- ซัมซุงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ Gen MZ ด้วย Galaxy S24 Series ที่ติดอาวุธสำคัญด้วย Galaxy AI
- พร้อมปรากฎการณ์ความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่กับยอดพรีออเดอร์ในไทยสูงเป็นอันดับที่ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย สูงกว่า Galaxy S23 Series ถึง 200%
กรุงเทพ, ประเทศไทย – 2 กุมภาพันธ์ 2567 – AI Phone ไม่ใช่อนาคตอีกต่อไป เมื่อซัมซุงทำให้กลายเป็นปัจจุบันกับการเปิดตัวล่าสุดของ Galaxy S24 Series โทรศัพท์ที่ผสานเทคโนโลยี AI สุดล้ำ กับ ‘Galaxy AI’ ที่ได้นำเสนอประสบการณ์การใช้งานที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป พร้อมกำหนดมาตรฐานใหม่ในวงการโทรศัพท์มือถือทั่วโลกโดยสะท้อนถึงซัมซุงที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง พร้อมตอบพฤติกรรมผู้ใช้ในยุคปัจจุบันที่นำ AI มาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ตอกย้ำการเป็นผู้นำนวัตกรรมด้วยยอดการสั่งซื้อ Galaxy S24 Series ล่วงหน้าป็นประวัติการณ์สูงกว่า Galaxy S23 Series ถึง 200%
การเติบโตของตลาด AI ทั่วโลก มีการเติบโตขึ้นเป็นอย่างมากโดยมีการคาดการณ์ว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในตลาดโลกรวมถึงในประเทศไทย โดยการเติบโตของ Generative AI ทั่วโลกคาดว่าจะมีมูลค่ากว่า 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2575[1] และในปัจจุบัน Chat GPT มีผู้ใช้มากกว่า 180.5 ล้านคน[2] โดยขนาดตลาด Generative AI ของประเทศไทยคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตรายปีที่ 23.46% ซึ่งส่งผลให้มูลค่าตลาดอยู่ที่ 1,084 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2573[3]
โดยมากกว่า 1 ใน 3 หรือ 35% ของผู้บริโภคในประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะใช้ AI ทั้งใช้กับชีวิตส่วนตัวและใช้เกี่ยวกับการทำงาน[4]
ในยุคที่โลกถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นด้านเทคโนโลยี AI ได้กลายเป็นหัวข้อสำคัญที่ไม่สามารถมองข้ามได้ ไม่เพียงแค่ปฏิวัติวงการเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนแปลงวิธีที่ใช้ชีวิตและการทำงานในปัจจุบันอีกด้วย โดยเทรนด์หลักของ AI ในปี 2024 ที่น่าสนใจโดยแบ่งเป็น 5 เทรนด์ดังนี้
เทรนด์ที่ 1: Generative AI เป็นการใช้ AI ในการสร้างคอนเทนต์ใหม่ๆ ได้หลากหลาย ตั้งแต่ข้อความไปจนถึงดนตรี มีแนวโน้มว่าปี 2569 องค์กรต่างๆ มากกว่า 80% จะนำ Generative AI ในการดำเนินงาน
ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมที่น้อยกว่า 5% ในปัจจุบัน[5]
เทรนด์ที่ 2: BYOAI หรือ Shadow AI เป็นแนวโน้มใหม่ในที่ทำงานโดยพนักงานนำ AI ของตนเองเข้ามาใช้ในการทำงาน เกิดจากเครื่องมือ AI ที่ใช้งานง่ายและราคาไม่แพง โดยผลการรายงานจาก Forrester ระบุว่า
‘60% ของพนักงานจะใช้ AI มาช่วยทำงานในด้านต่างๆ มากขึ้น’[6]
เทรนด์ที่ 3: แอปพลิเคชั่นอัจฉริยะด้วย AI เฉพาะบุคคล ในปี 2569 1 ใน 3 ของแอปพลิเคชั่นทั้งหมดจะใช้ AI เพื่อสร้างอินเตอร์เฟชให้ผู้ใช้ได้ปรับแต่งเฉพาะบุคคลได้[7]
เทรนด์ที่ 4: AI สำหรับการเขียนโค้ด งานบางอย่างถูกโยนไปให้ AI แก้ปัญหา หนึ่งในนั้นคือการเขียนโปรแกรม โดย Gartner ระบุว่า ‘ภายในปี 2571 บริษัทซอฟแวร์จะใช้ AI มาช่วยในการเขียนโค้ดจาก 3 ใน 4 ของบริษัททั้งหมด ซึ่งในปี 2566 พบว่ามีเพียง 1 ใน 10 เท่านั้น’[8]
เทรนด์ที่ 5: การค้นหาออนไลน์ด้วย AI ซึ่ง AI ปรับปรุงการค้นหาออนไลน์โดยให้ตรงกับความชอบของผู้ใช้ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องและแม่นยำมากยิ่งขึ้น หรือการค้นหาแบบสนทนาเพื่อให้การตอบโต้กับเครื่องมือ
การค้นหาได้อย่างธรรมชาติและรวมไปถึงการค้นหาด้วยภาพหรือวิดีโอ
ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือได้พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง โดยซัมซุงได้ก้าวข้ามขีดจำกัดด้วยการเปิดตัว Galaxy S24 Series เพื่อมอบประสบการณ์ AI ที่ดีที่สุดจาก Galaxy AI ซัมซุงได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ซึ่งประกอบไปด้วยชิปเซ็ตที่มีประสิทธิภาพสูง พร้อมกับแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นาน ทั้งยังยกระดับระบบจัดการความร้อนด้วย Vapor Chamber อีกทั้งยังผสานและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วย AI สำหรับฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ พร้อมประสบการณ์การใช้งานกล้องสุดอัจฉริยะด้วย ProVisual Engine ที่จะช่วยยกระดับการบันทึกภาพและมาช่วยเสริมความสร้างสรรค์ถึงขีดสุดในทุกขั้นตอน รวมไปถึงการเสริมพลังด้วย AI ที่ดีที่สุด
ซัมซุงได้ทำงานร่วมกับผู้นำทางด้าน AI อย่าง Google และ Microsoft โดยใช้ AI มาพัฒนาเทคโนโลยีในด้านต่างๆเช่น Circle to Search ที่สามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการได้โดยไม่ต้องสลับแอปพลิเคชันซึ่งเปิดตัวครั้งแรกใน Galaxy S24 Series นอกจากนี้ยังซัมซุงยังทำงานร่วมกับ LLM โซลูชั่นที่มอบประสบการณ์การใช้ AI ด้วยฟีเจอร์หลัก เช่น Live Translate,Voice Recorder, Samsung Notes และอื่นๆ โดย LLM จะเปิดให้มีประสบการณ์ AI มากยิ่งขึ้นบน Galaxy S24 Series
นอกจากนี้ซัมซุงยังได้พัฒนาด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ Galaxy S24 Series ทั้งการตั้งค่าขั้นสูงด้วย AI ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตัดสินใจเกี่ยวกับการประมวลผลของ AI แบบเต็มรูปแบบได้จากทางออนไลน์ แดชบอร์ดความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว โดยซัมซุงได้พัฒนาแดชบอร์ดนี้เพื่อให้ผู้ใช้เข้าใจได้ง่ายว่าแอปใดกำลังเข้าถึงตำแหน่งที่ตั้ง ข้อมูล หรือกล้อง จากนั้นสามารถปิดการอนุญาตได้เองทันทีเพียงคลิกเดียว ไปจนถึงการใส่ลายน้ำ Metadata โดยนวัตกรรมนี้รับประกันว่าผู้ใช้สามารถแชร์รูปภาพได้อย่างปลอดภัยไม่เสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูลส่วนตัว มากไปกว่านั้น Galaxy S24 Series ยังได้รับการป้องกันด้วย Samsung Knox Metrix ซึ่งให้การเข้ารหัสและเชื่อมต่อคลาวด์อย่างปลอดภัย รวมถึง Knox Vault, Auto Blocker, Secure Wi-Fi, Private Share เพื่อปกป้องผู้ใช้งานจากอาชญากรรมทางไซเบอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเปิดตัวของ Galaxy S24 Series ไม่เพียงแค่เป็นการเปิดฉากใหม่ของอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงที่สามารถเห็นถึงการใช้เทคโนโลยี AI ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ Gen MZ ที่เป็นผู้ใช้งาน AI โดย Galaxy S24 Series ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความสนใจและความต้องการของ Gen MZ จากการวิจัยเกี่ยวกับความสนใจของผู้บริโภค Gen MZ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย[9] แสดงให้เห็นว่าพวกเขามีความสนใจหลากหลายด้าน โดยอาหารเป็นสิ่งที่ได้รับความสนใจมากที่สุดที่ 77% ตามมาด้วยการเดินทาง 68%, ดนตรี 58%,เกม 53%, แฟชั่น/ความงาม 46%, กีฬา 35% และ K-Wave 27% ซึ่ง Galaxy S24 Series มีฟีเจอร์ AI ที่ตอบความต้องการและความสนใจในทุกจุดของ Gen MZ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของซัมซุง ไม่ว่าจะเป็น ฟีเจอร์เพื่อการสื่อสารที่ไร้พรมแดน อาทิ Live Translate และ Interpreter, มาตรฐานใหม่ของการค้นหาสิ่งต่างๆ อย่าง Circle to Search, การแก้ไขภาพถ่ายด้วย Photo Assist, หรือฟีเจอร์ที่ช่วยในการทำงานและหาข้อมูล ไม่ว่าจะเป็น Transcript Assist, Note Assist และ Browing Assist
“ซัมซุงได้สร้างปรากฎการณ์ความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในตลาดโทรศัพท์มือถือด้วยการเปิดตัว Galaxy S24 Series ที่ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเท่านั้น แต่ยังได้รับความนิยมและการตอบรับอย่างท่วมท้นจากผู้บริโภคด้วยยอดการสั่งจองล่วงหน้ากว่า 200% เมื่อเทียบกับรุ่น Galaxy S23 Series และสูงสุดเป็นเป็นอันดับที่ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย ซึ่ง 1 ใน 4 ของยอดพรีออเดอร์นั้นมาจากแบรนด์คู่แข่ง นอกจากผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีก้าวล้ำโดนใจผู้บริโภคแล้ว ซัมซุงยังทุ่มเต็มที่ในการจัดกิจกรรมทางการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้ สร้างประสบการณ์ และสร้างกระแสเกี่ยวกับ Galaxy S24 Series เริ่มจาก VDO Mapping ที่หัวลำโพงที่เป็นทีเซอร์พร้อมกับการเคาท์ดาวน์สู่งาน Galaxy Unpacked ตามมาด้วยการเปิด Galaxy Experience Space ที่เซ็นทรัลลาดพร้าวซึ่งเป็นพื้นที่ที่เปิดให้ผู้บริโภคได้มาทดลองใช้ผลิตภัณฑ์หลังจากเพิ่งเปิดตัวที่งาน Galaxy Unpacked โดยประเทศไทยเป็น 1 ใน 8 ประเทศทั่วโลกที่ได้รับเลือกให้จัดงาน ตามมาด้วยงานอีเวนท์เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่หน้าลานเซ็นทรัลเวิลด์ที่ยิ่งสร้างกระแสให้พูดถึงผลิตภัณฑ์มากขึ้น ประกอบกับการใช้อินฟลูเอ็นเซอร์ที่กำลังเป็นกระแสถูกพูดถึงทั่วประเทศสร้างความสนใจให้กับเหล่า Gen MZ นอกจากนี้ซัมซุงยังจัดโปรโมชั่นพรีออเดอร์ที่ดึงดูด ทำให้ผู้บริโภคสนใจสั่งซื้อล่วงหน้าเป็นจำนวนมากตลอดจนนำเครื่องเก่ามาแลกเครื่องใหม่ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ได้รับผลตอบรับดีมาก” นายสิทธิโชค นพชินบุตร รองประธานองค์กร ธุรกิจโมบายล์ เอ็กซ์พีเรียนซ์ กล่าวถึงความสำเร็จของการเปิดตัว Galaxy S24 Series ในเมืองไทย
[1] https://www.bloomberg.com/company/press/generative-ai-to-become-a-1-3-trillion-market-by-2032-research-finds/
[2] https://explodingtopics.com/blog/chatgpt-users
[3] https://www.statista.com/outlook/tmo/artificial-intelligence/generative-ai/thailand
[4] https://www.publicissapient.com/content/dam/guide-to-next/2024/pdf/GenAI-Infographic-PR.pdf
[5] https://www.gartner.com/en/newsroom/press-releases/2023-10-11-gartner-says-more-than-80-percent-of-enterprises-will-have-used-generative-ai-apis-or-deployed-generative-ai-enabled-applications-by-2026
[6] https://www.forrester.com/what-it-means/ep344-2024-ai-predictions/
[7] https://www.gartner.com/en/articles/demand-grows-for-intelligent-applications-powered-by-ai
[8] https://www.gartner.com/en/articles/gartner-top-10-strategic-technology-trends-for-2024
[9] Samsung SEAO Consumer Insight Research 2024