ทุกปี ปฏิทินภัยพิบัติของประเทศไทยมักไม่เคยว่างเว้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ ปัญหาน้ำท่วม ที่เกิดขึ้นซ้ำซากในหลายพื้นที่ เราได้เห็นน้ำใจของคนไทยหลั่งไหลลงไปช่วยผู้ประสบภัยตามมาเสมอ โดยเฉพาะในรูปแบบของถุงยังชีพ ถุงยังชีพมากมายถูกส่งไปให้ผู้ประสบภัยผ่านมูลนิธิและอาสาต่างๆ จากทั้งภาคประชาชน และภาคธุรกิจ
แต่เคยสงสัยไหมว่า ในความหวังดีนับแสนนับล้านถุงเหล่านั้น มีอะไรที่เรายังมองข้ามไป หรือมีช่องว่างที่รอการเติมเต็มอยู่หรือเปล่า?
โรซ่าเองก็บริจาคถุงยังชีพทุกปีเสมอมา ในฐานะแบรนด์อาหารของคนไทย ด้วยจุดยืนด้าน Food Solution ที่มุ่งมั่นจะทำให้ทุกคนเข้าถึงอาหารที่ดี วันนี้เรากลับมาตั้งคำถามกับถุงยังชีพที่ถูกบริจาคในทุกๆ ปี หลายหมื่นหลายแสนถุง ว่าความช่วยเหลือด้านอาหารที่ถูกส่งไปยังผู้ประสบภัยรูปแบบนี้ ดีขึ้นกว่านี้ ได้อีกไหม? และจะทำอย่างไรให้การ “อิ่ม” ไม่ใช่แค่การบรรเทาความหิว แต่เป็นการฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจในยามที่เปราะบางที่สุด
ปัญหาที่ซ่อนอยู่ใน “ถุงยังชีพ” ที่เราคุ้นเคย: ช่องว่างที่รอการเติมเต็ม
เรามักจะคิดว่าการส่งถุงยังชีพไปถึงมือผู้ประสบภัยก็เพียงพอแล้ว แต่เมื่อโรซ่าได้ลงลึกถึงปัญหาผ่านการทำงานร่วมกับผู้ลงพื้นที่จริงอย่างมูลนิธิกระจกเงา มูลนิธิองค์กรทำดีของคุณบุ๋ม ปนัดดา และแม้กระทั่งทีมเจ็ทสกีจิตอาสา เราพบว่าความซับซ้อนของสถานการณ์ น้ำท่วม และภัยพิบัติอื่นๆ ทำให้ถุงยังชีพแบบเดิมๆ เผชิญกับข้อจำกัดหลายประการที่ส่งผลกระทบต่อผู้ประสบภัยโดยตรง
- โภชนาการที่ไม่ครบถ้วนและซ้ำซาก: อาหารส่วนใหญ่มักเป็นของแห้งที่ให้พลังงานสูง และขาดคุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสม ซึ่งจำเป็นต่อการฟื้นฟูร่างกายหลังเผชิญความเครียดและสภาพแวดล้อมที่ยากลำบาก การกินอาหารเดิมๆ ซ้ำๆ เป็นเวลานาน ไม่เพียงทำให้ร่างกายขาดสมดุล แต่ยังสร้างความเบื่อหน่ายและเครียดทางจิตใจให้กับผู้ประสบภัยที่ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนอยู่แล้ว
- ความต้องการในการปรุงอาหาร: ในสถานการณ์ น้ำท่วม หรือภัยพิบัติ การเข้าถึงน้ำสะอาด ไฟฟ้า หรืออุปกรณ์ปรุงอาหารเป็นเรื่องยากลำบาก อาหารที่ต้องปรุงจึงกลายเป็นภาระมากกว่าความช่วยเหลือ
- อาหารหมดอายุ หรือเสียหายระหว่างการขนส่ง: การจัดการโลจิสติกส์ในภาวะวิกฤตเป็นเรื่องท้าทาย อาหารที่หมดอายุหรือบรรจุภัณฑ์เสียหายระหว่างทาง ไม่เพียงไร้ประโยชน์ แต่ยังอาจก่อให้เกิดโรคทางเดินอาหารเพิ่มเติมในพื้นที่ที่สุขอนามัยเป็นเรื่องเปราะบาง
- ประเภทอาหารไม่สอดคล้องกับผู้รับ: ความหลากหลายทางวัฒนธรรม ศาสนา และช่วงวัยของผู้ประสบภัยมักถูกมองข้าม อาหารที่ไม่สอดคล้องกับข้อจำกัดทางศาสนา (เช่น อาหารฮาลาล) หรือไม่เหมาะกับเด็กเล็กและผู้สูงอายุ (เช่น อาหารแข็ง เคี้ยวยาก) ทำให้ความช่วยเหลือไปไม่ถึงผู้ที่ต้องการอย่างแท้จริง
- ปัญหาขยะจากบรรจุภัณฑ์ที่จัดการไม่ได้: ถุงยังชีพจำนวนมากสร้างขยะพลาสติกและบรรจุภัณฑ์จำนวนมหาศาลในพื้นที่ประสบภัย ซึ่งระบบจัดการขยะมักล่มสลายในภาวะวิกฤต กลายเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยตามมา
คุณสุวิทย์ วังพัฒนมงคล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไฮคิว ผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด สะท้อนภาพปัญหาว่า “หลายครั้งที่เราเห็นอาหารดี ๆ กลับถูกทิ้งหลังวิกฤติ เพราะผู้ประสบภัยบางกลุ่มไม่สามารถกินได้ หรือแม้กระทั่งระหว่างทาง การส่งของบริจาคโดยเฉพาะอาหารสด ยังไม่ทันถึงปลายทางอาหารด้านในก็หมดอายุ” นี่คือความจริงที่เจ็บปวด และเป็นแรงผลักดันให้โรซ่าต้องคิดใหม่ ทำใหม่
เมื่อข้อมูลของปัญหา มาเจอกับวิทยาศาสตร์การอาหารและนวัตกรรม: กำเนิด “ถุงยังพร้อม“
จากความเข้าใจในปัญหาอย่างลึกซึ้ง และความเชี่ยวชาญด้านอาหารที่สั่งสมมานานกว่า 50 ปี โรซ่าจึงริเริ่ม Project Roza Food Rescue โดยร่วมมือกับ VML Thailand Agency ในฐานะคู่คิดเชิงกลยุทธ์ เพื่อตามหา Food Solution ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ประสบภัย นี่คือการผสานองค์ความรู้ด้านโภชนาการ วิทยาศาสตร์การอาหาร และข้อมูลเชิงลึกจากภาคสนาม จนเกิดเป็น “ถุงยังพร้อม”
“โรซ่าคิดว่า ถุงยังชีพที่ดี ควรใส่เมนูอาหารที่หลากหลาย เพราะมันจะทำให้ผู้รับบริจาคไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ และไม่เกิดความเครียดจากรสชาติที่จำเจ เพราะฉะนั้นโรซ่าจึงต้องกลับมาย้อนดูถุงยังชีพที่ตัวเองบริจาค แล้วแก้ไขมันใหม่ จนกลายมาเป็นถุงยังพร้อม” คุณสุวิทย์กล่าว
“ถุงยังพร้อม” ไม่ใช่แค่ถุงยังชีพธรรมดา แต่คือชุดอาหารที่คิดมาอย่างรอบด้าน ด้วยนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ประสบภัย เพราะสิ่งที่มากกว่าความอิ่มท้อง คือความอิ่มใจ และการฟื้นฟูอย่างยั่งยืน
- โภชนาการครบถ้วนและหลากหลายอย่างมีกลยุทธ์: ภายในบรรจุอาหารพร้อมทานจากโรซ่าพร้อม ที่มีเมนูหลากหลาย เช่น โจ๊กไก่ ข้าวสวยกับปลาทูน่า ข้าวไรซ์เบอร์รี่กับเมนูไก่ หรือข้าวอบแปะก๊วยกับซุปฟักทองแครอท
- พร้อมทานทันที ไม่ต้องปรุงเพิ่ม: อาหารทุกเมนูผ่านกระบวนการผลิตที่ทันสมัย สามารถเปิดซองและรับประทานได้เลยทันที โดยไม่ต้องใช้น้ำ ไฟ หรืออุปกรณ์ปรุงอาหาร ลดภาระและเพิ่มความสะดวกสบายสูงสุดในสถานการณ์ฉุกเฉิน
- ใน 1 ถุง จัดมาให้ครบ 3 วัน รวม 9 มื้อ: โดยเมนูอาหารในแต่ละวันโรซ่าคำนึงถึงค่าพลังงาน ไขมัน น้ำตาล และโซเดียม ที่ต้องอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม และไม่เกินปริมาณที่แนะนำต่อวัน เพื่อให้ผู้ประสบภัยได้รับอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่ดีแม้อยู่ในภาวะวิกฤติ รวมถึงทุกเมนูในชุดถุงยังพร้อมถูกคัดเลือกมาโดยคำนึงถึงความเหมาะสมของทุกเพศทุกวัย และทุกศาสนา เพื่อให้สามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทุกกลุ่มอย่างไม่มีข้อจำกัด
- ถุงยังพร้อมมีแข็งแรง กันน้ำ และลดขยะ: ตัวถุงถูกออกแบบมาเป็นพิเศษให้ กันน้ำได้ 100% ป้องกันความเสียหายของอาหารจาก น้ำท่วม หรือความชื้น นอกจากนี้ ภายในถุงยังมี ถุงสำหรับจัดการขยะ ไว้ให้ เพื่อให้ผู้ประสบภัยสามารถรวบรวมและทิ้งขยะได้อย่างเป็นระเบียบ ลดปัญหาสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยในพื้นที่พักพิง
- การเตรียมพร้อมเชิงรุก (Proactive Approach): แทนที่จะรอให้ภัยมาแล้วค่อยบริจาค โรซ่ากำลังพัฒนาระบบการเตรียมความพร้อมเชิงรุก เพื่อให้ “ถุงยังพร้อม” สามารถเข้าถึงพื้นที่ประสบภัยได้อย่างรวดเร็วที่สุดเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น
- นี่คือการยกระดับจาก “อาหารประทังชีวิต” สู่ “อาหารเพื่อการฟื้นฟู” อย่างแท้จริง
จากความตั้งใจที่แน่วแน่…ถึงทุกวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต: การสร้างมาตรฐานใหม่ของการช่วยเหลือ
“ถุงยังพร้อม” อาจดูเหมือนถุงเล็กๆ แต่เบื้องหลังมันคือระบบที่โรซ่าคิดมาครบ และตั้งใจวางไว้ให้ยั่งยืน คุณสุวิทย์ย้ำว่า “สังคมไทยมีจุดแข็งในเรื่องการช่วยเหลือสังคมในยามเกิดภัยพิบัติ ซึ่งโรซ่าจึงขอเข้ามาเติมเต็ม โดยใช้ความเชี่ยวชาญทางด้านอาหาร ไปผสมผสานกับหน่วยกู้ภัยอื่นๆ เพื่อให้เกิดการช่วยเหลือที่ยั่งยืน และทำให้ทุกการบริจาคอาหารมีประสิทธิภาพสูงสุดไปตลอดหลังจากนี้”
นี่คือการสร้างมิติใหม่ของการช่วยเหลือโดยเป็นผู้ร่วมสร้างสรรค์โซลูชัน ที่นำเอาความเชี่ยวชาญหลักขององค์กรมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสังคม Roza Food Rescue ไม่ใช่แค่โปรเจกต์ระยะสั้น แต่คือวิสัยทัศน์ระยะยาวของโรซ่าในการสร้างมาตรฐานใหม่ของการช่วยเหลือด้านอาหารในภาวะวิกฤต
อัปเดตล่าสุด: ภารกิจของ “ถุงยังพร้อม” ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วในสถานการณ์จริง โดยโรซ่าได้ส่งมอบ “ถุงยังพร้อม” ให้กับ มูลนิธิองค์กรทำดี เพื่อสนับสนุนความช่วยเหลือทางด้านอาหารในสถานการณ์ฉุกเฉินหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นผู้ประสบภัยจากน้ำท่วม/ภัยพิบัติต่างๆ ซึ่งทางมูลนิธิองค์กรทำดี ได้ส่งมอบถุงยังพร้อมชุดแรกให้กับ เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อเป็นกำลังใจและช่วยอำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานด้วยมื้ออาหารที่สะดวก ปลอดภัย พร้อมอิ่มทุกมื้อ
เพราะสำหรับโรซ่า การเป็นแบรนด์อาหารที่ดี ไม่ใช่แค่ทำให้คนอิ่มในวันที่มีเวลาและมีทางเลือก
แต่คือการพร้อมเสมอ…ในวันที่ไม่มีใครทันได้เตรียมตัว และอาหารคือสิ่งจำเป็นที่สุดในการประคองชีวิตและจิตใจ
