5 เหตุผลทำไม MG 5 ถึงขายดี ครบจบในคันเดียว!! จ่ายหลักแสน หรูหราหลักล้าน

0
2747

5 ข้อเด่นสำหรับมุมมองผู้หญิง เหตุผลทำไม!!  MG 5 ครบจบในคันเดียว!!

1.ดีไซน์ เอกลักษณ์  ที่ลงตัว ของ  MG 5 มาครบจบในคันเดียว  หล่อๆ หุ่น กล้ามมัด ที่ลงตัว  ไม่ติ  ชอบ  ให้ความปราดเปรียวดูทะมัดทะแมง

2.ออปชั่นที่จัดมาให้คุ้มค่า เกินราคา  ที่คาดไว้  ทุกรุ่นของ MG 5

3.ความหรูหราลงตัวภายในห้องโดยสาร จ่ายหลักแสน ความหรูหราหลักล้าน  ที่มอบมาให้ใน  MG 5  ผู้หญิงอย่างแอดมิน ฟิน ไม่ติ ไม่ติด

4.เทคโนโลยี i-Smart ที่ให้มาด้วย ตอบโจทย์ เรื่องการค้นหา ปั้มน้ำมัน ร้านอาหาร ฯลฯ และความอัจฉริยะ  ที่เราไว้ใจได้ ใน  MG5  แต่ที่ปลื้มสุด คือความสะดวก สบาย แอร์เย็น เพลงเพราะ เชื่อมต่อฟังเพลงเพราะๆจากมือถือได้ง่ายๆ IOS, Android Auto

5.สมรรถนะ  ที่ให้ผู้หญิงอย่างแอดมิน  ทันใจ  ทั้งในเมืองที่รถติด  และนอกเมือง  ที่วิ่งได้ยาวยาว  สำคัญมากคือประหยัด!!  (อันนี้ความประหยัดอยู่ที่กำลังเหยียบของแต่ละบุคคล)

สรุป 5 ข้อเด่นแล้ว  ไปดูฟิลลิ่งของแอดมินกันเลย

เข้าเรื่องเลยค่ะวันนี้แอดมินเปิ้ลซ่ามาแนะนำ NEW MG5 (MY2022) รุ่น D+ รุ่นรองท็อป ออฟชั่นมาเต็ม ฟีเจอร์ไม่ลด  เป็นอย่างไรนั้นมาเล่าให้ฟัง  ก่อนมาเล่าให้ฟังนั้น แอดมินเคยทดลองขับขี่รถยนต์รุ่นนี้สั้นๆตอนเปิดตัวเอ็มจี5 ใหม่ไปแล้ว แต่วันนี้การขับขี่รถยนต์ NEW MG5 (MY2022) รุ่น D+   เป็นเช่นไรนั้น  เราก็ต้องลองขับขี่ให้ได้ฟีลลิ่ง  ตามสไตล์แอดมินเอง ว่าแตกต่างกันเช่นไร  ซึ่งครั้งนี้แอดมิน  วางแผนเส้นทาง  One Day Trip  กรุงเทพฯ-อยุธยา-กรุงเทพฯ  ขับทั้งในเมืองและนอกเมือง  และมีเดอะแก๊งร่วมเดินทางกันทั้งหมด 4 คน

จากรูปประกอบ  รถยนต์ที่เรามารีวิว  จะเป็นสีขาว จากทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีเหลือง (Nuclear Yellow) สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) สีแดง (Scarlet Red) และสีเทา (Metal Ash Grey) จัดจำหน่ายในราคา 679,000 บาท และ ส่งมอบรถได้ตั้งแต่ วันที่ 17 พฤษภาคม เป็นต้นไป

มาอธิบายเพิ่มเติม NEW MG5 (MY2022) รุ่นD+ ที่ครบครันด้วยออปชั่น ดังนี้

-โดดเด่นด้วยกระจังหน้าสีทูโทน

-หลังคาซันรูฟ (Sunroof)

-จอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว

-เบาะปรับไฟฟ้าด้านคนขับแบบ 6 ทิศทาง ไฟส่องสว่างที่นั่งแถวหลัง

-ที่เก็บแว่นตา

-ขับขี่ปลอดภัย มั่นใจยิ่งขึ้นด้วยระบบ Cruise Control

-กล้องรอบคันแบบ 3 มิติ

เข้าเรื่องการรีวิวการขับขี่เลยล่ะกัน  เราเดินทางจากในเมือง  กรุงเทพฯ  มุ่งหน้าสู่อยุธยา  เข้าวัดสายมูกันก่อนเลยค่ะ  นั่นก็คือ วัดพนัญเชิงวรวิหาร อยุธยา  สถานที่แห้่งนี้  นอกเหนือจะมีผู้คนมาสักการะบูชา  ขอพร ไหว้พระทำบุญแล้วนั้น  ภายในวัดยังมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาสักการะเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก  ตามความเชื่อเรื่องการขอพรให้ประสบความสำเร็จในเรื่องต่างๆ

ต้องย้อนเล่าให้ฟังตำนานของเจ้าแม่ฯนั้น สมัยก่อนสมัยกรุงศรีอยุธยาจะเป็นราชธานี และเป็นเรื่องราวความรัก ที่ดูเศร้าๆไปซักหน่อย  คือเรื่องราวของพระนางสร้อยดอกหมาก ผู้เป็นธิดาแห่งเจ้ากรุงจีน ซึ่งพระราชทานแด่พระเจ้าสายน้ำผึ้ง  พระกษัตริย์แห่งกรุงอโยธยา เมื่อเดินทางล่องเรือกลับมาถึงอยุธยา พระเจ้าสายน้ำผึ้งรับสั่งให้พระนางรอบนเรือพระที่นั่ง แล้วจึงเสด็จเข้าสู่พระราชวังหลวงเพื่อให้จัดขบวนมาต้อนรับพระนาง กลับไม่เห็นพระเจ้าสายน้ำผึ้งเสด็จมารับด้วยพระองค์เอง พระนางน้อยพระทัยจึงรออยู่ที่เรือไม่ยอมขึ้นไป พระเจ้าสายน้ำผึ้งจึงสัพยอกว่า เมื่อมาถึงแล้วไม่ขึ้นก็จงอยู่ที่นั่นเสีย เป็นเช่นนี้อยู่สองหน และตรอมใจถึงแก่ทิวงคต พระเจ้าสายน้ำผึ้งเศร้าสลดพระทัยยิ่งนัก จึงโปรดฯให้สร้างศาลขึ้นเพื่อรำลึกถึงอดีตว่าที่ อัครมเหสีผู้จากไป อย่างไรก็ตาม ความสำคัญของศาลเจ้าแห่งนี้ เป็นเครื่องยืนยันความสัมพันธ์แนบแน่นระหว่าง ไทย-จีน มาช้านานตั้งแต่สมัยก่อนอยุธยา ด้วยละแวกนี้มีชุมชน ชาวจีนตั้งรกรากอยู่หนาแน่นเรื่อยมาจนปัจจุบัน นั้นเอง

สรุปคือ  นอกเหนือจากที่แอดมินมาขอพรแล้วนั้น  ก็มาขอเรื่องความรัก บลา บลา  อันนี้ก็แล้วแต่ใครจะขอ  การขอพรนั้นแอดมิน ก็ตั้งจิตอธิษฐาน เอ่ยชื่อจริง-นามสกุล  แล้วก็ทำตามคนนำไหว้  ก็จะอยู่ประจำจุด ชั้นสอง  ถ้าสมความปราถนาก็กลับไปไหว้ท่านใหม่อีกครั้ง (แล้วแต่ความเชื่อแต่ละบุคคล ไม่ได้เชิญชวนนะคะ)  อันนี้อิ่มอก อิ่มใจแล้ว  เราก็  อิ่มท้องด้วย  เดี๋ยวไปกันต่อค่ะ

เดินทางมาถึงอยุธยาแล้ว  สี่สาวอย่างเราก็ต้องตะลุยร้านคาเฟ่ตามรีวิว  ซึ่งหลากหลายคาเฟ่มากมาย  แต่เราสรุปกันได้ 1 สถานที่ก็คือ  ร้าน พระนครแซ่บ-คาเฟ่  เป็นอีก หนึ่งร้านที่นักท่องเที่ยวต้องมาเช็คอิน  และถ่ายรูป เครื่องดื่มอาหารก็มีให้เลือกตามเมนู

ต้องบอกก่อนว่าร้านนี้  เป็นร้านคาเฟ่ที่มีมุมถ่ายรูปเยอะมาก  รวมถึงพร็อบการแต่งกายสไตล์ตุรกี  ใครที่ตามติดหนัง  คังคุไบ  ห้ามพลาด  555

ยั่วๆ  หนึ่งรูปถ้วน  ส่วนข้อมูลเพิ่มเติม  ไปกดดูที่ Page FB : พระนครแซ่บ คาเฟ่  จ๊ะ

หลังจากที่แอดมินถ่ายรูป  พักรถพักคนเรียบร้อย  อิ่มเอม สบายใจแล้ว  แอดมิน  ขอมาสรุป  กับการท่องเที่ยว  วันเดย์ทริป  สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองไทย  ใครไม่ไปก็ไม่รู้  ว่ามีแบบนี้ด้วยหรือ  ก็มาตามรอยกันได้นะ

มาถึงข้อสรุปการขับขี่  รวมถึงมาเป็นผู้โดยสารตอนหลัง  ไปกลับ  รวมถึงแวะท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร น้ำมันถังเดียวสบาย ค่าใช้จ่าย รวมน้ำมัน รวมกินจิปาถะ  คนละประมาณ 500 บาท  ถือว่าประหยัดมากกับรถยนต์ เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 114 แรงม้า ขับขี่ง่าย ตัวรถกว้าง ปรับพวงมาลัยน้ำหนักได้ 3 ระดับ (แล้วแต่ความชอบ) ระหว่างการขับขี่เจอฝนตก   ก็มั่นใจ กับดิสก์เบรก ทั้ง 4 ล้อ เอาอยู่ ช่วงล่างดีเลย  นั่งกันสี่คน  ความคิดเห็นตรงกัน  ดูอวยเนอะ  ชอบของใหม่แหละ  ตั้งแต่ดีไซน์ภายนอกที่เป็นเอกลักษณ์ของ MG ตัวรถยนต์ ดูเพรียว มากับดีไซน์ล้ออัลลอยด์  ยางขนาด 17 นิ้ว  ขับผ่านไปไหนคนก็มอง ยิ่งภายใน นั่งโดยสารมารวมคนขับสี่คน นั่งสบาย หัวไม่ติด เข่าไม่ติด  การตกแต่งไม่ติดอะไร  ไม่ติแล้วกัน เพราะลงตัวดีอยู่แล้ว  อันนี้ต่างคนต่างความคิดเห็น  แต่ที่ชอบสุดบนรถยนต์คันนี้คือมีหลังคาซันรูฟ  อันนี้แอดมินชอบมาก  เปิดซันรูฟดูดาว เปิดซันรูฟถ่ายรูป ฟินค่ะ

เอาเป็นว่าใครอ่านจบถึงบรรทัดสุดท้ายแล้ว ก็เป็นบทรุปจากความเห็นส่วนตัวของแอดมิน ไม่แปลกใจเลยที่ทำให้รถยนต์รุ่นดังกล่าวมียอดขายรวมกว่า 11,330 คัน นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่ผ่านมา เพราะราคาค่าตัวคุ้มค่าเกินราคา  แอดมินแนะนำค่ะ NEW MG5 (MY2022) รุ่น D+ ราคา 679,000 บาท   และสุดท้ายแอดมินต้องขอขอบคุณทุกท่าน  ที่ติดตามนะคะ  ขอกำลังใจ คำแนะนำ และติดตามแอดมินได้ทุกช่องทางนะคะ  ด้านล่างมีข้อมูลการติดตาม และสเปคละเอียดของรถยนต์ NEW MG5 (MY2022) รุ่น D+ กดคลิกดูที่ลิ๊งได้เลยค่า   พบกันใหม่นะคะ

NEW MG5 (MY2022) รุ่น D+  :  https://carswaii.com/pr-news/22234/

ช่องทางการติดตาม

Page FB  :  https://www.facebook.com/carswaii

Youtube  :  https://www.youtube.com/channel/UCzrAYhAN7k6Q1SN1WPg9_JQ

Website : www.carswaii.com

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่