฟ รีสอร์ท ได้นัดรวมพลและเริ่มเดินทางกันอีกครั้ง สู่ “อู่ต่อเรือพระเจ้าตากสิน” บ้านเสม็ดงาม เพื่อกราบสักการะขอพรพระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระเจ้าตากสิน และชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ซึ่งสันนิฐานว่า เป็นจุดเริ่มต้นของการกอบกู้แผ่นดินกรุงศรีอยุธยา โดยหลังจากที่พระเจ้าตากสิน ตีเมืองจันทบุรีสำเร็จแล้ว ได้ใช้พื้นที่แห่งนี้เป็นอู่ต่อเรือร่วม 100 ลำ เพื่อยกทัพไปตีพม่าและกอบกู้เอกราชของชาติไทย เมื่อ พ.ศ.2310
ทั้งยังเป็นย่านการค้าทางทะเลและเป็นแหล่งต่อเรือสำเภาที่สำคัญของไทยในอดีต เมื่อกรมศิลปากร ได้ขุดค้นพบไม้ตะเคียนทอง เรือสำเภาโบราณ ที่มีลักษณะคล้ายเรือสำเภาจีน “ฟูเจี้ยน” และเรือขุดโบราณ พร้อม
เศษภาชนะ ขวานเหล็ก ถ้วยชามจีนต่างๆ โดยนำมาเก็บรวบรวมและจัดแสดงไว้ที่ “พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นอู่ต่อเรือพระเจ้าตาก”
จากนั้นได้ร่วมทานอาหาร ที่ “ร้านครัวเจ๊ต้อย” เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารที่ขึ้นชื่อของจันทบุรี ที่มีเมนูให้เลือกหลากหลาย พร้อมคัดสรรแต่ละเมนูด้วยอาหารทะเลที่สดใหม่ และรสชาติอร่อยในสไตล์คนเมืองจันทร์ ท่ามกลางบรรยากาศที่โปร่งสบาย ติดริมแม่น้ำจันทบุรี ก่อนเดินทางกลับและจบทริปการท่องเที่ยว Eco-Exploration Trip ครั้งที่ 2 กรุงเทพฯ – จันทบุรี ด้วยความประทับใจและสุขใจกับการท่องเที่ยวกับยานยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม…
——————- เรื่องรถ ให้ ไพรม์มัส ดูแล ——————-