ระยอง ประเทศไทย, 3 ธันวาคม 2568 – บริษัท ออโต้ อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ เอเอที โรงงานร่วมทุนฟอร์ดและมาสด้า ฉลองการดำเนินงานในประเทศไทยครบ 30 ปี พร้อมตอกย้ำบทบาทสำคัญในการเป็นหนึ่งในผู้ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยด้วยเทคโนโลยีให้ก้าวหน้าด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ภายใต้นโยบาย ‘One AAT’ ที่หลอมรวมความเป็นหนึ่งเดียวของพนักงานทุกคนสู่ความเป็นเลิศ

3 ทศวรรษแห่งความภาคภูมิใจและรากฐานอันแข็งแกร่ง
นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2538 ในฐานะบริษัทร่วมทุนระหว่างฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี และมาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น เอเอทีได้สร้างประวัติศาสตร์เป็นโรงงานผลิตยานยนต์แบบครบวงจรที่ทันสมัย ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยตลอดสามทศวรรษที่ผ่านมา เอเอทีไม่เพียงเป็นโรงงานผลิตรถยนต์ที่มีบทบาทสำคัญในการวางมาตรฐาน และยกกระดับคุณภาพในการผลิตรถยนต์ แต่ยังเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบันนี้ ฟอร์ด และ มาสด้า มีการลงทุนที่เอเอที อย่างต่อเนื่อง สร้างงานให้กับพนักงานกว่า 5,400 คน และยกระดับทักษะแรงงานไทยสู่มาตรฐานสากล การจัดซื้อชิ้นส่วนภายในประเทศในสัดส่วนสูงถึง 67% ยังเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการในประเทศไทยและสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างเป็นรูปธรรม ความสำเร็จอันน่าภาคภูมิใจนี้ยืนยันด้วยยอดการผลิตรถยนต์สะสมมากกว่า 4 ล้านคัน ซึ่งเป็นเครื่องตอกย้ำถึงบทบาทสำคัญของเอเอทีในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางยานยนต์ชั้นนำระดับโลก
‘ฝีมือการผลิต’ หัวใจขับเคลื่อนสู่ความเป็นเลิศระดับโลก
เอเอทียึดมั่นในปรัชญา ‘ฝีมือและทักษะในการผลิต’ (craftsmanship) ที่เชื่อว่าพนักงานคือหัวใจของกระบวนการผลิตรถยนต์ พนักงานแต่ละคนไม่ใช่เพียงผู้ปฏิบัติงาน แต่คือ ‘ผู้สร้างสรรค์’ ที่ประกอบรถยนต์ทุกคันด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียดด้วยทักษะความเชี่ยวชาญและความมุ่งมั่น ทำให้รถยนต์ทุกคันที่ออกจากสายการผลิตของเอเอทีมีคุณภาพมาตรฐานระดับโลก
ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา เอเอทีเติบโตอย่างมั่นคง พร้อมกับการพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน ทีมผู้บริหารหลักในทุกหน่วยงานของเอเอทีล้วนเป็นคนไทย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการพัฒนาศักยภาพและความสามารถของคนไทยให้ก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำในระดับสากล และความเชื่อมั่นที่ทั้งฟอร์ด และมาสด้ามีต่อบุคลากรชาวไทยในการขับเคลื่อนเอเอทีให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน
ศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ระดับโลกและวิสัยทัศน์แห่งอนาคต
เอเอทีเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของทั้งฟอร์ดและมาสด้า ในการผลิตรถกระบะ ฟอร์ด เรนเจอร์ รถยนต์นั่งอเนกประสงค์ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ พร้อมทั้งรถยนต์นั่งที่ได้รับความนิยมอย่าง Mazda2 Mazda CX – 3 และ Mazda CX – 30 และยังได้ส่งออกรถ Mazda CX – 3 ไปขายในตลาดประเทศญี่ปุ่น โดยนอกจากเอเอทีจะเป็นโรงงานเดียวในโลกที่ผลิตฟอร์ด เอเวอเรสต์ เพื่อขายในประเทศและส่งไปจำหน่ายมากกว่า 100 ประเทศทั่วโลกแล้ว ล่าสุดเอเอทียังได้รับความไว้วางใจจาก ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ให้เป็นโรงงานเดียวในโลกที่ผลิต ฟอร์ด เรนเจอร์ ซูเปอร์ ดิวตี้ รถกระบะที่ผสานความสามารถในการทำงานหนัก (Heavy Duty) เข้ากับความอเนกประสงค์สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการที่ประเทศออสเตรเลีย และกำลังจะเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในปีหน้า

“การฉลองครบรอบ 30 ปีของเอเอที เป็นการยกย่องพนักงานทุกคนที่ยึดมั่นใน ‘ฝีมือและทักษะในการผลิต’ เราภูมิใจที่คนไทยได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนองค์กรให้เป็นที่ยอมรับระดับสากล’ มร. ซิลวิโอ อิลลี ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออโต้อัล ลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว ‘เราขอขอบคุณซัพพลายเออร์และพันธมิตรทางธุรกิจทุกท่านที่ร่วมสร้างความสำเร็จนี้มาด้วยกัน เอเอทีจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อเป็นผู้นำในการผลิตรถยนต์คุณภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในอนาคต โดยลงทุนต่อเนื่องในการยกระดับบุคลากรให้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีขั้นสูง พร้อมยึดมั่นในหลักการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนและรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้ก้าวหน้าอย่างมั่นคง”


