วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 21, 2024
spot_img
หน้าแรกAuto Newsเมื่อคอนเท้นต์วาย (Y) กลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์ไทย เปิดมุมมองสองฝั่ง “ซีรีส์วาย” และ “นิยายวาย” ในวันที่กระแสวายแรงเกินต้าน

เมื่อคอนเท้นต์วาย (Y) กลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์ไทย เปิดมุมมองสองฝั่ง “ซีรีส์วาย” และ “นิยายวาย” ในวันที่กระแสวายแรงเกินต้าน

-

5-6 ปีให้หลังมานี้ หากเปิดโทรทัศน์หรือท่องโซเชียลมีเดียจะพบว่าคอนเท้นต์ที่ก้าวกระโดดจากกระแสรองมาสู่กระแสหลักจนกลายเป็นวัฒนธรรมย่อยของไทย คือคอนเท้นต์วาย (Y) ซึ่งยึดครองพื้นที่ในวงการบันเทิงไทยไปมากกว่าครึ่ง ทั้งยังส่งออกความนิยมไปต่างประเทศ ตั้งแต่อาเซียน เอเชีย จนถึงตลาดยุโรปและอเมริกา เรียกได้ว่า คอนเท้นต์วายไทย เป็นหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์สร้างชื่อ ทำให้ต้องยกมาเป็นกรณีศึกษาว่า อะไรทำให้เกิดปรากฏการณ์วายไทยที่สร้างกระแสความจิ้นไปทั่วโลกได้อย่างนี้

ต้องยอมรับว่าในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ปีซีรีส์ประเภท Boy’s Love หรือซีรีส์วายปลุกกระแสความคึกคักให้กับวงการบันเทิงไทยได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนโดยเฉพาะการสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยขึ้นแท่นเป็นผู้นำคอนเทนวายระดับโลกซึ่งมีมูลค่าตลาดมหาศาลและนอกจากซีรีส์วรรณกรรมวายของไทยก็ฮอตฮิตไม่ต่างกันทำสถิติเป็นประเภทหนังสือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งล่าสุดด้วยเหตุนี้สมาคมนักเขียนบทละครโทรทัศน์ (TSA) จึงร่วมกับกรมส่งเสริมวัฒนธรรม THACCA (Thailand Creative Culture Agency) และ OFOS (One Family One Soft Power) เปิดกิจกรรมเสวนาหัวข้อ “นักเขียนบทสู่นักเขียนวาย” ภายใต้ โครงการสร้างทักษะใหม่เพื่อพัฒนานักเขียนบทให้เป็นกำลังสำคัญของยุทธศาสตร์ซอฟท์พาวเวอร์แห่งชาติ “GO UP AND NEVER STOP EXPAND MULTI SKILLS” เชิญสองผู้คร่ำหวอดในแวดวงวาย เจติยา โลกิตสถาพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บรรณาธิการบริหาร บริษัทสถาพรบุ๊คส์ จำกัด ซึ่งมีสำนักพิมพ์ดีพ (Deep) ผลิตคอนเท้นต์วายเป็นหลัก และ กฤษดา วิทยาขจรเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีออนคลาวด์ จำกัด ผู้ผลิตซีรีส์ชื่อดังอย่าง KinnPorsche The Series La Forte, 4 Minutes และภาพยนตร์แมนสรวง มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์และเรื่องราวเกี่ยวกับแวดวงวายอย่างครบรส ทั้งในมุมของนวนิยายและซีรีส์ เพื่อให้นักเขียนบทละครและผู้สนใจเข้าใจเทรนด์ซีรีส์วาย รวมถึง
ยูริ (Yuri) แบบ Girl’s Love ก่อนนำไปต่อยอดพัฒนาทักษะของตนเองเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุค Y Economy ให้มากขึ้น

 

ไทยแลนด์เมืองหลวงของซีรีส์วาย

สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือไทยเป็นผู้นำตลาดนิยายและซีรีส์วายมาตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงวันนี้แม้ว่าพอกระแสวายเริ่มรุกเข้าสู่อุตสาหกรรมภาพยนตร์ละครและซีรีส์แล้วหลายประเทศจะหันมาทําซีรีส์วายเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดแต่อันดับหนึ่งในด้านนี้ก็ยังคงเป็นคอนเท้นต์จากประเทศไทยซึ่งไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เหตุผลที่ทำให้เราครองตลาดได้อย่างต่อเนื่องยาวนานมาจากหลายปัจจัยสำหรับสายนิยายคุณเจติยามองว่า “ซีรีส์วายไทยมีคาแรกเตอร์ที่ชัดเจนในความเบาๆเสพง่ายย่อยง่ายแตกต่างจากของต่างประเทศที่บางเรื่องจะหนักหน่วงต้องคิดเยอะเลยเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ซีรีส์ไทยเป็นที่นิยมกว่าซีรีส์สัญชาติอื่น” 

แต่ในอีกด้านคุณกฤษดากลับเห็นว่าการบุกเบิกเริ่มสร้างเส้นทางสายวายมาก่อนพร้อมกับความชัดเจนในการนำเสนอทำให้วายไทยครองตลาดมาได้จนทุกวันนี้ “ก่อนจะมาเป็นผู้ผลิตคอนเท้นต์วายผมได้รู้จักซีรีส์วายในยุคแรกๆอย่างLove Sick ตามมาด้วย คั่นกู เพราะเราคู่กัน และ แปลรักฉันด้วยใจเธอ ผมว่าสิ่งที่ทำให้คอนเท้นต์วายไทยขึ้นมาเป็นที่ 1 ได้ เป็นเพราะเราเริ่มทํามาก่อน แล้วทําได้ถึง คือชัดเจนที่สุดในยุคนั้นว่าวายคืออะไร  เพราะหากนับช่วงเวลา 5 ปีมานี้ที่ซีรีส์วายไทยครองตลาดอย่างแข็งแกร่ง KinnPorsche ก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่เราไม่ได้ใสหรือนำเสนอความน่ารักเหมือนเรื่องอื่น ดังนั้นความนิยมของวายไทยจึงไม่ได้มาจากสไตล์เพียงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะเริ่มบุกเบิกปูทางมาก่อน และนอกจากทำก่อน อีกส่วนหนึ่งผมมองว่าประเทศไทยเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความสนุกและเราเปิดรับทุกวัฒนธรรม เลยเชื่อมกับคนง่าย ทำให้ขยายตลาดไปในหลายประเทศได้ ประกอบกับฐานแฟน ๆ วายที่พร้อมจะซัพพอร์ตจึงทำให้เติบโตอย่างแข็งแรง” 

นิยายประโลมโลกหรือซอฟต์พาวเวอร์

ปฏิเสธไม่ได้ว่าภาพของซีรีส์วายหรือนิยายวายมักจะถูกคนบางกลุ่มมองว่าเป็นเรื่องราวแนวประโลมโลกและมักจะขายคู่จิ้นมากกว่าเน้นเนื้อหาสาระสะท้อนสังคมแต่ในความเป็นจริงถ้ามองอย่างเปิดใจคุณเจติยายืนยันว่าคอนเท้นต์วายสะท้อนสังคมในแง่มุมของความหลากหลายทางเพศได้อย่างลึกซึ้งและเป็นสื่อหนึ่งที่มีส่วนสำคัญในการช่วยให้ผู้คนในสังคมเข้าใจประเด็นความหลากหลายมากขึ้นนอกจากนี้ที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือการผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ไทยเพราะไม่เพียงเป็นซอฟต์พาวเวอร์ให้คนต่างชาติรู้จักประเทศไทยมากขึ้นคอนเท้นต์วายจำนวนไม่น้อยยังสอดแทรกซอฟต์พาวเวอร์ด้านอื่นๆของไทยลงไปด้วย “เช่นซีรีส์เรื่องวันดีวิทยาที่เล่าถึงมวยไทยและยังมีหลายเรื่องที่พูดถึงวัฒนธรรมอีสานในบ้านเราซึ่งสิ่งเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ก็สามารถสอดแทรกเข้าไปในนิยายวายได้เช่นเดียวกับนวนิยายทั่วไป” ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงนิยายยกตัวอย่าง

เช่นเดียวกับคุณกฤษดาที่เล่าถึงการใส่วัฒนธรรมไทยลงไปในคอนเท้นต์วายของบีออนคลาวด์ว่า เคยทำแบบสุดทางมาแล้วในภาพยนตร์เรื่องแมนสรวง ซึ่งนับได้ว่าเป็นการส่งเสริมและเผยแพร่วัฒนธรรมอันเป็นซอฟต์พาวเวอร์ไทยอย่างชัดเจน และหากถามว่าซีรีส์วายเป็นซอฟต์พาวเวอร์ไทยได้อย่างไร เขาว่า “สุดท้ายถ้าทําให้คนรู้จักประเทศไทยได้มากขึ้น ไม่ว่าจะในมุมไหนก็เป็นซอฟต์พาวเวอร์ได้หมด และผมเชื่อว่าคนในแวดวงวายก็กำลังทำสิ่งนี้อยู่ คือการเผยแพร่ความเป็นไทย ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม ถ้าซีรีส์ของเราไประดับโลกได้ ก็แปลว่าจะมีคนรู้จักประเทศไทยแน่นอน” 

ช่วงหลังเริ่มเฟ้อ หรือคอนเท้นต์วายจะเริ่มวาย

ถ้ามองจากภาพรวมของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ละครและซีรีส์ไทยในวันนี้คงไม่ผิดนักหากจะบอกว่าวายครองเมืองเพราะทุกช่องทางล้วนแล้วแต่อัดแน่นด้วยคอนเท้นต์วายจนหลายคนเริ่มรู้สึกว่าหรือจะถึงเวลาฟองสบู่ใกล้แตกความวายคงใกล้ถึงทางตันเสียแล้วทว่าในมุมมองของสองผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงนี้กลับไม่เห็นเช่นนั้น “ผมไม่เชื่อว่าใกล้จะถึงทางตันเพราะในมุมของผมเราขายไอเดียและตั้งแต่เริ่มเข้าสู่แวดวงซีรีส์วายเห็นมาตลอดว่าตลาดนี้มีการเติบโตที่สูงมากส่วนที่หลายคนมองว่าปริมาณคอนเท้นต์เริ่มเฟ้อและน่าจะเริ่มตันต้องบอกว่าความต้องการขึ้นอยู่กับคุณภาพของงานเพราะยิ่งมีผู้เล่นเยอะคนดูก็มีทางเลือกเยอะดังนั้นถ้างานไหนไม่มีคุณภาพเขาก็ไม่ดู” ประธานบีออนคลาวด์เผยมุมมองด้านสำนักพิมพ์สายวายอย่างดีพก็เห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า “ในมุมของคนทําหนังสือก็คล้ายกันพอแนวนี้เริ่มมานักเขียนก็หันมาเขียนกันมากขึ้นจนคนอ่านบางส่วนอาจจะรู้สึกเบื่อแต่ด้วยเพราะนิยายวายมีความคล้ายกับนิยายแฟนตาซีค่อนข้างหลากหลายแนวคนอ่านวายแต่ละคนก็มีรสนิยมแตกต่างกันไปฉะนั้นถ้านักเขียนยังจินตนาการต่อไปได้การเขียนนิยายวายก็ยังไปได้อีกไกล”

เมื่อถามว่าแล้วคอนเท้นต์วายจะไปได้อีกไกลแค่ไหนทั้งสองยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่านิยายวายหรือซีรีส์วายก็ไม่ต่างจากนิยายและซีรีส์ทั่วไปหากมีความสนุกเป็นพื้นฐานมีพล็อตที่ดีน่าสนใจก็ยังคงไปได้อีกเรื่อยๆไม่ต่างจากคอนเท้นต์ทั่วไปในตลาด

แซฟฟิก ยูริ อีกหนึ่งแนวที่กำลังมากแรง

จากสายวายแนว Boy’s Love ทุกวันนี้ในตลาดเดียวหรือใกล้เคียงกันเกิดคอนเท้นต์แขนงใหม่ที่มาแรงคือแซฟฟิก (Sapphic) หรือยูริ (Yuri) ซึ่งเติบโตมาจากฐานแฟนคลับสายวายรวมถึงคนที่ชื่นชอบเรื่องราวแนว Girl’s Love จนกลายเป็นอีกหนึ่งซอฟพาวเวอร์ที่ทรงพลังของไทยซึ่งทั้งสองผู้คร่ำหวอดในแวดวงวายต่างเห็นพ้องต้องกันว่าการเกิดขึ้นของคอนเท้นต์แนวยูริเป็นอีกหนึ่งกระแสที่ต้องจับตาและมีแนวโน้มว่าจะเติบโต
ไม่ต่างจากคอนเท้นต์วายไทย

“วันนี้เห็นได้ว่าแซฟฟิกหรือยูริบูมมากโดยมีจุดเริ่มต้นคล้ายกับซีรีส์วายที่เกิดจากนิยายแล้วกลายมาเป็นซีรีส์ก่อนจะสร้างกระแสคู่จิ้นเพียงแต่ยูริอาจจะมีตลาดรองรับอยู่จํานวนหนึ่งแล้วจากฐานคนที่เสพคอนเท้นต์วายซึ่งณตอนนี้ยังระบุไม่ได้ชัดเจนว่าเป็นกลุ่มเดียวกันหรือไม่แต่ที่แน่ๆคือคอนเท้นต์ยูริจะเพิ่มกลุ่มแฟนคลับที่เป็น Girl’s Love เข้าไปด้วยผมมองว่าหากอยากแข่งขันในตลาดยูริณตอนนี้ต้องหาคอนเท้นต์ที่เฉียบคมมากขึ้นเพราะเริ่มมีการทำออกมาค่อนข้างเยอะแล้วเหมือนกัน” คุณกฤษดาอธิบายโดยเขามองว่าคอนเท้นต์วายและยูริเป็นซับเซตในตลาดเดียวกันฉะนั้นแล้วเมื่อมีแนวใหม่เกิดขึ้นผู้ผลิตเยอะขึ้นคนดูก็ย่อมมีทางเลือกที่หลากหลายขึ้นเช่นกันไม่แน่ว่าในอนาคตตลาดนี้อาจจะมีอีกหลายแนวคอนเท้นต์เกิดขึ้นตามมาจนกลายเป็นเค้กก้อนใหญ่ที่ถูกแบ่งเป็นหลายเลเยอร์ให้คนดูเลือกชิมก็เป็นได้

หากสนใจอยากสร้างสรรค์คอนเท้นต์วายแซฟฟิกหรือยูริทางด้านนิยายคุณเจติยาแนะนำว่าการตีพิมพ์นวนิยายวายไม่แตกต่างจากนิยายทั่วไปหลักการคือต้องพล็อตดีตัวละครดีถ้านักเขียนสามารถสร้างสองสิ่งนี้ให้แข็งแรงได้จะสามารถสร้างเรื่องสร้างฉากและสร้าง key message ที่ต้องการส่งต่อไปยังคนอ่านได้อย่างไหลลื่น “หลักการเขียนนิยายวายไม่ได้แตกต่างจากนิยายทั่วไปเพียงแต่เปิดรับเรื่อง LGBTQ+ ท่านใดที่สนใจอยากให้ลงมือเขียนไปเลยหากตั้งใจจริงเชื่อว่าวันหนึ่งจะต้องเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์วายได้แน่นอน”

ส่วนสายซีรีส์คุณกฤษดาบอกว่าอันดับแรกต้องดูกลุ่มเป้าหมายแล้วมองว่าแนวไหนที่จะตอบโจทย์คนดูแต่ต้องไม่ซ้ำกลุ่มเดิม “จริงๆทุกเรื่องราวล้วนบอกเล่าถึงความสัมพันธ์ของมนุษย์ถ้าเรามองข้ามอัตลักษณ์ทั้งหมดแล้วมองไปที่แก่นของความรู้สึกซีรีส์วายก็คือซีรีส์ปกติที่มีพล็อตดีใครๆก็เขียนได้เช่นกัน” เขาว่าแต่เหนือสิ่งอื่นใดการจะเขียนนิยายหรือเขียนบทซีรีส์ให้ดีต้องหาคาแรกเตอร์ของตัวเองให้เจอ

สำหรับผู้ที่สนใจกิจกรรมดี ๆ ในการพัฒนาตนเอง สมาคมนักเขียนบทละครโทรทัศน์ ยังมีโครงการ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักภาพสมาชิกนักเขียนบทละครโทรทัศน์รวมถึงประชาชนทั่วไปอีกหลายโครงการ ติดตามความเคลื่อนไหวได้ทาง Facebook: สมาคมนักเขียนบทละครโทรทัศน์

- Advertisment -

Must Read