วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 24, 2024
spot_img
หน้าแรกAuto Newsมิตซูบิชิ มอเตอร์ส เปิดตัวรถยนต์ “มิตซูบิชิ เอ็กซ์อาร์ที คอนเซ็ปต์” ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2023

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เปิดตัวรถยนต์ “มิตซูบิชิ เอ็กซ์อาร์ที คอนเซ็ปต์” ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2023

-

จากภาพ: มร. ทาคาโอะ คาโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น เปิดตัวรถยนต์มิตซูบิชิ เอ็กซ์อาร์ที คอนเซ็ปต์ ณ งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44

กรุงเทพฯ – 21 มีนาคม 2566: มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น นำโดย มร. ทาคาโอะ คาโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยโฉมรถยนต์ “มิตซูบิชิ เอ็กซ์อาร์ที คอนเซ็ปต์” ซึ่งเป็นรถต้นแบบของรถกระบะ ไทรทัน รุ่นใหม่1 ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์2 ครั้งที่ 44 ในระหว่างวันที่ 21 มีนาคม ถึง 2 เมษายนนี้ โดยมีแผนเปิดตัวรถอย่างเป็นทางการ ภายในปีงบประมาณ 25663

มิตซูบิชิ ไทรทัน เป็นรถรุ่นที่ขายดีที่สุดของแบรนด์มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ซึ่งผลิตจากโรงงานแหลมฉบังในประเทศไทย เพื่อส่งออกไปยังกว่า 150 ประเทศทั่วโลก จึงนับเป็นรถยนต์รุ่นสำคัญในเชิงกลยุทธ์ระดับโลกของบริษัทฯ โดยรถมิตซูบิชิไทรทัน รุ่นใหม่ จะเป็นรถกระบะขนาดกลางเจนเนอเรชั่นที่ 6 ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ซึ่งได้รับการออกแบบใหม่ทั้งคันเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี โดยหลังจากที่เปิดตัวในประเทศไทยภายในปีงบประมาณ 2566 แล้ว จะมีการเปิดตัวรถรุ่นนี้ในภูมิภาคอาเซียน โอเชียเนีย และตลาดอื่น ๆ ทั่วโลกเป็นลำดับ

“มิตซูบิชิ เอ็กซ์อาร์ที คอนเซ็ปต์” เป็นรถต้นแบบของรถกระบะไทรทัน โมเดลใหม่ ที่มาพร้อมดีไซน์ดุดันสะดุดตาตั้งแต่ด้านหน้าจรดท้าย เสริมอารมณ์แกร่งด้วยเส้นนำสายตาจากกระโปรงหน้าสู่ด้านข้างตัวถังในสไตล์แนวราบ พร้อมการตกแต่งเหนือซุ้มล้อหน้า-หลัง และติดตั้งยางลุยโคลน (mud-terrain) ที่ช่วยเพิ่มพลังขับเคลื่อนเต็มสปีด ปราดเปรียวพร้อมพุ่งทะยานในทุกเส้นทางสุดหฤโหดของการแข่งขันแรลลี่ ตัวถังห่อหุ้มด้วยลายพราง ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจาก “ลาวา” หินภูเขาไฟที่อัดแน่นด้วยพลังงาน อันทรงพลัง พร้อมด้วยกราฟฟิกเส้นขนานแนวเฉียง 10 เส้น ในแบบฉบับของโลโก้ แรลลี่อาร์ท ที่สะท้อนถึงจิตวิญญาณที่ขับเคลื่อนไปข้างหน้าของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ได้อย่างโดดเด่น

ในปีนี้ ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ท ซึ่งได้รับการสนับสนุนด้านเทคนิคจากมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ได้วางแผนที่จะลงแข่งขันในรายการเอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ 20234 ด้วยรถโปรโตไทพ์ครอสคันทรี ซึ่งเป็นไทรทัน รุ่นใหม่ (Group T1)  โดยมีเป้าหมายมุ่งคว้าแชมป์ 2 สมัยติดต่อกัน โดยจะยังมี มร. ฮิโรชิ มาซูโอกะ เจ้าของตำแหน่งแชมป์ดาการ์ แรลลี่ 2 สมัยในปี 2002 และ 2003 ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการทีม ขณะที่วิศวกรของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส จะทำการทดสอบสมรรถนะก่อนแข่งขันและให้การสนับสนุนตลอดการแข่งขันแรลลี่ในครั้งนี้ พร้อมกันนี้ ทางมิตซูบิชิ มอเตอร์ส จะถ่ายทอดความเชี่ยวชาญที่สั่งสมจากการแข่งขันแรลลี่ เพื่อนำมาใช้พัฒนาการผลิตรถยนต์ที่จำหน่ายในท้องตลาด ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างรถยนต์ภายใต้แนวคิด Mitsubishi Motors-ness เพื่อมอบการขับขี่ที่ปลอดภัย สะดวกสบาย และให้ความรื่นรมย์ในทุกสภาพอากาศและทุกสภาพถนน

มร. ทาคาโอะ คาโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า “ปีงบประมาณ 2566 เป็นปีที่มีความสำคัญสำหรับมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในการเร่งสร้างการเติบโตทางธุรกิจของเราในภูมิภาคอาเซียน ด้วยการเปิดตัวไทรทัน รุ่นใหม่ และรถคอมแพ็กต์เอสยูวีรุ่นใหม่ โดยรถไทรทัน รุ่นใหม่ อยู่ระหว่างการทดสอบในขั้นตอนสุดท้ายเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการเปิดตัว ซึ่งเราได้ดำเนินการทดสอบอย่างเข้มข้นทั่วโลก พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้ที่สั่งสมมาจากการแข่งขันแรลลี่ไว้ในรถรุ่นนี้ และด้วยการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ตามแผนที่วางไว้ จะทำให้เราเดินหน้าขับเคลื่อนการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง ผมขอให้ทุกท่านโปรดติดตามความเคลื่อนไหวของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในอนาคต อย่างใกล้ชิด”

เมื่อเร็วๆ นี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ได้ประกาศแผนธุรกิจระยะกลาง รอบ 3 ปี (ปีงบประมาณ 2566 – 2568) ภายใต้ชื่อแผน “ชาเลนจ์ 2025” (Challenge 2025) เดินหน้าเต็มสูบผลักดันธุรกิจให้เติบโต เร่งเครื่องเตรียมพร้อมสำหรับตลาดคนรุ่นใหม่

ในด้านการผลิตรถยนต์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส จะสานต่อการดำเนินงานเกี่ยวกับระบบขับเคลื่อนยานยนต์ด้วยไฟฟ้า (Electrification) อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นโซลูชั่นรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งยังคงเป็นประเด็นสำคัญระดับโลก พร้อมช่วยขับเคลื่อนสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยมีกลยุทธ์ระดับภูมิภาคในการผลักดันแผนงานและจัดสรรทรัพยากร ในเชิงธุรกิจและการขยายห่วงโซ่คุณค่า มิตซูบิชิ มอเตอร์ส มุ่งเติบโตด้วยการเจาะธุรกิจใหม่เพื่อสร้างแหล่งรายได้ใหม่ในอนาคต นอกจากนี้ บริษัทฯ จะสร้างความสัมพันธ์ที่เปี่ยมด้วยความเชื่อมั่นกับลูกค้า ผ่านผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่หลอมรวมความเป็นมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (Mitsubishi Motors-ness) ควบคู่ไปกับการสร้างเสริมคุณค่าของแบรนด์

แผนหลักของ “ชาเลนจ์ 2025” (Challenge 2025) ในการดำเนินธุรกิจในอนาคต ประกอบด้วย

  • มุ่งสู่เป้าหมายยอดจำหน่ายรถยนต์ที่ 1.1 ล้านคัน และผลกำไรจากการปฏิบัติงาน 2.2 แสนล้านเยน หรือประมาณ 7 หมื่นล้านบาท (อัตราส่วนกำไรจากการปฏิบัติงานร้อยละ 7)
  • ให้ความสำคัญต่อการจัดการทรัพยากรเพื่อการดำเนินงานในภูมิภาคอาเซียน / โอเชียเนีย ควบคู่ไปกับการเพิ่มยอดขาย ส่วนแบ่งตลาด และรายได้
  • เปิดตัวรถยนต์ 16 รุ่น ภายใน 5 ปีข้างหน้า [รวมถึงรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า (xEV) 9 รุ่น]
  • ขยายการลงทุนเพิ่มประมาณร้อยละ 30 ภายใน 6 ปีข้างหน้า จนถึงปี 2571 ด้านการวิจัยและพัฒนา และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร (คาดว่าการจัดสรรการลงทุนด้านระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า ไอที และธุรกิจใหม่จะมีอัตราส่วนประมาณร้อยละ 70 ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2569 เป็นต้นไป)
  • ลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก เพื่อช่วยขับเคลื่อนสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน
  • ลงทุนมูลค่า 2.1 แสนล้านเยน หรือประมาณ 4 หมื่นล้านบาท ภายในปี 2573 เพื่อจัดหาแบตเตอรี่รวมทั้งหมด 15 กิกะวัตต์ชั่วโมง
  • กระชับความสัมพันธ์กับบริษัทพันธมิตร (การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยส่งเสริมกัน และอื่น ๆ)
  • สร้างความท้าทายในธุรกิจใหม่ ด้วยการใช้สินทรัพย์ที่มีความพิเศษเฉพาะสำหรับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ (การจัดการพลังงาน การนำแบตเตอรี่กลับมาใช้ใหม่ การจำหน่ายข้อมูล และอื่น ๆ)

ดาวน์โหลดรูปภาพเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/44thBIMS2023

ข้อมูลอ้างอิง:

1) ไทรทัน ได้รับการจัดจำหน่ายในชื่อ L200 ในบางประเทศ

2) วันที่ 21 มีนาคม 2566 เป็นรอบสื่อมวลชนของงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ซึ่งจะเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมงานระหว่างวันที่ 22 มีนาคม ถึง 2 เมษายน 2566

3) ปีงบประมาณ 2566 ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ครอบคลุมเดือนเมษายน 2566 ถึงมีนาคม 2567

4) เอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ เป็นการแข่งขันแรลลี่รายการใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ปัจจุบันมีการจัดการแข่งขันมาแล้วทั้งหมด 27 ครั้ง โดยการแข่งขันในปีนี้อยู่ระหว่างการวางแผนเส้นทางที่สมบุกสมบันรวมระยะทางกว่า 2,000 กม. เส้นทางส่วนใหญ่อยู่ในประเทศไทยและข้ามพรมแดนไปยังประเทศลาว เริ่มแข่งขันในช่วงกลางเดือนสิงหาคม

ถอดเทปบทสัมภาษณ์ Media Q&As
ณ บูธ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส
ในงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44

วันที่ 21 มีนาคม 2566  เวลา 11.00-11.30 น.

ผู้บริหารที่ให้สัมภาษณ์:
มร.ทาคาโอะ  คาโตะ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น

  1. Q: กำหนดการของ Triton รุ่นใหม่ มีแนวโน้มจะเปิดตัวในช่วงไหน?

A: สำหรับ Triton รุ่นใหม่ เรามีแพลนที่จะเปิดตัวในเดือนกรกฎาคม

  1. Q: จากแผนธุรกิจของ Mitsubishi Motors ในช่วงที่ผ่านมา เห็นว่าจะทำตลาดกระบะที่เป็นรถไฟฟ้าด้วย อยากทราบว่าโมเดลนี้พัฒนารองรับการใช้งานแบบ BEV แล้วหรือยัง และการพัฒนาจากกระบะให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้า มีความยากง่ายแค่ไหน?

A: ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการพิจารณาในการพัฒนารถกระบะแบบ BEV อยู่ เพราะมองเห็นถึงความเป็นกลางทางคาร์บอน บริษัทจึงวางแผนพัฒนารถที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมออกสู่ตลาดให้มากขึ้น ซึ่งในกรณีของประเทศไทย ก็ถือว่าเป็นตลาดที่มีความสำคัญ จึงอยากพัฒนารถรุ่นนี้ออกมารองรับตลาด และในเรื่องความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ก็มองว่า EV จะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตาม รถ Mitsubishi Triton ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ก็ยังสามารถที่จะขับขี่ได้อย่างสนุกสนาน ทรงพลัง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

  1. Q: การมาเยือนของประธาน Mitsubishi Motors ในครั้งนี้ คงไม่ได้มาแค่เปิดตัว Concept Car ตัวนี้เพียงอย่างเดียวใช่ไหม? แต่ยังมีภารกิจสำคัญที่จะเข้าไปพูดคุยกับทางรัฐบาลด้วยไหม? หรือมีการพูดคุยเรื่องของการลงทุนเพิ่มเติมในประเทศไทยหรือเปล่า?

A: สำหรับวันนี้ ที่มาประเทศไทยก็เพื่อที่จะมางานมอเตอร์โชว์ เพื่อเปิดตัวรถ Concept Car ของกระบะไทรทันใหม่ และอีกเรื่องคือ ต้องการที่จะสื่อสารกับทางตัวแทนจำหน่าย (Dealers) โดยจะมีการจัดประชุม Dealer เพื่อสื่อสาร

  1. Q: ที่บอกว่าจะไปสื่อสารกับ Dealers คือการสื่อสารเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับ Dealer หรือว่าในประเด็นไหนบ้าง เช่น เรื่องของยอดขายและProduct ด้วยไหม เนื่องจากทุกวันนี้ Mitsubishi Motors ค่อนข้างที่จะมียอดขายที่ลดลงไปไม่น้อย และ Product หลักอยู่ที่กระบะอย่างเดียว การที่เปิดตัว Triton รุ่นใหม่เข้ามา มีเป้าหมายที่จะกลับมายืนเป็นที่ 3 ของตลาด หรือเปล่า รวมถึง Product อื่นๆ เช่น Eco car/รถยนต์นั่ง/เทคโนโลยีHybrid เลยอยากถามท่านประธานว่า มองเห็นความสำคัญของตลาดไทยมากน้อยแค่ไหน และจะมีการผลักดัน Model อื่นๆอะไรอีกไหมนอกจาก Triton?

A: ในครั้งนี้เราต้องการจะสื่อสารกับ Dealer เพราะเราจะมีการเปิดตัว Triton รุ่นใหม่ ว่าเป็น Product ที่ดีเยี่ยม และอยากให้ตัวแทนจำหน่ายขายรถได้เยอะๆ นอกจากนั้นเราก็จะพูดคุยหารือแลกเปลี่ยนกับทาง Dealer ว่าในอนาคตจะเป็น Hybrid หรือ Plug-in Hybrid หรือว่าแบตเตอรี่ EV ดี

ในส่วนของประเทศไทยที่ผ่านมา พยายามจะเน้นในเรื่องของคุณภาพของการขายให้ดีขึ้น ซึ่งก็คือเรื่องของความพึงพอใจของลูกค้า และเรื่องของ Aftersales ที่จะต้องมีการบริการที่ดีขึ้น ที่จะส่งผลให้ราคาขายต่อ (Resale Value) ของรถ Mitsubishi Motors มีราคาที่สูงขึ้น ตรงนี้เราก็ประสบความสำเร็จแล้วส่วนหนึ่ง ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงที่เราจะป้อน Product ใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดมากขึ้น ท่านประธานจึงมาด้วยตัวเอง เพื่อมาเป็นผู้สื่อสารว่าเราจะมีการกระตุ้นตลาดด้วยจำนวนรถรุ่นใหม่ๆที่จะออกมา และช่วงนี้เป็นช่วงกลยุทธ์ระยะที่ 2 ที่จะสร้าง Customer Satisfaction เน้นการบริการที่ดีขึ้น และเชื่อว่า Dealer จะช่วยให้ Brand Value ดีขึ้นได้

  1. Q: เป้าหมายด้านยอดขาย Triton รุ่นใหม่ จากที่จะเปิดตัวในเดือนกรกฎาคม จะกลับมายืนที่ 3 ไหม หรือว่าจะมียอดขายอย่างไร หรือว่าในเรื่องของ Product อื่นๆ เช่น รถยนต์นั่ง Mitsubishi Motors จะเดินหน้าไปในรูปแบบไหน หรือ Eco car ไม่ได้มีการพัฒนาต่อแล้วใช่ไหม อยากขอความชัดเจน?

A: สำหรับในวันนี้ เราเปิดตัวรถต้นแบบของไทรทัน รุ่นใหม่ (Concept car of the All-New Triton) แต่ตัวรถไทรทัน รุ่นใหม่ จริงๆ นั้น ยังมิได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันนี้  ดังนั้น ส่วนข้อมูลของตัวรถจริงๆ จะมีการให้รายละเอียดข้อมูลที่ชัดเจนกว่านี้ในภายหน้า เราค่อนข้างที่จะมั่นใจใน Product ของเราแน่นอน และเราจะเข้ามาช่วยกระตุ้นตลาด ไม่ว่าจะเป็นการขายในประเทศหรือส่งออกนอกประเทศ ในส่วนของรถรุ่นอื่นๆ ขอสงวนสิทธิ์ยังไม่เปิดเผยข้อมูลในขณะนี้ โดยทาง Mitsubishi Motors Corporation ได้มีการประกาศแผนธุรกิจระยะกลางออกมา ซึ่งแผนนั้น ได้มีการประกาศธุรกิจในระดับ Global ออกมาว่า จะมีการพัฒนารถยนต์เพื่อตอบโจทย์ตลาดอาเซียนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทาง Mitsubishi Motors จะมีการเตรียมการในการพัฒนารถยนต์รุ่นต่างๆและจะมีการเปิดตัวออกมาในตลาดให้กับทุกท่าน ในส่วนของเทคโนโลยีที่เป็นหลักของเรา เช่น EV ก็คงจะมีการออกมาใน Product ใหม่ด้วย

  1. Q: คำถามนี้เจาะจงในส่วนของประเทศไทย อยากสอบถามในเรื่องของมาตรฐาน EURO5 ที่จะมีผลบังคับใช้ในปี 2567 ทาง Mitsubishi Motors ได้มีการเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้อย่างไรบ้าง?

A: แน่นอนว่าเรามีการเตรียมความพร้อมกันอยู่ ในส่วนของ Product ที่จะออกมา เรายังไม่เปิดเผยรายละเอียด ณ ขณะนี้ แต่จากนี้ต่อไปเกือบทุกปี เราจะมีการเปิดตัวรุ่นใหม่ แบบ Model change เพื่อที่จะให้ออกมาผ่านตามมาตรฐานต่างๆ ที่ประเทศไทยมีการกำหนดแน่นอน

  1. Q: Mitsubishi Motors Corporation มองว่าประเทศไทยมีความสำคัญอย่างไร?

A: ในประเทศไทยถือว่าเป็นตลาดที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับทาง Mitsubishi Motors Corporation เพราะหลายปีที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุนธุรกิจการส่งออก โดยนโยบายของภาครัฐมีส่วนช่วยทำให้เราสามารถที่จะขยายเศรษฐกิจของประเทศไทย และชื่อของ Mitsubishi Motors Corporation ก็เป็นที่รู้จักกับคนไทย เพราะฉะนั้น เราจึงต้องใส่ใจและสู้ในตลาดต่อไป ที่ผ่านมาอาจจะมี Model ใหม่ๆออกมาไม่ค่อยมากสักเท่าไร แต่ต่อจากนี้ไปเกือบทุกปี เราจะมีการออกรถรุ่นใหม่ๆ เข้ามาในตลาดอาเซียน ซึ่งรวมถึงตลาดประเทศไทยด้วย นอกจากนั้นรัฐบาลไทย ยังมีนโยบายสนับสนุนรถ BEV ออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งมองว่าคงจะต้องมีการพัฒนา Product ออกมาเพื่อรองรับนโยบายของภาครัฐต่อไปเราต้องการที่จะยกระดับบทบาทของเราในตลาดประเทศไทย ไม่ให้แพ้ผู้ผลิตจากประเทศจีนที่กำลังเข้าสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้น

  1. Q: What is the engine new Triton will use? / What is the platform and also when you planning to enter the market? / How accurate the concept design until the final product they will be launch soon?

(แปลไทย) : เครื่องยนต์ของไทรทันใหม่ จะเป็นอย่างไร  แพลทฟอร์มรถใหม่เป็นอย่างไรบ้าง รถต้นแบบที่เราเห็นกันในวันนี้ จะเป็นรูปร่างจริงๆ ของไทรทัน รุ่นใหม่ หรือเปล่า?

A: ในส่วนของ Engine เป็นเครื่องยนต์ใหม่ Platform ก็ใหม่เช่นกัน ซึ่งพัฒนาโดยมิตซูบิชิ มอเตอร์ส แต่ในส่วนของ Frame เรายังไม่สามารถให้รายละเอียดในตอนนี้ได้ แต่เราได้มีการพัฒนาสำหรับตัวเครื่องยนต์ขึ้นมาใหม่ รวมไปถึงตัว Platform เพื่อที่จะรองรับกับการพัฒนารถรุ่นใหม่ แน่นอนว่าเราจะมีการเปิดตัวรถ Triton รุ่นใหม่ในตลาดอื่นๆ รวมถึงตลาด Malaysia ด้วย แต่ขอสงวนสิทธิ์ยังไม่บอกว่าเป็นช่วงไหน

  1. Q: ทาง Mitsubishi Motor ค่อนข้างให้ความสำคัญในการเปิดตัว BEV ในประเทศไทย เลยอยากสอบถามว่า รถรุ่น BEV ในประเทศไทย รวมถึงกระบะ BEV จะมีการเปิดตัวเมื่อไร ยังไง อยากทราบช่วงเวลา?

A: ในส่วนของรถ BEV มีแผนพัฒนาจะเปิดตัว แต่ว่าต้องสงวนสิทธิ์ไม่บอกว่าเมื่อไร แต่เราจะใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการที่จะเปิดตัวให้ได้ภายใน 5 ปี โดยต้องรอโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยด้วยว่าสามารถที่จะรองรับกับจำนวนที่จะออกมาได้มากน้อยหรือเปล่า

  1. Q: ที่ประธานกล่าวว่า Mitsubishi Motors พยายามจะแข่งขันกับแบรนด์รถจากจีนให้ได้ ขอสอบถามเพิ่มเติมว่า ในแง่มุมที่คิดว่าแบรนด์จีนมีบทบาทในตลาดรถประเทศไทยมากกว่า Mitsubishi Motors และเราจะแข่งขันยังไง?

A: สำหรับผู้ผลิตชาวจีน จะเห็นว่ารถของเขามี Design ที่ล้ำยุคมากขึ้น และเรื่องของคุณภาพทางจีนก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ในการที่จะแข่งขันกับผู้ผลิตจากประเทศจีน คิดว่าเรื่องของ Design นั้น เราน่าจะมีโอกาสพัฒนารถของเราให้มี Design ที่ชัดเจนโดดเด่นเหนือแบรนด์จีนได้ แบบที่มองแล้วรู้เลยว่าเป็น Mitsubishi Motors

  1. Q: ต้องมีการคุยเรื่องโครงสร้างภาษีรถนำเข้าจากญี่ปุ่นเพิ่มเติมไหม / อยากทราบแผน ในช่วง 3-5 ปีในระยะยาว ว่ามี Vision อยากเห็น Mitsubishi Motors ในประเทศไทยเป็นอย่างไรบ้าง?

A: ในส่วนของเรื่องโครงสร้างภาษี เรามีหลากหลายภาษีที่เกี่ยวกับรถยนต์ เช่น โครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ ก็จะมีการประกาศใช้ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2569 ในส่วนของรถที่เราจะมีการเปิดตัวในประเทศไทย คงจะเป็นการผสมผสานความโดดเด่นของการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้ากับตัวเครื่องยนต์ ซึ่งเราทำได้ดีอยู่แล้ว และเราก็คงจะอาศัยนโยบายจากภาครัฐในการที่จะเข้ามาผลักดันแพลนในการทำธุรกิจของเราต่อไป / ในเรื่อง 3-5 ปี ก็ขอตอบตามแผน 3 ปีของเราที่มีการระบุออกมาแล้วว่า ที่ผ่านมาเราได้มีการให้ความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพการขายของเรามาโดยตลอด แต่ต่อไปเราจะเน้นเรื่องของ Volume การเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ ซึ่งจะทำให้เรามีบทบาทสำคัญในตลาดประเทศไทยมากขึ้นต่อไป โดยเฉพาะวันนี้ที่เราได้มีการเปิดตัว Concept car ของรถกระบะไทรทัน ให้ทุกท่านได้ชมไปแล้ว และอีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องของการผลิตในประเทศไทย ที่ถือว่าเป็นฐานการผลิตที่สำคัญ เละเมื่อปีที่แล้วได้มีการลงทุนในการสร้างโรงคั่วสีแห่งใหม่ขึ้นมา ถือเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างมากที่สุดในกระบวนการการผลิตรถยนต์ นอกจากนั้นเราได้มีการเตรียมตัวผลิตรถกระบะรุ่นใหม่ออกมา ที่จะต้องมีการลงทุนเรื่องระบบอัตโนมัติเพิ่มมากขึ้น เราเน้นเรื่อง Quality ที่จะต้องดีมากขึ้น และเราจะลดการปล่อย Carbon ออกมาด้วย สรุปได้ว่าประเทศไทยมีความสำคัญมากทั้งในเรื่องของการจำหน่าย การผลิต รวมไปถึงการส่งออก

- Advertisment -

Must Read