จากภาพ:
นายเรวัช ศรีแสงอ่อน (ที่ 4 จากซ้าย) ผู้อำนวยการสถาบันการอาชีวศึกษาภาคกลาง 2 เป็นประธานในพิธีมอบเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง ให้แก่ วิทยาลัยเทคนิคลพบุรี จาก บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด นำโดย นายสาโรจน์ มะอาจเลิศ (ที่ 4 จากขวา) กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานขาย บริการหลังการขาย และประสบการณ์ลูกค้า และ นายกุญญาวัตน์ รวยอารีย์ (ขวาสุด) ผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายการศึกษาและฝึกอบรม พร้อมด้วย บริษัท มิตซู แอลบีเอ็ม จำกัด นายอภิวัฒน์ เผ่าไทยเจริญสุข (ที่ 3 จากขวา) กรรมการผู้จัดการ และ นางสาว ณัฐรียา อยู่สบาย (ที่ 2 จากขวา) ผู้จัดการทั่วไป ร่วมมอบเครื่องยนต์และ ระบบส่งกำลังภายในพิธี โดยมี นายประสงค์ อุบลวัตร (ที่ 3 จากซ้าย) ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคลพบุรี และ นางสาว กัลยา สิงหาเขต (ซ้ายสุด)
รองผู้อำนวยการฝ่ายแผนงานและความร่วมมือ วิทยาลัยเทคนิคลพบุรี เป็นผู้แทนรับมอบ อีกทั้ง ได้รับเกียรติจาก นายไชยชาญ หินเกิด (ที่ 2 จากซ้าย) ประธานกรรมการสถานศึกษา, นายวัชรพงศ์ พิพัฒน์สุริยวงศ์ (ที่ 5 จากซ้าย) ศึกษาธิการจังหวัดลพบุรี และ นายกิจจา จงประเสริฐ (ที่ 5 จากขวา) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ วิทยาลัยเทคนิคลพบุรี
กรุงเทพฯ – 25 กันยายน 2568: บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ บริษัท มิตซู แอลบีเอ็ม จำกัด
มอบเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง ให้แก่ วิทยาลัยเทคนิคลพบุรี ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสนับสนุนการศึกษา เพื่อพัฒนาศักยภาพเยาวชนผ่านการเสริมสร้างประสบการณ์การเรียนรู้เชิงปฏิบัติการ การเพิ่มโอกาสในการจ้างงาน และความก้าวหน้าในสายอาชีพ โดยภายในพิธีมี การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง
บริษัท มิตซู แอลบีเอ็ม จำกัด และ วิทยาลัยเทคนิคลพบุรี เพื่อสนับสนุนพันธกิจทางการศึกษาของวิทยาลัยและ
มอบประสบการณ์การทำงานจริงให้กับนักศึกษา เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอย่างยั่งยืน
นายสาโรจน์ มะอาจเลิศ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานขาย บริการหลังการขาย และประสบการณ์ลูกค้า
บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เดินหน้าจัดทำโครงการ
เพื่อสังคมมาอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมทั้งด้านการศึกษา สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ โดยเฉพาะด้านการศึกษา เพราะเราเชื่อว่าการศึกษาคือรากฐานสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมและการเสริมสร้างทักษะอย่างยั่งยืน การบริจาคเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังในครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้พัฒนาทักษะเชิงช่าง ผ่านการลงมือปฏิบัติด้วยเครื่องยนต์จริง อันนำไปสู่การยกระดับองค์ความรู้ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ในอนาคต”
นายประสงค์ อุบลวัตร ผู้อำนวยการ วิทยาลัยเทคนิคลพบุรี กล่าวว่า “การได้รับมอบเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังจากมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ถือเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อนักศึกษาของเรา เพราะจะช่วยเสริมสร้างทักษะเชิงปฏิบัติการและเพิ่มโอกาสการทำงานในอนาคต นอกจากนี้ การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับบริษัท มิตซู แอลบีเอ็ม จำกัด ผู้จำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิ จะช่วยตอกย้ำความมุ่งมั่นในการพัฒนาบุคลากรที่มีคุณภาพ ผ่านการสนับสนุนพันธกิจทางการศึกษาของวิทยาลัย อีกทั้ง การได้ใช้ชุดเครื่องยนต์และเทคโนโลยีจากมิตซูบิชิ มอเตอร์ส เป็นสื่อการเรียนการสอน นับเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่นักศึกษาอีกด้วย”
นายอภิวัฒน์ เผ่าไทยเจริญสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซู แอลบีเอ็ม จำกัด กล่าวว่า “เราเชื่อมั่นว่าการสนับสนุนด้านการศึกษาจะช่วยสร้างคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นการสร้างรากฐานในด้านทักษะความรู้ ให้แก่เยาวชน เราภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนโครงการนี้ การร่วมมือกับ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ไม่เพียงช่วยสนับสนุนภารกิจของวิทยาลัยเท่านั้น แต่ยังมอบประสบการณ์การทำงานจริงให้กับนักศึกษา พร้อมกับแสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมของรถยนต์และเทคโนโลยีของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส อีกด้วย”
การบริจาคเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังให้แก่ วิทยาลัยเทคนิคลพบุรี ประกอบด้วย เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ รหัส 4N16 รุ่นใหม่ล่าสุด ที่เป็นขุมพลังขับเคลื่อนใน นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน, เครื่องยนต์ 4N15, ชุดเกียร์ธรรมดา รุ่น R6M5A, และเฟืองท้าย อีกทั้ง ยังมีการฝึกอบรมภาคปฏิบัติโดยผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันการศึกษาและฝึกอบรม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย และช่างเทคนิคจาก บริษัท มิตซู แอลบีเอ็ม จำกัด มาให้ความรู้และการทดลองปฏิบัติจริงภายในงานอีกด้วย
โครงการมอบเครื่องยนต์ให้แก่สถาบันการศึกษา ได้ริเริ่มมาตั้งแต่ปี 2558 สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของบริษัทฯ
ในการส่งเสริมการศึกษาและพัฒนาบุคลากร ที่มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างยั่งยืน ตามปณิธาน
ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมภายใต้วิสัยทัศน์ ‘สรรค์สร้าง เคียงข้าง สังคมไทย’ โดยมุ่งเน้นการดำเนินกิจกรรม 3 ด้านหลัก ได้แก่ การศึกษา สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ อันเป็นรากฐานสำคัญเพื่อการเติบโตไปพร้อมกับสังคมไทยอย่างยั่งยืน