วันพุธ, พฤศจิกายน 26, 2025
spot_imgspot_imgspot_imgspot_img
หน้าแรกAuto Newsรู้จักกับเทคโนโลยี e-4ORCE นวัตกรรมขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะจากนิสสัน

รู้จักกับเทคโนโลยี e-4ORCE นวัตกรรมขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะจากนิสสัน

-

เทคโนโลบีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ หน้าหลัง ตอบสนองฉับไว ยึดเกาะถนนดี   มอบความมั่นใจสูงสุดให้แก่ผู้ขับ พร้อมประสบการณ์การขับขี่ที่ “All in Control” อย่างแท้จริง

สำหรับผู้ที่หลงใหลการขับขี่ การได้อยู่หลังพวงมาลัยของรถที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะคือความมั่นใจในอีกระดับ ไม่ว่าจะขึ้นลงทางลาดชัน หรือฝ่าพื้นถนนที่ขรุขระและลื่น   รถหลากหลายประเภทเช่นรถอเนกประสงค์เอสยูวี ติดตั้งระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ All-Wheel Drive (AWD) ซึ่งช่วยเพิ่มสมรรถนะ และเสถียรภาพการทรงตัวในทุกเส้นทาง นิสสันจึงพัฒนาเทคโนโลยี “e-4ORCE” หรือ “อี-ฟอร์ซ” ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขึ้น เพื่อการควบคุมที่แม่นยำ ตอบสนองที่รวดเร็ว ให้ผู้ขับสัมผัสประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับ และมั่นใจว่าสามารถควบคุมได้เต็มที่ในทุกสถานการณ์

อีฟอร์ซ คืออะไร

อี-ฟอร์ซ เป็นนวัตกรรมเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD ที่ช่วยให้ควบคุมรถในทุกเส้นทางได้อย่างน่าประทับใจ นิสสันพัฒนา และติดตั้งระบบนี้ในรถยนต์เอสยูวีหลายรุ่นที่จำหน่ายไปทั่วโลก โดยมีมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ หน้า-หลัง ระบบนี้จึงได้มีชื่อที่ขึ้นต้นด้วย “อี” ที่มาจาก electric หรือเป็นระบบไฟฟ้านั่นเอง

นิสสันได้อธิบายว่า “e” มาจากระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 100% ส่วน 4ORCE ที่ออกเสียงว่า “ฟอร์ซ” สื่อถึงพละกำลังของรถ โดยที่ 4 หมายถึงระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ

ในการพัฒนา อี-ฟอร์ซ นิสสัน ได้รวมเอา 3 เทคโนโลยีขั้นสูงที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อน การทรงตัวมารวมไว้ด้วยกัน คือ “อี-พาวเวอร์” ระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ให้ความเงียบ แต่เต็มไปด้วยพละกำลังที่สามารถตอบสนองอย่างทันใจ  ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AWD ที่แม่นยำ มีการกระจายกำลังไปแต่ละล้อได้อย่างสมดุล และระบบควบคุมการทำงานของแชสซี ที่ทำให้การทรงตัวของรถมีเสถียรภาพมากขึ้น นั่งสบายจนรู้สึกได้อย่างชัดเจน 

ผลลัพธ์ที่ได้ คือ ประสบการณ์ใหม่ในการขับขี่ที่น่าประทับใจกับการตอบสนองที่ฉับไว การทรงตัวที่ดีเยี่ยม และให้ความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมไม่ว่าจะขับขี่บนพื้นผิวแบบใดก็ตาม

อีฟอร์ซทำงานอย่างไร

ก่อนจะเข้าใจการทำงานของ อี-ฟอร์ซ มาดูกันก่อนว่าโครงสร้างของระบบนี้เป็นอย่างไร  จุดเด่นที่ทำให้ อี-ฟอร์ซ ต่างไปจากระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบเดิม คือ การติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ามา 2 ตัว แยกหน้า-หลัง ตัวหนึ่งสำหรับล้อหน้า และอีกตัวหนึ่งสำหรับล้อหลัง  

ในระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบดั้งเดิม จะใช้กำลังจากเครื่องยนต์ส่งมาที่ล้อหน้า และหลัง ผ่านเพลากลาง  กว่าจะส่งกำลังมาถึงล้อ ต้องใช้เวลา ทำให้ต้องรอการตอบสนองเล็กน้อยแม้จะเป็นหลักวินาทีก็ตาม โดยเฉพาะเมื่อเวลาต้องการให้เครื่องยนต์ส่งกำลังมากๆ มาที่ล้อ เช่น เมื่อขับขี่บนพื้นถนนที่ไม่เรียบหรือขึ้นลงเนิน แต่หากลดเวลาส่งกำลังลงมาในระดับเสี้ยววินาที จะทำให้การขับขี่นั้นควบคุมได้อย่างมั่นใจมากขึ้น 

อี-ฟอร์ซ รับมือกับความท้าทายนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วย มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ หน้า–หลัง ที่ทรงพลัง ซึ่งทำงานอย่างอิสระเพื่อคำนวณแรงขับเคลื่อนที่เหมาะสมกับการเลี้ยว การเร่ง และการเบรกตามการควบคุมของผู้ขับ พร้อมระบบควบคุมเบรกซ้าย-ขวาอย่างแม่นยำ เพื่อให้แรงขับเคลื่อนทั้ง สี่ล้อทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ แตกต่างจากระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบทั่วไปที่จำกัดการกระจายแรงไว้ที่ 50:50 โดย อี-ฟอร์ซ สามารถปรับแรงขับเคลื่อนระหว่างล้อหน้า และหลังได้อย่างอิสระ ตั้งแต่ 100:0 ถึง 0:100 และเมื่อผสานกับระบบควบคุมเบรก ล้อซ้ายและขวาก็สามารถปรับแรงได้ด้วยความเร็วและความแม่นยำสูง มอบการควบคุมที่เหนือระดับในทุกเส้นทาง

ขณะเดียวกัน ก็ลดการโคลงตัวของรถ ด้วยการทำงานร่วมกันของมอเตอร์หน้า และหลัง ในระบบเบรกแบบสร้างพลังงานกลับคืน (Regenerative Braking) ช่วยชะลอความเร็วอย่างสมดุล พร้อมควบคุมแรงเบรกอัตโนมัติ ทำให้รถทรงตัวดี ลดแรงเหวี่ยง และการโยกศีรษะของผู้โดยสาร มอบความนุ่มนวล และมั่นใจในทุกการขับขี่ และนั่งสบายสำหรับผู้โดยสารทุกที่นั่ง

ตอบสนองทันใจ ปลอดภัยมากขึ้น

จริงๆ แล้ว นิสสัน ได้ใช้เทคโนโลยี อี-ฟอร์ซ นี้ในรถยนต์หลายรุ่น รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าแบบ BEV และแบบ  อี-พาวเวอร์ ที่นิสสันจำหน่ายในหลายตลาดทั่วโลกมาแล้ว รถยนต์แบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ใช้ อี-ฟอร์ซ จึงให้ประสบการณ์การขับขี่ใหม่ ที่สัมผัสได้ถึงความแตกต่าง มีการตอบสนองรวดเร็ว ควบคุมได้อย่างแม่นยำ ทำให้มั่นใจเต็มที่ และได้รับความนิยมในทุกตลาด

เมื่อจับคู่กับเทคโนโลยีขับเคลื่อนรถยนเตอร์ไฟฟ้า (EV) หรือ อี-พาวเวอร์ (e-POWER) ประสิทธิภาพของระบบจะยิ่งโดดเด่นขึ้นไปอีก ขณะที่ อี-ฟอร์ซ ทำหน้าที่ควบคุมการกระจายกำลังไปยังแต่ละล้ออย่างแม่นยำ การทำงานร่วมกันของทั้งสองเทคโนโลยีนี้ช่วยให้การเร่งความเร็วราบรื่นขึ้น การตอบสนองคมชัดขึ้น ทรงตัวดี และมอบความมั่นใจในทุกจังหวะของการขับขี่อย่างชัดเจน

จากการตอบสนองที่ดีขึ้น หมายถึง เสถียรภาพ และควบคุมที่ดีขึ้น เร่งเครื่องได้ไว แซงได้อย่างปลอดภัย  การทำงานร่วมกันระหว่าง อี-พาวเวอร์ และ อี-ฟอร์ซ ให้ขับขี่ได้มั่นใจมากขึ้นแม้จะกำลังขับขี่บนถนนลื่น  ขึ้นทางลาดชัน  เพราะมอเตอร์ที่ล้อทั้งหน้าหลังจะทำงานได้ทันที ส่งแรงบิดมาให้จังหวะที่เหมาะ และในปริมาณที่เหมาะสม  สามารถควบคุมแรงขับเคลื่อนได้ภายใน 0.1 วินาที ช่วยให้รถทรงตัวได้อย่างมั่นคงและเกาะถนนได้ดี แม้ในสภาพเส้นทางที่ท้าทาย

จากจุดเด่นต่างๆ ของ อี-ฟอร์ซ ทำให้รถเอสยูวีที่ติดตั้งระบบนี้ เป็นรถที่น่าสนใจสำหรับใครที่มองหารถเอสยูวีที่ขับแล้วรู้สึกได้ว่าเราสามารถควบคุมได้เต็มที่ ให้ความมั่นใจไม่ว่าจะขับขี่ในเมือง หรือออกไปใช้ชีวิตอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องแคร์กับสภาพถนนที่มีความท้าทาย  

รู้หรือไม่!

เทคโนโลยี อีฟอร์ซ ได้แรงบันดาลใจจากสนามแข่ง Formula E

นิสสันใช้การแข่งขัน Formula E เป็นหนึ่งในสนามทดสอบของการพัฒนาเทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า โดยเฉพาะระบบ อี-ฟอร์ซ ที่ถ่ายทอดองค์ความรู้จากทีมแข่งสู่ศูนย์วิจัย และพัฒนาในญี่ปุ่น ผลลัพธ์คือ     e-4ORCE 05 ระบบขับเคลื่อนรุ่นใหม่ที่ควบคุมแรงบิดได้แม่นยำ และสมดุลยิ่งขึ้น สะท้อนให้เห็นว่าเทคโนโลยีจากสนามแข่งสามารถต่อยอดสู่รถยนต์ไฟฟ้าบนท้องถนนได้จริง 

- Advertisment -

Must Read