ล่าสุดเจ.ดี.พาวเวอร์ เผยผลการศึกษาคุณภาพรถยนต์ใหม่ในประเทศไทย ประจำปี 2568 ชี้คนไทยรายงานปัญหาเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับเสียงรบกวนภายในรถ ระบบช่วยเหลือการขับขี่ (ADAS) และความรวดเร็วในการชาร์จแบตเตอรี่ ส่วนอีซูซุ เอ็มจี บีวายดีติดโผคว้ารางวัลยอดเยี่ยมประจำปีนี้ด้วย
กรุงเทพฯ : 24 พฤศจิกายน 2568 – เจ.ดี.พาวเวอร์ เผยผลการศึกษาคุณภาพรถยนต์ใหม่ในประเทศไทย ประจำปี 2568 (J.D. Power 2025 Thailand Initial Quality StudySM (IQS)) ในกลุ่มเจ้าของรถใหม่จำนวน 4,832 ราย ซึ่งซื้อรถระหว่างเดือนมกราคมถึงกันยายน 2568 โดยทำการสำรวจภาคสนามระหว่างเดือนมิถุนายนถึงตุลาคม 2568 ใน 22 เมืองใหญ่ทั่วประเทศไทย ครอบคลุมรถยนต์ 57 รุ่นจาก 15 แบรนด์ โดยจัดอันดับจากจำนวนปัญหาต่อรถยนต์ 100 คัน (PP100) ซึ่งคะแนนปัญหาน้อยแสดงถึงคุณภาพที่ดีกว่า
โดยผลสำรวจระดับคุณภาพรถยนต์ใหม่โดยรวมยังคงทรงตัวอยู่ที่ 177 ปัญหาต่อรถ 100 คัน (177 PP100) ซึ่งพบปัญหาเกี่ยวกับเสียงรบกวนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยผลกระทบจากปัญหาเสียงรบกวน ได้แก่ เสียงจากพื้นถนน 11 PP100 (เพิ่มขึ้น 1) เสียงลมเข้าห้องโดยสาร 6 PP100 (เพิ่มขึ้น 5) เสียงจาก ช่วงล่าง 3 PP100 (เพิ่มขึ้น 1) เสียงจากระบบกระจกไฟฟ้า 2 PP100 (เพิ่มขึ้น 1)
นอกจากปัญหาด้านเสียง ปัญหาจากการใช้งานยังปรากฏเพิ่มขึ้นในรถยนต์ทุกประเภท ทั้งรถยนต์พลังงานใหม่(NEV) รถยนต์เครื่องยนต์สันดาป(ICE) และรถยนต์ไฮบริด โดยเป็นปัญหาจากระบบช่วยขับขี่ชั้นสูง (ADAS) ที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้นจนกลายเป็นปัญหา ทั้งปัญหาการแจ้งเตือนบ่อย การแจ้งเตือนผิดจังหวะ หรือการทำงานที่สร้างความน่ารำคาญ นอกจากนั้นการชาร์จอุปกรณ์ภายในรถยังคงสร้างความกังวลให้กับเจ้าของรถยนต์ เนื่องจากพอร์ตชาร์จไม่เพียงพอ และความเร็วในการชาร์จที่ต่ำ
ในกลุ่มผู้ใช้รถที่ใช้พลังงานใหม่ (NEV) ปัญหาที่พบเด่นที่สุดยังคงเป็น ความเร็วในการชาร์จแบตเตอรี่รถ (ภายใต้หมวดแบตเตอรี่และการชาร์จ) เนื่องจากประสิทธิภาพการชาร์จจริงยังไม่สอดคล้องกับความคาดหวังของผู้บริโภค
“เมื่อเปรียบเทียบผลสำรวจทั้ง 2 ครั้งในปี 2025 ระหว่างรายงานฉบับที่ 1 ซึ่งทำการสำรวจช่วงที่อากาศแห้ง (เดือนธันวาคม 2567–กุมภาพันธ์ 2568) กับรายงานฉบับที่ 2 ซึ่งทำการสำรวจช่วงฤดูฝน (เดือนมิถุนายน–ตุลาคม 2568) พบความแตกต่างของปัญหาที่ลูกค้าพบอย่างชัดเจน”
นายไชยวัฒน์ เกษาพร ผู้จัดการโครงการอาวุโส และหัวหน้านักวิเคราะห์จาก ดิฟเฟอเรนเชียล ประเทศไทย กล่าวว่า “ในการสำรวจช่วงที่ 1 ซึ่งตรงกับฤดูการท่องเที่ยวปลายปี ผู้ร่วมโดยสารภายในรถมีจำนวนมากกว่าปกติ ทำให้เกิดปัญหาการแย่งใช้ช่องชาร์จอุปกรณ์พกพาภายในรถ ขณะที่การสำรวจช่วงที่ 2 ซึ่งเป็นฤดูฝน ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับระบบปัดน้ำฝน และไฟส่องสว่างมีแนวโน้มสูงขึ้นซึ่งสะท้อนถึงความจำเป็นที่ผู้ผลิตรถต้องติดตามความคิดเห็นอย่างต่อเนื่องเป็นระยะ เพื่อให้เห็นภาพรวมของคุณภาพผลิตภัณฑ์ในมุมผู้บริโภคได้อย่างครบถ้วน และนำไปสู่การปรับปรุงได้อย่างแม่นยำ”
สำหรับรุ่นรถที่ได้อันดับสูงสุดในด้านคุณภาพ
- กลุ่มรถยนต์ขนาดเล็ก (Compact Car) ได้แก่ โตโยต้า ยาริส เอทีฟ (165 PP100)
- กลุ่มรถยนต์ขนาดกลางระดับต้น (Entry Midsize Car) ได้แก่ ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี แฮทช์แบ็ก (170 PP100)
- กลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์สมรรถนะสูงขนาดเล็ก (Compact SUV) ได้แก่ ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี (174 PP100)
- กลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์สมรรถนะสูงขนาดใหญ่ (Large SUV) ได้แก่ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ (170 PP100)
- กลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ (MPV) ได้แก่ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ เอชอีวี (167 PP100)
- กลุ่มรถกระบะตอนเดียว (Pickup Single Cab) ได้แก่ อีซูซุ ดีแมคซ์ สปาร์ค (169 PP100)
- กลุ่มรถกระบะตอนขยาย (Pickup Extended Cab) ได้แก่ โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ สมาร์ทแค็บ และ โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ พรีรันเนอร์ สมาร์ทแค็บ ได้คะแนนเท่ากัน (181 PP100)
- กลุ่มรถกระบะสี่ประตู (Pickup Double Cab) ได้แก่ มิตซูบิชิ ไทรทัน พลัส ดี-แค็บ (169 PP100)
- กลุ่มรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV Car) ได้แก่ เอ็มจี 4 อิเล็กทริก (173 PP100)
- กลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์สมรรถนะสูงพลังงานใหม่ (NEV SUV) ได้แก่ บีวายดี แอตโต้ 3 (149 PP100)
“ในยุคที่อุตสาหกรรมยานยนต์มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จคือแบรนด์ที่สามารถผสานความคาดหวังของลูกค้าเข้าไปในขั้นตอนของการออกแบบและผลิต” นายอัตสึชิ คาวาฮาชิ ผู้อำนวยการอาวุโสของ เจ.ดี. พาวเวอร์ ประเทศญี่ปุ่น กล่าว
“การมีข้อมูลเชิงลึกที่เก็บรวบรวมอย่างต่อเนื่องและการขับเคลื่อนองค์กรด้วยข้อมูล อาทิ ผลการ ศึกษาเชิงเปรียบเทียบจาก IQS ร่วมกับข้อมูลการติดตามคุณภาพอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้ผู้ผลิตสามารถตรวจพบปัญหาได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และนำไปใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์รุ่นถัดไปได้อย่างตรงจุด และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น”
การศึกษาครั้งนี้ เจ.ดี.พาวเวอร์จัดทำการวิจัยความคาดหวังของผู้ใช้รถร่วมกับ ดิฟเฟอเรนเชียล โดยศึกษาในกลุ่มผู้ใช้รถเครื่องยนต์สันดาปภาพใน (ICE) รถไฮบริด (HEV, PHEV) และรถพลังงานใหม่ (NEV) ในหัวข้อ 1) ระบบปรับอากาศ 2) ระบบช่วยขับ 3) ประสบการณ์ในการขับขี่ 4) ภายนอกรถ 5) เครื่องยนต์/มอเตอร์ และระบบส่งกำลัง 6) ฟีเจอร์/ปุ่มควบคุม/หน้าจอ 7) ระบบอินโฟเทนเมนท์ 8) ภายในรถ และ 9) เบาะนั่ง
สำหรับรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) จะมีหมวดแบตเตอรี่และการชาร์จเพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งหมวด
เกี่ยวกับ เจ.ดี. พาวเวอร์
เจ.ดี. พาวเวอร์ เป็นผู้นำระดับโลกด้านข้อมูลและการวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยให้บริการข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจ ความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับผู้บริโภค และโซลูชันที่ปรึกษาสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เจ.ดี. พาวเวอร์ ใช้ฐานข้อมูลเฉพาะและซอฟต์แวร์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูงและปัญญาประดิษฐ์ เพื่อช่วยให้ลูกค้าเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ
เจ.ดี. พาวเวอร์ ก่อตั้งในปี 1968 ปัจจุบัน มีสำนักงานอยู่ในอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชียแปซิฟิก
ข้อมูลเพิ่มเติม: https://japan.jdpower.com


