ยอดขายรถยนต์สะสม 9 เดือนเพิ่มขึ้น 2 % แม้ตลาดเดือนกันยายนจะลดลง 14.1 %

0
679

นางปวีณา นันทิกุลวาณิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์สะสม 9 เดือน มียอดการขายรวมทั้งสิ้น 761,847 คัน เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 5% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 0.2%

 ประเด็นสำคัญ
ตลาดรถยนต์สะสม 9 เดือน มีปริมาณการขาย 761,847 คัน เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 5% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 0.2% โดยปัจจัยหลักมาจากความนิยมในรถยนต์รุ่นใหม่ที่แนะนำเข้าสู่ตลาด และการนำเสนอข้อเสนอพิเศษต่างๆจากค่ายรถยนต์ในช่วงครึ่งปีแรก อย่างไรก็ตามตลาดรถยนต์เดือนกันยายน มีปริมาณการขาย 76,195 คัน ลดลง 14.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งลดลง 2.4% และตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ลดลง 21.4% สืบเนื่องจากการชะลอตัวของสภาพเศรษฐกิจโดยรวมในประเทศ แต่อย่างไรก็ตามค่ายรถยนต์ต่างๆยังคงทยอยเปิดตัวรถรุ่นใหม่และนำเสนอข้อเสนอพิเศษเพื่อกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้แนวโน้มของตลาดรถยนต์ในช่วงเดือนตุลาคมจนถึงปลายปียังเป็นที่น่าจับตามอง
 ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนกันยายน 2562

1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 76,195 คัน ลดลง 14.1%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 24,650 คัน ลดลง 14.4% ส่วนแบ่งตลาด 32.4%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 10,660 คัน ลดลง 18.2% ส่วนแบ่งตลาด 14.0%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 10,363 คัน ลดลง 8.1% ส่วนแบ่งตลาด 13.6%

2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 33,277 คัน ลดลง 2.4%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 9,688 คัน ลดลง 0.2% ส่วนแบ่งตลาด 29.1%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 8,296 คัน เพิ่มขึ้น 2.8% ส่วนแบ่งตลาด 24.9%
อันดับที่ 3 มาสด้า 3,802 คัน ลดลง 10.3% ส่วนแบ่งตลาด 11.4%

3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 42,918 คัน ลดลง 21.4%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 14,962 คัน ลดลง 21.7% ส่วนแบ่งตลาด 34.9%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 10,660 คัน ลดลง 18.2% ส่วนแบ่งตลาด 24.8%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 4,032 คัน ลดลง 3.6% ส่วนแบ่งตลาด 9.4%

4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV)
ปริมาณการขาย 34,235 คัน ลดลง 20.8%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 13,460 คัน ลดลง 20.1% ส่วนแบ่งตลาด 39.3%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 9,343 คัน ลดลง 19.0% ส่วนแบ่งตลาด 27.3%
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 4,032 คัน ลดลง 3.6% ส่วนแบ่งตลาด 11.8%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 4,600 คัน
โตโยต้า 1,794 คัน – มิตซูบิชิ 1,323 คัน – อีซูซุ 656 คัน – ฟอร์ด 374 คัน – นิสสัน 260 คัน – เชฟโรเลต 193 คัน

5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 29,635 คัน ลดลง 21.5%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 11,666 คัน ลดลง 20.4% ส่วนแบ่งตลาด 39.4%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 8,687 คัน ลดลง 17.2% ส่วนแบ่งตลาด 29.3%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 3,089 คัน ลดลง 40.2% ส่วนแบ่งตลาด 10.4%

 สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – กันยายน 2562
1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 761,847 คัน เพิ่มขึ้น 2%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 249,032 คัน เพิ่มขึ้น 11.1% ส่วนแบ่งตลาด 32.7%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 125,959 คัน เพิ่มขึ้น 0.2% ส่วนแบ่งตลาด 16.5%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 97,695 คัน เพิ่มขึ้น 5.1% ส่วนแบ่งตลาด 12.8%

2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 305,647 คัน เพิ่มขึ้น 5%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 88,736 คัน เพิ่มขึ้น 7.1% ส่วนแบ่งตลาด 29.0%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 74,790 คัน เพิ่มขึ้น 6.6% ส่วนแบ่งตลาด 24.5%
อันดับที่ 3 มาสด้า 37,375 คัน ลดลง 1.5% ส่วนแบ่งตลาด 12.2%
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 456,200 คัน เพิ่มขึ้น 0.2%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 160,296 คัน เพิ่มขึ้น 13.5% ส่วนแบ่งตลาด 35.1%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 125,959 คัน เพิ่มขึ้น 0.2% ส่วนแบ่งตลาด 27.6%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 38,189 คัน ลดลง 22.8% ส่วนแบ่งตลาด 8.4%
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV)
ปริมาณการขาย 369,700 คัน เพิ่มขึ้น 2.5%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 143,274 คัน เพิ่มขึ้น 16.9% ส่วนแบ่งตลาด 38.8%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 114,552 คัน เพิ่มขึ้น 0.3% ส่วนแบ่งตลาด 31.0%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 38,188 คัน ลดลง 21.7% ส่วนแบ่งตลาด 10.3%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 46,928 คัน
โตโยต้า 20,464 คัน – มิตซูบิชิ 10,377 คัน – อีซูซุ 7,479 คัน – ฟอร์ด 4,865 คัน – เชฟโรเลต 2,363 คัน – นิสสัน 1,380 คัน
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 322,772 คัน เพิ่มขึ้น 2.6%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 122,810 คัน เพิ่มขึ้น 19.2% ส่วนแบ่งตลาด 38.0%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 107,073 คัน เพิ่มขึ้น 1.7% ส่วนแบ่งตลาด 33.2%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 33,323 คัน ลดลง 19.7% ส่วนแบ่งตลาด 10.3%

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่