Hunter 350 ออกไล่ล่าความสนุกมาแล้วทั่วโลกกว่า 200,000 คัน! ภายในไม่ถึง 12 เดือนนับตั้งแต่เปิดตัว!

0
2080

กรุงเทพ, 15 สิงหาคม 2566 –  ด้วยพลังของกลุ่ม Hunter 350 คอมมูนิตี้ที่แข็งแกร่งทั่วโลก สร้างบทพิสูจน์การเติบโตของ ROYAL ENFIELD HUNTER 350 อย่างไม่หยุดยั้ง! Royal Enfield (โรยัล เอ็นฟีลด์) ผู้นำระดับโลกในกลุ่มรถจักยานยนต์ขนาดกลาง (250cc – 750cc) ดันยอดขายรุ่น HUNTER 350 ทะลุ 200,000 คัน ภายในไม่ถึง 12 เดือน โดยนับตั้งแต่เปิดตัวในเดือนสิงหาคม 2565 Hunter 350 แตะยอดขาย 100,000 คัน ภายใน 6 เดือน (กุมภาพันธ์ 2566) และอีก 5 เดือน
ถัดมา Hunter 350 ก็ยังไต่ระดับทำยอดทะลุอีก 100,000 คัน นับเป็นรถโรดสเตอร์ขนาดกะทัดรัดและมีสไตล์ที่กลุ่มนักขับขี่ให้ความสนใจไม่แผ่ว!

Hunter 350 ได้รับการพัฒนาจากความต้องการพื้นฐานของผู้ขับขี่ พร้อมเสริมเอกลักษณ์ของ Royal Enfield ร่วมกับการออกแบบที่กะทัดรัดและให้ความรู้สึกสดใหม่ Hunter 350 นับเป็นหนึ่งในรุ่นที่น่าจับตาที่จะดึงกลุ่มผู้บริโภคใหม่ๆ ที่สนใจการขับขี่ เข้าสู่ชุมชน Royal Enfield ดังจะเห็นได้จากยอดขายที่เติบโตต่อเนื่อง พร้อมเสียงชื่นชมที่เพิ่มมากขึ้นเหล่านี้

Mr. B. Govindarajan ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Royal Enfield ให้ความเห็นเกี่ยวกับความสำเร็จของ Hunter 350ในครั้งนี้ว่า “Hunter 350 เป็นรถจักรยานยนต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดที่เปิดตัวในกลุ่มรถจักรยานยนต์ขนาดกลาง ตั้งแต่ในช่วงปีที่ผ่านมา เราภูมิใจมากที่ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งปีนับตั้งแต่เปิดตัว Hunter ได้รับการตอบรับจากกลุ่มนักขับขี่มากกว่าสองแสนคนทั่วโลก ไม่เพียงแค่ในอินเดียเท่านั้น แต่ยังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในตลาดต่างประเทศอีกด้วย เราขอขอบคุณชุมชน Hunter ทั้งเก่าและใหม่ ที่ร่วมสร้างพลังและความมีชีวิตชีวา ทำให้ ‘Hunter 350’ ประสบความสำเร็จอย่างมากและช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายได้ในเวลาอันสั้น ยิ่งไปกว่านั้นต้องขอขอบคุณโรงงานผลิตที่ทันสมัยของเราในเมืองเชนไน รวมถึงเครือข่ายค้าปลีก
ทั่วโลกของเราด้วย เรามั่นใจว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับฮันเตอร์ทั่วโลกได้อย่างแน่นอน”

ด้วยสไตล์สุดเท่ ที่มาพร้อมสมรรถนะที่คล่องตัว และเสน่ห์แบบโมเดิร์นเรโทร ทำให้ Hunter 350 เป็นรุ่นยอดนิยมสำหรับผู้ขับขี่รุ่นใหม่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะใช้ในการลัดเลาะเส้นทางซอกแซกภายในเมือง หรือการขับขี่ออกไปบนถนนที่เปิดโล่ง นักขับขี่รุ่นใหม่ต่างเลือก Hunter 350 เพราะความคล่องแคล่วว่องไวที่สร้างความมั่นใจในทุกถนน จึงไม่น่าแปลกใจที่ Hunter 350กวาดรางวัลจากอินเดียและนานาชาติมากกว่า 20 รางวัล รวมถึงรางวัล ‘Indian Motorcycle of the Year 2023’ และรางวัล Best Modern Classic Lightweight Motorcycle in Thailand

ในกลุ่มประเทศ APAC ความนิยมของ Hunter 350 เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความตั้งใจของ Royal Enfield ในการนำเสนอนวัตกรรมรถจักรยานยนต์ที่มาพร้อมสไตล์ Hunter 350 นับเป็นรุ่นสำคัญในการดึงดูดผู้ขับขี่หน้าใหม่ที่ต้องการ
นำความสนุกสนานมาสู่การขับขี่ในทุกๆ วัน นอกจากนี้ยังกลายเป็นรถจักรยานยนต์ที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่ชอบตกแต่ง
รถให้เป็นสไตล์ของตัวเอง ได้มาแบ่งปันฝีมือและการสร้างสรรค์ด้วยกัน

เกี่ยวกับโรยัล เอ็นฟีลด์:

Royal Enfield แบรนด์รถจักรยานยนต์ที่มีสายการผลิตต่อเนื่องยาวนานที่สุดในโลก โดยได้สร้างสรรค์รถจักรยานยนต์ที่สง่างามมีเอกลักษณ์มาตั้งแต่ปี 1901 จากต้นกำเนิดในประเทศอังกฤษ ได้ส่งต่อศาสตร์แห่งการสร้างสรรค์อันล้ำค่ามาสู่โรงงานผลิตในเมือง Madras เมื่อปี 1955 นับเป็นฐานการผลิตสำคัญที่ Royal Enfield สร้างการเติบโตให้กับรถสองล้อขนาดกลางในประเทศอินเดีย สเน่ห์และความน่าสนใจของ Royal Enfield คือความมีเอกลักษณ์ ไม่ซับซ้อน เข้าถึงได้ พร้อมมอบประสบการณ์ที่สนุกสนานในการขับขี่ นับเป็นยานพาหนะที่เหมาะในการสำรวจเปิดโลก และแสดงออกถึงบุคลิกที่มีเอกลักษณ์ของผู้ขับ ซึ่งเป็นแนวทางที่แบรนด์เรียกว่า Pure Motorcycling

กลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมของ Royal Enfield ได้แก่ Hunter 350, Classic 350, Meteor 350, Super Meteor 650, Interceptor 650, Continental GT 650 รวมถึงมอเตอร์ไซค์ผจญภัย Himalayan, Scram 411 และ Bullet 350 กลุ่มนักขับขี่ผู้หลงใหลในเอกลักษณ์ของเครื่องยนต์และการตกแต่ง สามารถร่วมกิจกรรมต่างๆ มากมายได้ตลอดทั้งปี ที่มีทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับภูมิภาค และระดับนานาชาติ ตัวอย่างกิจกรรมที่น่าจับตามองมากที่สุดคือ Rider Mania ซึ่งเป็นการรวมตัวประจำปีของผู้ที่ชื่นชอบ Royal Enfield หลายพันคน จัดขึ้นที่รัฐกัว ประเทศอินเดีย และ Himalayan Odyssey ซึ่งเป็นการเดินทางแสวงบุญประจำปีบนภูมิประเทศที่ท้าทายที่สุดทางผ่านภูเขาที่สูงที่สุด ที่สร้างความประทับใจที่สุดเช่นกัน

Royal Enfield คือหนึ่งกลุ่มธุรกิจของ Eicher Motors Limited ดำเนินธุรกิจในรูปแบบร้านค้ามากกว่า 2,050 แห่งในเมืองใหญ่ทั่วประเทศอินเดีย และอีก 1,150 ร้านค้า ที่พบได้ในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก Royal Enfield ยังมีศูนย์ดูแลเชิงเทคนิคระดับโลกสองแห่งในเมือง Bruntingthorpe สหราชอาณาจักร และในเมือง Chennai ประเทศอินเดีย โดยโรงงานผลิตที่ทันสมัยทั้งสองแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ Oragadam และ Vallam Vadagal ใกล้กับเมือง Chennai นอกจากนี้ Royal Enfield ยังมีโรงงานประกอบ CKD อันทันสมัย 4 แห่งทั่วโลก ทั้งในบราซิล ประเทศไทย อาร์เจนตินา และโคลอมเบีย ด้วยอัตรา CAGR หรืออัตราผลตอบแทนมากกว่า 35% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา Royal Enfield จึงเป็นผู้นำในตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดกลางระดับโลกอย่างแท้จริง

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่