ความสมบูรณ์แบบของยนตรกรรมสมรรถนะสูงที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ประสบการณ์การขับขี่แบบ Audi Sport พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro อันเป็นเอกลักษณ์ พกพาขุมพลังที่ไร้ขีดจำกัด ดีไซน์ดุดัน โดดเด่นไม่เหมือนใคร ทรงพลังเร้าใจ นี่คือความลงตัวอันน่าทึ่งของรถสปอร์ตสมรรถนะสูง สำหรับครอบครัวยุคใหม่ เตรียมพบกับ Audi RS รุ่นพิเศษ Performance Edition มาตรฐานใหม่ของรถยนต์สาย Performance เปิดตัวพร้อมกัน 2 รุ่นแล้ววันนี้
นายกฤษณะกร เศวตนันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด หรือ อาวดี้ ประเทศไทยกล่าวว่า “ยอดขายรถในตระกูล RS ซึ่งมีรากฐานมาจาก Audi Sport รถยนต์สมรรถนะสูงนั้น เติบโตอย่างก้าวกระโดด ขายดีสวนกระแส ถือเป็นเซกเมนต์ที่มีดีมานด์อยู่เหนือภาวะเศรษฐกิจ ก้าวเข้าสู่ปีที่ 7 ของอาวดี้ ประเทศไทย เราใช้กลยุทธ์ Product marketing เป็นตัวขับเคลื่อน สร้างกระแสให้กับแบรนด์ด้วยการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ รวมไปถึงรถในตระกูล RS อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับจุดเด่นของรถในตระกูล RS ซึ่งเป็นรถยนต์นำเข้า 100% สมรรถนะแบบ Supercar และที่สำคัญสามารถใช้งานได้อย่างลงตัวในชีวิตประจำวัน ความเชื่อมั่นในแบรนด์ โอกาสที่ได้ทดลองขับหลากหลายรุ่นก่อนตัดสินใจซื้อ และที่สำคัญการใช้งานจริงของลูกค้าที่ได้รับประสบการณ์ขับขี่แบบสปอร์ตเต็มขั้นของ Audi Sport ทำให้เกิด Ripple effect การบอกต่อของลูกค้า ส่งผลให้ RS เซกเมนต์ในประเทศไทยเติบโตต่อเนื่อง โดยมียอดในขายปี 2022 เติบโตขึ้น 19% เมื่อเทียบกับปี 2021 และถือว่ามีอัตราการเติบโตสูงกว่าตลาดของอาวดี้ ในประเทศอื่นๆ ทำให้ อาวดี้ ประเทศไทย มีอัตราส่วนแบ่งการตลาดของรถยนต์กลุ่ม RS เทียบกับรถยนต์ Audi รุ่นปกติสูงเป็นอันดับที่ 4 ของโลก อัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดของรถยนต์ตระกูล RS ถือเป็นเครื่องสะท้อนความสนใจของกลุ่มลูกค้าในพรีเมียมเซกเมนต์”
อาวดี้ ประเทศไทย เปิดตัวรถในตระกูล RS มาทั้งหมดแล้ว 9 รุ่น ทั้งเครื่องยนต์สันดาปและไฟฟ้า 100% และเพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้า การเปิดตัว RS 6 Performance Edition และ RS 7 Performance Edition ครั้งนี้ อาวดี้ ประเทศไทย ถือเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในเอเชียที่มีการเปิดตัวในเวลาที่ใกล้เคียงกับ World Premier
RS 7 Sportback Performance
อัพเกรดขุมพลังที่พร้อมระเบิดความแรงทุกวินาที ผลลัพธ์การออกแบบจาก Audi Sport เพื่อสะท้อนสมรรถนะและรูปลักษณ์ที่ดุดันแข็งแกร่ง ดีไซน์ภายนอกผสมผสานความสปอร์ตในสไตล์ Sportback และความหรูหราเข้าด้วยกัน เพื่อให้รถยนต์สมรรถนะสูงคันนี้ สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายในทุกโอกาส ไม่ว่าจะสุขุมทรงพลังสำหรับชีวิตประจำวัน หรือเร้าใจไร้ขีดจำกัดเสมือนอยู่ในสนามแข่ง
Enthusiasm everywhere
รถสปอร์ตสมรรถนะสูงดีไซน์แบบ Sportback ท้ายลาด สุดยอดเอกลักษณ์จาก Audi และครั้งนี้มาพร้อมลุคที่ร้อนแรง เร้าใจยิ่งกว่าเดิม ด้วยล้อขนาด 22 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ Audi Sport แบบ 5 ก้านในเฉดสีทอง พร้อมคาลิปเปอร์เบรกสีแดงแบบ RS ตอกย้ำความดุดันด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ลาย Honeycomb ชุดตกแต่งภายนอกแบบ Glossy Black RS พร้อมตกแต่ง Audi Ring และชื่อรุ่นด้วยสี Glossy Black
Enhanced driving dynamics
มั่นใจกับประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยม จากระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ quattro with sport differential ทำงานควบคู่กับระบบ Dynamic Ride Control (DRC) พร้อมกับระบบบังคับเลี้ยวทั้งสี่ล้อ (All-wheel steering) ทำให้ทุกการควบคุมเป็นไปอย่างมั่นใจในทุกเส้นทาง เติมเต็มด้วยระบบท่อไอเสียแบบ RS Sports ส่งเสียงคำรามจากห้องเครื่องสู่ท้องถนนอย่างเร้าใจ
Hungry for power
ทะยานไร้ขีดจำกัดกับประสบการณ์ขับขี่แบบ Audi Sport สมรรถนะที่ดุดันยิ่งกว่าเดิม ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน mild hybrid แบบ V8 biturbo ระเบิดพลัง 630 แรงม้า (เพิ่มขึ้น 30 แรงม้า) แรงบิดที่ 850 นิวตันเมตร (เพิ่มขึ้น 50 นิวตันเมตร) อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 3.4 วินาที (รุ่นปกติ 3.6 วินาที) ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 280 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
Extraordinary at first sight
ออกแบบภายในอย่างพิถีพิถัน สร้างบรรยากาศการขับขี่ให้เอ็กซ์คลูซีฟยิ่งกว่าเดิม ด้วยเบาะนั่งคู่หน้าแบบ RS Sports ตกแต่งแบบ honeycomb และด้ายสีแดง เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังหุ้มหนัง Valcona ห้องโดยสารตกแต่งลาย Carbon Twill Structure พร้อมไฟเรืองแสงห้องโดยสาร ที่ปรับได้มากถึง 30 เฉดสี ควบคุมขุมพลังผ่านพวงมาลัยแบบสปอร์ตท้ายตัด หุ้มหนัง Alcantara พร้อมสัญลักษณ์ RS และ Paddle shift แสดงข้อมูลการขับขี่ผ่านจอ Virtual cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว เสมือนมาตรวัดรถแข่ง พร้อมระบบ MMI Navigation plus ขนาด 10.1 นิ้ว สั่งการและจอมัลติฟังก์ชันแบบสัมผัส ตอบสนองการสั่งงาน (haptic feedback) ขนาด 8.6 นิ้ว พร้อมดื่มด่ำกับเครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bang & Olufsen ระบบเสียง 3 มิติ
Striking light show
เพลิดเพลินกับเอฟเฟกต์ไฟแบบ Light staging ด้านหน้าและด้านท้าย เมื่อเปิด-ปิดล็อครถ มาพร้อมเทคโนโลยีไฟหน้าอัจฉริยะ HD Matrix LED with Audi laser light ส่องสว่างไกล คมชัดและแม่นยำ ลำแสงปรับการทำงานอัตโนมัติตามสถานการณ์การขับขี่ เพื่อไม่ให้รบกวนรถที่วิ่งสวนมาและรถที่อยู่ด้านหน้า อีกทั้งเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง Laser light จะช่วยให้มีระยะการส่องสว่างไกลถึง 600 เมตร ทำให้การขับขี่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น พร้อมไฟ Projector LED แบบ RS Performance ที่ประตูหน้า-หลัง
Assistance system ครบครัน
- Audi pre sense rear (ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุด้านหลัง) เรดาร์เซ็นเซอร์ที่อยู่ด้านท้ายรถจะประเมินสภาพการจราจรที่อยู่ด้านหลัง ในกรณีที่ประเมินว่ามีแนวโน้วที่อาจเกิดอันตรายได้ ระบบจะดึงรั้งสายเข็มขัดนิรภัยของเบาะนั่งคู่หน้าให้กระชับ นอกจากนั้นแล้ว หากกระจกหรือหลังคาพาโนรามิคถูกเปิดค้างไว้ ระบบจะปิดให้โดยอัตโนมัติ พร้อมทั้งเปิดการทำงานของสัญญาณไฟฉุกเฉิน
- Lane change warning (ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตาเมื่อเปลี่ยนเลน) เรดาร์เซ็นเซอร์ 2 ตำแหน่งที่อยู่ด้านท้ายของตัวรถจะช่วยผู้ขับขี่ในการตรวจสอบสภาพการจราจรที่อยู่ด้านหลัง (มีข้อจำกัดในการทำงานที่ช่วงระดับความเร็วตั้งแต่ 15-20 กิโลเมตรชั่วโมง) เมื่อระบบประเมินว่ารถอยู่ภายใต้ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดอันตรายได้หากผู้ขับขี่เปลี่ยนเลน ระบบจะแสดงสัญญาณเตือนขึ้นที่กระจกมองข้าง ทั้งนี้ หากผู้ขับขี่เปิดสัญญาณไฟเลี้ยวเพื่อตั้งใจเปลี่ยนเลนไปยังทิศทางดังกล่าว สัญญาณเตือนจะกระพริบถี่ขึ้น
- Exit warning (ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านท้ายรถเมื่อเปิดประตูลงจากรถ) ขณะที่รถจอดหยุดนิ่ง ระบบจะตรวจสอบสภาพแวดล้อมทั้งด้านข้างและด้านหลัง ทั้งนี้ ในกรณีที่ตรวจพบยานพาหนะที่เคลื่อนเข้ามาในระยะที่อาจเกิดอันตราย เช่น รถยนต์ หรือรถจักรยาน กำลังเคลื่อนเข้ามาจากด้านหลัง ในขณะที่ผู้โดยสารภายในรถกำลังเปิดประตูจากด้านใน สัญญาณไฟเตือนจะปรากฏขึ้น
- Rear cross traffic assist (ระบบแจ้งเตือนสภาพแวดล้อมด้านข้างและด้านท้ายรถเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง)ระบบสามารถแจ้งเตือนผู้ขับขี่ขณะถอยรถออก หากตรวจสอบสภาพแวดล้อมแล้วพบว่ามีรถเคลื่อนเข้ามาในระยะที่อาจเกิดอันตราย ระบบจะส่งสัญญาณเตือน และหากอยู่ในสถานการณ์คับขัน ระบบจะช่วยเบรกเพื่อลดทอนการอุบัติเหตุ
รายการอุปกรณ์สั่งพิเศษ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากราคาขายแนะนำที่ระบุไว้ในใบราคา
Carbon exterior package
- ชายล่างใต้กันชนด้านหน้าตกแต่งด้วย carbon
- กระจกมองข้างตกแต่งด้วย carbon
- ช่อง air inlets ด้านหน้าตกแต่งด้วย carbon
- ขอบสเกิร์ตด้านข้างตกแต่งด้วย carbon
- ขอบ diffuser ด้านท้ายตกแต่งด้วย carbon
RS 7 Sport Performance เปิดให้จองแล้วในราคา 11,280,000 บาท ในสี Glacier white, metallic / Floret silver, metallic / Nardo grey, solid / Daytona grey, pearl effect / Mythos black, metallic / Tango red, metallic / Ultra blue, metallic
รายการสีสั่งพิเศษมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากราคาขายแนะนำที่ระบุไว้ในใบราคา ได้แก่ Suzuka grey, metallic / Coral orange, metallic / Goodwood green, pearl effect / Misano red, pearl effect / Sepang blue, pearl effect / Merlin, pearl effect
RS 6 Avant Performance
High performance meets everyday usability
พบกับที่สุดแห่งความสำเร็จของ RS 6 Avant Performance ความสมบูรณ์แบบของยนตรกรรมสมรรถนะสูงที่ถูกยอมรับจากทั่วโลก ถ่ายทอดผ่านดีไซน์อันโดดเด่นในแบบฉบับ Avant สเตชันแวกอน อันเป็นเอกลักษณ์ที่ยากจะมีใครเหมือนจาก Audi การผสมผสานอย่างน่าทึ่งของรถสปอร์ตสมรรถนะสูง ทรงพลังเร้าใจ พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro พกพาขุมพลังที่ไร้ขีดจำกัดมากับพื้นที่ใช้สอยสำหรับทั้งครอบครัวยุคใหม่ ที่สะดวกสบายกว้างขวาง พื้นที่เก็บสัมภาระกว้างถึง 548 ลิตร โดดเด่นเรื่องการใช้งานที่สะดวกสบายในชีวิตประจำวัน ยิ่งทำให้ RS 6 Avant Performance มีความพิเศษสุดไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะใช้ขับขี่ในชีวิตประจำวัน หรือสนุกเร้าใจไร้ขีดจำกัดเสมือนอยู่ในสนามแข่ง จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไม RS 6 Avant Performance ได้กลายเป็นขวัญใจของผู้ที่รักความแรง และสร้างความตื่นเต้นให้กับ Audi Sport GmbH และฐานแฟนอาวดี้ทั่วโลกมากว่า 20 ปี
RS all along the line
การออกแบบรถยนต์สมรรถนะสูงเพื่อสะท้อน DNA ขุมพลังในสนามแข่ง คือหัวใจสำคัญของ Audi Sport และครั้งนี้ความตื่นเต้นที่ทุกคนรอคอยมาถึงแล้ว RS 6 Avant Performance กับรูปลักษณ์ที่เร้าใจยิ่งกว่าเดิม ล้อขนาด 22 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ Audi sport แบบ 5 ก้าน มาในเฉดสีทอง พร้อมคาลิปเปอร์เบรกสีแดงแบบ RS ดุดันทุกมิติด้วยชุดแต่งภายนอกแบบ Glossy Black RS พร้อมตกแต่ง Audi Ring และชื่อรุ่นด้วยสี Glossy Black
Powerful heart
สัมผัสขุมพลังอันดุดันกว่าที่เคย เครื่องยนต์เบนซิน mild hybrid แบบ V8 biturbo ถูกพิสูจน์ด้วยตัวเลขอันร้อนแรง 630 แรงม้า(เพิ่มขึ้น 30 แรงม้า) แรงบิด 850 นิวตันเมตร (เพิ่มขึ้น 50 นิวตันเมตร) อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 3.4 วินาที (รุ่นปกติ 3.6 วินาที) ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 280 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สมรรถนะที่เร่าร้อนพุ่งทะยานสุดเร้าใจมาพร้อมเทคโนโลยีการควบคุมที่สมบูรณ์แบบด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ quattro with sport differential ทำงานควบคู่กับระบบ Dynamic Ride Control (DRC) พร้อมกับระบบบังคับเลี้ยวทั้งสี่ล้อ (All-wheel steering) ทำให้การทะยานทุกแรงม้าเป็นไปอย่างสมดุลและมั่นคงในทุกสถานการณ์
ห้องโดยสารลุคสปอร์ตเต็มขั้น เบาะนั่งคู่หน้าแบบ RS Sports ตกแต่งแบบ honeycomb และด้ายสีแดง คันเกียร์และด้านข้างคอนโซลกลางหุ้ม Alcantara สีดำ เบาะนั่งหุ้มหนัง Valcona พร้อมไฟ Projector LED แบบ RS Performance ที่ประตูหน้า-หลัง ผสานฟังก์ชันและความสปอร์ตได้อย่างลงตัว
- ห้องโดยสารตกแต่งลาย Carbon Twill Structure พร้อมไฟ Ambient light ที่ปรับได้มากถึง 30 เฉดสี
- ควบคุมมั่นใจกับพวงมาลัยแบบสปอร์ตท้ายตัด หุ้มหนัง Alcantara พร้อมสัญลักษณ์ RS
- Paddle shift แสดงข้อมูลการขับขี่ผ่านจอ Virtual cockpit ขนาด 3 นิ้ว เสมือนมาตรวัดรถแข่ง
- ระบบ MMI Navigation plus ขนาด 1 นิ้ว สั่งการง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส
- จอมัลติฟังก์ชันแบบสัมผัส ตอบสนองการสั่งงาน (haptic feedback) ขนาด 6 นิ้ว เติมเต็มอารมณ์การขับขี่ด้วยเครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bang & Olufsen ระบบเสียง 3 มิติ
เทคโนโลยีไฟหน้าอัจฉริยะแบบ HD Matrix LED with Audi laser light ส่องสว่างไกล คมชัดและแม่นยำ ลำแสงปรับการทำงานอัตโนมัติตามสถานการณ์การขับขี่ เพื่อไม่ให้รบกวนรถที่วิ่งสวนมาและรถที่อยู่ด้านหน้า อีกทั้งเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง Laser light จะช่วยทำให้มีระยะการส่องสว่างไกลถึง 600 เมตร ทำให้การขับขี่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น พร้อมตื่นเต้นไปกับเอฟเฟกต์ไฟด้านหน้า (Light staging) และไฟเลี้ยวแบบ Dynamics
รายการอุปกรณ์สั่งพิเศษซึ่งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากราคาขายแนะนำที่ระบุไว้ในใบราคา
Carbon exterior package
- ชายล่างใต้กันชนด้านหน้าตกแต่งด้วย carbon
- กระจกมองข้างตกแต่งด้วย carbon
- ช่อง air inlets ด้านหน้าตกแต่งด้วย carbon
- ขอบสเกิร์ตด้านข้างตกแต่งด้วย carbon
- ขอบ diffuser ด้านท้ายตกแต่งด้วย carbon
RS 6 Avant performance เปิดให้จองแล้ววันนี้ที่โชว์รูมอาวดี้ ทั่วประเทศในราคา 11,280,000 บาท วางจำหน่ายในสี Glacier white, metallic / Floret silver, metallic / Nardo grey, solid / Daytona grey, pearl effect / Mythos black, metallic / Tango red, metallic / Ultra blue, metallic
สีสั่งพิเศษ (Audi exclusive colors) มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากราคาขายแนะนำที่ระบุไว้ในใบราคา ได้แก่ Suzuka grey, metallic / Coral orange, metallic / Goodwood green, pearl effect / Misano red, pearl effect / Sepang blue, pearl effect / Merlin, pearl effect
Audi เป็นรถยนต์นำเข้าทั้งคันคุณภาพมาตรฐานเยอรมันทุกรุ่น ลูกค้าที่ออกรถใหม่จะได้รับการดูแลจาก Audi Protection การรับประกันรถใหม่ 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน รถ Plug-in Hybrid TFSI e ใหม่ ทุกรุ่นรับประกันแบตเตอรี่แรงดันสูง 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Roadside Assistance ทั่วประเทศ 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี ลูกค้าอาวดี้สามารถมั่นใจกับงานบริการหลังการขาย ซึ่งมีมาตรฐานคุณภาพเดียวกันทุกสาขา เปิดบริการในวันจันทร์ถึงวันเสาร์ เวลา 08.00-20.00 น. วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00-18.00 น. หรือโทรนัดหมายได้ที่
Audi Centre Thailand 02-765-8888
Audi New Petchburi 02-023-4888
Audi Pattaya 038-197-888
Audi Phuket 076-646-666
Audi Service Chiang Mai 052-081-188
Audi Service Ratchapruek 02-034-5888
Audi Udonthani 093-161-5588