- บีเอ็มดับเบิลยูและมินิ ทำยอดจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ได้รวม 13,659 คันในปี 2567
รักษาตำแหน่งผู้นำในเซกเมนต์รถยนต์พรีเมียม ท่ามกลางปีที่ท้าทายของตลาดไทย - บีเอ็มดับเบิลยูสร้างสถิติใหม่ด้วยส่วนแบ่งตลาดพรีเมียม 39.9% และส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียม 22.6%
- แฟนๆ มินิชาวไทยให้การต้อนรับ New MINI Family อย่างอบอุ่น ดันยอดจดทะเบียนรวมของมินิให้เติบโต 7.6% ขณะที่ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าพุ่งสูงขึ้นกว่า 44% สวนทางความผันผวนของตลาดในช่วงปีที่ผ่านมา
- ความพึงพอใจของลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมรางวัลจากหลากหลายเวทีสำหรับ
ทั้งบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
กรุงเทพฯ. บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เผยผลการดำเนินงานจากปี 2567 หลังทำผลงานได้อย่างแข็งแกร่งในตลาดท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ท้าทาย แม้ว่าตลาดรถยนต์พรีเมียมในภาพรวมจะมียอดจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ลดลงถึง 24% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แต่ทั้งสามแบรนด์ภายใต้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังมีผลงานในตลาดที่ดีกว่าค่าเฉลี่ย ด้วยยอดส่งมอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิรวม 13,659 คัน โดยมินิมียอดจดทะเบียนรถใหม่เพิ่มขึ้น 7.6% มาอยู่ที่ 1,451 คัน ขณะที่บีเอ็มดับเบิลยูทำยอดรวมได้ 12,208 คัน พร้อมรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดรถยนต์พรีเมียมได้ 5 ปีซ้อน สานต่ออีกหนึ่งบทสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์แห่งความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
มร. เรเน่ แกร์ฮาร์ด ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มีความมุ่งมั่นที่จะยกระดับทั้งนวัตกรรม ความยั่งยืน และความพึงพอใจของลูกค้ามาโดยตลอด และการยึดมั่นในเป้าหมาย
ทั้งสามด้านหลักนี้ ประกอบกับแรงสนับสนุนที่เข้มแข็งจากทั้งทีมงาน พันธมิตร และลูกค้าของเรา ต่างช่วยให้เราสามารถฟันฝ่าสถานการณ์ที่ท้าทายในตลาดไทยได้อย่างมั่นคง ถึงแม้ว่าตลาดรถยนต์ของไทยจะต้องใช้เวลา
อีกไม่น้อยในการฟื้นตัวท่ามกลางแรงกดดันจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ แต่เราก็ยังมองเห็นปัจจัยบวกจากแนวโน้มความเปลี่ยนแปลงที่ยังคงชัดเจนในหลายด้าน เช่น ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าในกลุ่ม BEV ของทั้งบีเอ็มดับเบิลยูและมินิที่เพิ่มขึ้นราว 11% จากปีที่แล้ว เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ลูกค้าในประเทศไทยต่าง
ตอบรับมุมมองและวิสัยทัศน์ของเราในอุตสาหกรรมยานยนต์ และเราก็พร้อมที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดียิ่งขึ้นไปอีก ทั้งในปี 2025 นี้ และปีต่อ ๆ ไป”
ในปี 2567 บีเอ็มดับเบิลยูยังคงรักษาแรงขับเคลื่อนที่ผลักดันให้แบรนด์รั้งอันดับหนึ่งในเซกเมนต์รถยนต์พรีเมียม
ได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมียอดจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ลดลง 13.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน ลงมาอยู่ที่ 12,208 คัน แต่ส่วนแบ่งตลาดของบีเอ็มดับเบิลยูในกลุ่มรถยนต์พรีเมียมกลับเพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อน เป็น 39.9% และหากพิจารณาเฉพาะกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียม บีเอ็มดับเบิลยูก็มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นกว่า 9.1% มาอยู่ที่ 22.6% ส่วนทางด้านมินิ การยกทัพ New MINI Family มาเปิดตัวในประเทศไทยก็ช่วยให้ยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าของแบรนด์พุ่งสูงขึ้นกว่า 44% ด้วยยอดรวมเฉพาะรุ่น BEV ถึง 295 คัน
สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ก็ทำผลงานได้อย่างมั่นคงไม่แพ้กัน ด้วยยอดจดทะเบียนมอเตอร์ไซค์ใหม่ที่ลดลงเพียง 6% หรือคิดเป็นจำนวน 1,011 คัน
สานต่อความเชื่อมั่น ยกระดับความวางใจ กับอีกหนึ่งปีแห่งเกียรติยศของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
นอกเหนือจากยอดขายและส่วนแบ่งตลาดแล้ว บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงมุ่งยกระดับความพึงพอใจของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยผลการสำรวจลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูที่ใช้บริการด้านการขายและหลังการขายตลอดปี 2567 ได้แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการในรอบปีที่ผ่านมาด้วยคะแนน Net Promoter Score (NPS) สำหรับบริการด้านการขายที่ 95 คะแนน (เพิ่มขึ้น 1 คะแนนจากปี 2566) และสำหรับการบริการหลังการขายที่ 93 คะแนน (เพิ่มขึ้น
2 คะแนนจากปี 2566) มุมมองของลูกค้านี้ยังสะท้อนออกมาให้เห็นในผลสำรวจ Thailand’s Most Admired Company ครั้งที่ 17 ประจำปีของนิตยสาร BrandAge ซึ่งจัดให้บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เป็นบริษัทในอันดับ 1 ในกลุ่มธุรกิจยานยนต์ ต่อเนื่องกันเป็นปีที่ 7 ด้วยคะแนนสูงสุดทั้งในด้านผลประกอบการ การบริหารจัดการ และการบริการลูกค้า
ส่วนนิตยสาร Marketeer ก็ได้มอบรางวัล No.1 Brand Thailand ในตลาดรถยนต์พรีเมียมให้กับบีเอ็มดับเบิลยู หลังจากที่ได้รวบรวมความเห็นจากผู้บริโภคกว่า 6,000 คนทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ปี 2567 ยังนับเป็นอีกหนึ่งปีที่น่าจดจำของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย บนเวทีรางวัลของอุตสาหกรรมยานยนต์ หลังจากที่มอเตอร์ไซค์ทัวริ่ง เอนดูโร่ตัวแรงอย่าง บีเอ็มดับเบิลยู R 1300 GS ได้รับเลือกให้เป็นรถจักรยานยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปีบนเวที Car, EV & Motorcycle of the Year 2024 โดยสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย (สรยท.) นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ใหม่ ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลรถยนต์
ยอดเยี่ยมแห่งปี ขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู i5 ก็ติดโผเข้าชิงรางวัลรถยนต์ไฟฟ้ายอดเยี่ยมแห่งปีด้วยเช่นกัน และสำหรับรางวัลด้านการตลาดจากเวที Thailand Car & Motorcycle Marketing Awards 2024 คณะกรรมการจาก สรยท. ก็ได้ร่วมเฉลิมฉลองความสำเร็จของบีเอ็มดับเบิลยูในตลาดรถยนต์พรีเมียม ด้วยรางวัลแบรนด์รถยนต์พรีเมียมที่มียอดขายสูงสุดประจำปี 2566 และรางวัลมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสุดล้ำสมัย สำหรับสกูตเตอร์ไฟฟ้ารุ่น CE 02 จาก
บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด
ต่อยอดความสำเร็จในปี 2568 เดินหน้าพัฒนายนตรกรรมและบริการอย่างต่อเนื่อง
“เราขอขอบคุณลูกค้าทุกคนและพันธมิตรในวงการยานยนต์ทุกภาคส่วนที่ให้ความไว้วางใจในบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ในฐานะผู้นำในตลาดพรีเมียม เราและผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูและมินิอย่างเป็นทางการทุกท่าน ยังคงเดินหน้าสร้างสรรค์และส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า เพื่อตอบโจทย์ด้านการขับขี่ในทุกรูปแบบ บนทุกเส้นทาง
สำหรับในปี 2568 เราก็มีแผนงานอย่างครบวงจรเพื่อนำนวัตกรรมล่าสุดและประสบการณ์ที่หลากหลายและแตกต่าง
มาให้ลูกค้าในประเทศไทยได้สัมผัสกัน โดยทุกท่านจะได้ทราบรายละเอียดกันเร็ว ๆ นี้” มร. เรเน่ แกร์ฮาร์ด กล่าวเสริม
นอกเหนือจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้ทั้งสามแบรนด์แล้ว บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังเตรียมขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายทั่วประเทศตลอดทั้งปีภายใต้แนวคิด ‘Retail Next’ ซึ่งเน้นการผสมผสานประสบการณ์ดิจิทัลและไลฟ์สไตล์ไว้ในพื้นที่โชว์รูม โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้มีการเปิดโชว์รูมใหม่ครบทั้งสามแบรนด์ ได้แก่ สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู คือ เพอร์ฟอร์แมนซ์ มอเตอร์ส อยุธยา และสำหรับมินิ ได้แก่ เพอร์ฟอร์แมนซ์ มอเตอร์ส ราชพฤกษ์,
ยูโรปา มอเตอร์ (สำนักงานใหญ่) และ บาร์เซโลนา มอเตอร์ บางแค ส่วนบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ก็ได้ต้อนรับ
ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการรายใหม่ คือ โมโตกรุ๊ป พระราม 5 พร้อมเปิดตัวโชว์รูมภายใต้คอนเซปต์ใหม่ New Retail Brand Experience เป็นครั้งแรก เน้นบรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเอง เสมือนการพบปะตามสไตล์ของ
เหล่าไบค์เกอร์ เพื่อสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าในทุกขั้นตอน
เพอร์ฟอร์แมนซ์ มอเตอร์ส อยุธยา
เพอร์ฟอร์แมนซ์ มอเตอร์ส ราชพฤกษ์
ยูโรปา มอเตอร์ (สำนักงานใหญ่)
บาร์เซโลนา มอเตอร์ บางแค
โมโตกรุ๊ป พระราม 5