
มร.ไซม่อน ฮัมฟรีส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านแบรนด์ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชัน ประเทศญี่ปุ่น / มร.นิค โฮจิออส ผู้จัดการอาวุโส โตโยต้าดีไซน์ ประเทศออสเตรเลีย / ดร.ธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม / ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม / นายฐาปกรณ์ กุลเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม / นางสาวจิรัฐิติกาล จันทราทิพย์ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี / นายกลินท์ สารสิน ประธานคณะกรรมการ และ มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมกับ นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วย นางสาวอัญญารัตน์ สุทธิเบญจกุล หัวหน้าวิศวกรระดับภูมิภาค บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด และ มร.ฮาคุโฮ โช เจ้าของแชมป์กีฬาซูโม่ระดับโยโกสุนะ (Yokozuna) ชื่อดัง ลำดับที่ 69 จากประเทศญี่ปุ่น ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวรถกระบะมหาชนรุ่นใหม่ล่าสุด เป็นครั้งแรกของโลกที่ประเทศไทยกับ TOYOTA HILUX TRAVO และ HILUX TRAVO-e เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค
ในประเทศไทย รถกระบะสะท้อนความผูกพันอันลึกซึ้ง เสมือนเพื่อนร่วมเดินทาง ที่อยู่เคียงข้างกันมาอย่างยาวนาน จนถึงปัจจุบันเราจะเห็นรถกระบะในทุกมิติของชีวิต ไม่ว่าจะใช้ในการประกอบอาชีพ ขนส่งสินค้า เดินทางในชีวิตประจำวัน หรือเติมเต็มไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย จึงกล่าวได้ว่า สำหรับคนไทย รถกระบะไม่ใช่แค่พาหนะ แต่เป็นเหมือนเพื่อนคู่ใจและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
จุดเริ่มต้นของก้าวสำคัญที่โตโยต้า และคนไทยได้ร่วมกันสร้างขึ้น คือ โครงการ IMV (Innovative International Multi-purpose Vehicle) เมื่อปีพ.ศ. 2547 โดย IMV คือโครงการผลิตรถกระบะขนาด 1 ตัน ภายใต้ชื่อรถกระบะ ไฮลักซ์ (รุ่นที่ 7) รถยนต์อเนกประสงค์ ฟอร์จูนเนอร์ (และรถมินิแวน อินโนวาในต่างประเทศ) รวมถึงเครื่องยนต์ และชิ้นส่วนอะไหล่ เพื่อจำหน่ายภายในประเทศและส่งออก ด้วยมูลค่าการลงทุน ณ ขณะนั้น 30,000 ล้านบาท ภายใต้วัตถุประสงค์ที่จะผลิตรถยนต์ที่มีคุณภาพสูง สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค โดยรถยนต์ในโครงการดังกล่าวได้ผ่านการทุ่มเท วิจัย และพัฒนา เพื่อให้ได้รถที่ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าในทุกภูมิภาคทั่วโลก
โครงการ IMV ได้ทำให้ โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เปลี่ยนบทบาทจากฐานการผลิตที่เน้นตลาดภายในประเทศ สู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกรถกระบะ ในปัจจุบัน HILUX ที่ผลิตในไทยได้ถูกส่งออกไปยัง 133 ประเทศทั่วโลก มียอดส่งออกสะสมกว่า 4.6 ล้านคัน มีการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศด้วยสัดส่วนสูงสุดถึง 95% ก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้กับคนไทย ผ่านการจ้างงานกว่า 275,000 คน ทั้งพนักงานในเครือ พนักงานของผู้แทนจำหน่ายฯ 153 แห่ง และผู้ผลิตชิ้นส่วนกว่า 290 แห่งทั่วประเทศ ส่งผลให้ HILUX มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย คิดเป็นกว่า 30% ของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งหมด และมีส่วนช่วยสร้าง GDP ให้ประเทศไทยมากถึง 3% ต่อปี สะท้อนถึงมูลค่าทางเศรษฐกิจอันมหาศาลตลอดห่วงโซ่อุปทานที่เกิดขึ้น
ทั้งหมดนี้คือบทพิสูจน์ว่า HILUX ไม่ได้เป็นเพียงรถกระบะ แต่คือ “รถกระบะมหาชน” ที่มีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของประเทศอย่างแท้จริง
และในวันนี้ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ภูมิใจนำเสนอรถกระบะไฮลักซ์รุ่นใหม่ เจเนอเรชันที่ 9 เป็นครั้งแรกของโลก (World Premiere) ภายใต้ชื่อ “TOYOTA HILUX TRAVO” ด้วยการนำทีมของวิศวกรชาวไทย HILUX TRAVO ได้รับการพัฒนาผ่านการรับฟังเสียงของผู้ใช้ชาวไทยอย่างใกล้ชิดในทุกมิติ พร้อมนำข้อมูลมาปรับปรุงและต่อยอดการพัฒนา เพื่อตอบโจทย์การใช้งานและไลฟ์สไตล์ของคนไทยได้อย่างดีที่สุด
ด้วยดีไซน์ใหม่ ทั้งการออกแบบภายนอกและภายใน ภายใต้ดีไซน์คอนเซ็ปต์ “Tough & Agile” ที่ผสาน ”ความแข็งแกร่ง เข้ากับ ความคล่องตัว” มาพร้อมกับการออกแบบด้านหน้าด้วยแนวคิด “Cyber Sumo” ที่เป็นท่าเตรียมพร้อมในการต่อสู้ Shikiri Pose เพื่อแสดงให้เห็นถึงความ แข็งแกร่ง (Stable) แข็งแรง (Strong) และ มั่นคง (Steady) การออกแบบภายในใช้แนวคิด “Robust Simplicity” ที่เน้นความเรียบง่ายแต่ทรงพลัง ทุกฟังก์ชันใช้งานได้จริง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และ ทันสมัยที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัย Toyota Safety Sense เวอร์ชันล่าสุด และอุปกรณ์เสริมความปลอดภัยอีกมากมาย
HILUX TRAVO ได้ให้ความสำคัญกับการบังคับควบคุม และความนุ่มนวลในการขับขี่เป็นพิเศษ จึงได้แนะนำเทคโนโลยี “Dynamic Cloud” ในการพัฒนาองค์ประกอบต่างๆ ที่ส่งผลต่อการขับขี่ เพื่อมอบการขับขี่ที่นุ่มนวล บังคับควบคุมแม่นยำ และทรงตัวเยี่ยม
และ HILUX TRAVO ทุกรุ่นจะมาพร้อมกับขุมพลัง GD Super Power ขนาด 2.8 ลิตร ที่ให้กำลังสูง และมีการปรับปรุงความประหยัดน้ำมันให้ดียิ่งขึ้น โดยประหยัดน้ำมันมากกว่าเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร สูงสุดถึง 5.8% และมากกว่าเครื่อง 2.8 ลิตร รุ่นเดิมถึง 7.5%
นอกจากรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล โตโยต้า นำเสนออีกหนึ่งทางเลือกตามหลักคิด Multi-Pathway กับรถกระบะไฟฟ้า “HILUX TRAVO-e” ซึ่งเป็นการแนะนำรถไฟฟ้าแบบ Body-on-frame รุ่นแรกของโตโยต้าที่มีการวางจำหน่ายจริง พัฒนาขึ้นโดยยึดถือหลักการ QDR (Quality-Durability-Reliability) อันเป็นหัวใจของโตโยต้า และยังคงสมรรถนะ ความทนทานตามมาตรฐานรถกระบะ HILUX และเสริมด้วยเทคโนโลยี “Diamond Guard” ช่วยปกป้องแบตเตอรี่ และชุดขับเคลื่อนไฟฟ้า ช่วยให้คุณใช้งาน TRAVO-e ได้อย่างมั่นใจในความปลอดภัย ทั้งการใช้งานส่วนบุคคล การบรรทุกและการขับขี่แบบออฟโรด

ดร.ธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวเปิดงานแถลงข่าวว่า “ตลอดระยะเวลากว่า 60 ปีที่ผ่านมา โตโยต้าได้มีบทบาทสำคัญยิ่งในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย ไม่เพียงแต่ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์รายใหญ่เท่านั้น แต่ยังเป็นพันธมิตรที่ร่วมพัฒนาบุคลากรไทย ถ่ายทอดเทคโนโลยี และสนับสนุนการเติบโตของผู้ประกอบการชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประเทศไทยก้าวขึ้นมาเป็น ฐานการผลิตรถยนต์ที่สำคัญระดับโลก
การเปิดตัว HILUX รุ่นใหม่ ในวันนี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ถึง ศักยภาพด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) ของโตโยต้าในประเทศไทย ที่สามารถออกแบบ พัฒนา และผลิตยานยนต์ที่ตอบโจทย์ทั้งความต้องการของผู้บริโภค และความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะการพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูง ปล่อยมลพิษต่ำ และรองรับเชื้อเพลิงสะอาด ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลไทยในการขับเคลื่อนประเทศ สู่อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ (Next-Generation Automotive Industry)
กระทรวงอุตสาหกรรมให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์พลังงานสะอาด (Green Mobility) และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์หลักตามเป้าหมาย “Carbon Neutrality 2050” ของประเทศไทย การที่โตโยต้าเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีในทิศทางเดียวกัน จึงเป็นการสะท้อนถึงความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับประเทศ ทั้งให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการเสริมสร้างความเข้มแข็งของ Supply Chain อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคยานยนต์สมัยใหม่อย่างยั่งยืน (Next-Generation Automotive Industry) ทั้งในด้านการผลิตชิ้นส่วน เทคโนโลยี ระบบโลจิสติกส์ และบุคลากรที่มีทักษะสูง การที่โตโยต้าลงทุนและพัฒนาเทคโนโลยีในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ Hybrid รถยนต์ไฟฟ้า (EV) หรือเทคโนโลยีไฮโดรเจน ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการสร้างระบบนิเวศการผลิตภายในประเทศให้แข็งแกร่ง เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตที่ยั่งยืนของภูมิภาค
ผมเชื่อมั่นว่า การเปิดตัว Toyota HILUX รุ่นใหม่ ในวันนี้ จะเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของโตโยต้าในการตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค ทั้งในด้านสมรรถนะ ความปลอดภัย ความคุ้มค่า และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนเป็นการยืนยันถึงความเชื่อมั่นของโตโยต้าที่มีต่อประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการผลิตยานยนต์แห่งภูมิภาค”

มร.ไซม่อน ฮัมฟรีส์ แถลงข่าวแนะนำ ไฮลักซ์ ทราโว่ ว่า “โตโยต้ามีความผูกพันอันยาวนานกับประเทศไทย มากกว่า 60 ปี ซึ่งความผูกพันนี้ไม่ใช่เพียงแค่การลงทุนทางธุรกิจ แต่คือหุ้นส่วน ที่กลายเป็นมิตรภาพ ซึ่งโตโยต้ากล่าวถึงแนวคิด “Best in Town” อยู่เสมอ และประเทศไทยคือภาพสะท้อนที่ชัดเจนของปรัชญานี้ ในฐานะประเทศแรกในทวีปเอเชียที่โตโยต้าผลิตรถยนต์ นอกประเทศญี่ปุ่น
เมล็ดพันธุ์แห่งมิตรภาพที่เราเริ่มปลูกไว้เมื่อ พ.ศ.2506 ได้รับการฟูมฟักโดยคนไทย นับตั้งแต่การสนับสนุนจากรัฐบาลไทย พันธมิตรทางธุรกิจ และลูกค้าของเรา ทำให้ประเทศไทยในปัจจุบัน กลายเป็นศูนย์กลางด้านการผลิต ด้านนวัตกรรม และเหนือสิ่งอื่นใดคือการให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี นำไปสู่ความสำเร็จระดับโลก ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ว่า เกิดจากรากฐานความแข็งแกร่งจากประเทศไทย ซึ่งผู้คนใน 133 ประเทศทั่วโลกได้รับประโยชน์จากผลลัพธ์ของความร่วมมือครั้งนี้ จากการที่รถยนต์โตโยต้ากว่า 14 ล้านคันได้ถูกผลิตขึ้นที่นี่ ประเทศไทย
มร. อากิโอะ โตโยดะ ประธานคณะกรรมการบริหารของโตโยต้า ได้เล็งเห็นถึงความแข็งแกร่งของพันธมิตรทุกท่านเป็นอย่างดี จากประสบการณ์ที่เขาได้ร่วมทำงานกับทีมงาน (IMV project) ในประเทศไทย ซึ่งมีส่วนสำคัญในการหล่อหลอมพื้นฐานความเป็นผู้นำ นั่นคือ การเคารพวัฒนธรรมท้องถิ่น และให้ความสำคัญกับการตัดสินใจร่วมกัน ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่สะท้อนถึงความเชื่อมโยงระหว่าง มร. อากิโอะกับประเทศไทยได้ดีที่สุด นั่นก็คือ ผลิตภัณฑ์ภายใต้โครงการ IMV เมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว
ถึงแม้ว่า เรื่องราวของ HILUX ถือกำเนิดขึ้นในปี พ.ศ. 2511 หากแต่ในปี พ.ศ. 2547 ภายใต้การนำของ มร.อากิโอะ ในฐานะหัวหน้าภาคพื้นเอเชีย ทำให้ HILUX กลายเป็นส่วนหนึ่งของ IMV ซีรีส์ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มระดับโลกอย่างแท้จริง และสะท้อนให้เห็นถึงแนวคิด Best in Town และจิตวิญญาณแห่งการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ (Monozukuri) ของโตโยต้า เป็นที่มาของโครงการ IMV ที่นำพาให้ HILUX เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
กล่าวได้ว่าคงไม่มีรถยนต์รุ่นใดที่ดีไปกว่า HILUX ที่จะแสดงถึงความสำคัญของประเทศไทยที่มีต่อโตโยต้าได้ เราภูมิใจที่ได้ยินว่าหลายคนเรียก HILUX ว่าเป็นรถกระบะมหาชนอย่างแท้จริง
ที่โตโยต้า เรายึดมั่นในแนวคิด “การขับเคลื่อนเพื่อทุกคน” (Mobility for All) โดยเชื่อว่า การขับเคลื่อนคือการมอบโอกาสให้ผู้คนได้ออกสำรวจ ทำงาน ติดต่อเชื่อมโยงถึงกัน รวมทั้งส่งเสริมคุณภาพชีวิต อันเป็นปรัชญาที่ IMV ยึดถือนับตั้งแต่วันแรก นั่นคือ ความมุ่งมั่นเพื่อสร้างยานยนต์ที่มีส่วนส่งเสริมชุมชน และร่วมเสริมสร้างพลังให้กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกรที่ใช้ยานพาหนะเพื่อขนส่งผลผลิต หรือครอบครัวที่ใช้รถเพื่อเดินทางไกล รวมทั้ง ผู้คนที่ทำงานเพื่อร่วมสร้างการเติบโตของชุมชนที่ทุกคนอยู่อาศัยรอบตัว โดยผู้ใช้งานต่างยอมรับในชื่อเสียงของ HILUX ทั้งในด้านคุณภาพ ความทนทาน และความน่าเชื่อถือ ด้วยความเป็นรถกระบะที่แข็งแกร่ง สำหรับการใช้งานที่ไซต์ก่อสร้าง ให้ความอุ่นใจด้วยความปลอดภัย สำหรับการเดินทางของทุกครอบครัว และเป็นยานพาหนะที่ได้รับความไว้วางใจทั่วโลก”
HILUX ใหม่ ที่เราประกาศในวันนี้ คือเจเนอเรชันที่ 9 ของรถระดับตำนาน ซึ่งในแต่ละเจเนอเรชัน HILUXได้รับการพัฒนาให้แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ผ่านการพัฒนาจากการใช้งานจริงบนท้องถนน ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของเหล่าวิศวกร และที่สำคัญที่สุด คือการรับฟังเสียงของลูกค้าทั่วโลก โดย HILUX เป็นรถกระบะที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามบริบทที่หมุนเปลี่ยนไปของโลกและสังคมเช่นเดียวกัน
โตโยต้ารับฟังเสียงตั้งแต่คนงานในเหมืองที่ต้องการความทรหด ครอบครัวที่ต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น เจ้าของธุรกิจที่ใส่ใจเรื่องความประหยัดน้ำมัน ไปจนถึงนักผจญภัยรุ่นใหม่ที่ต้องการดีไซน์และเทคโนโลยีที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ ไปสู่ยานพาหนะที่อุ่นใจและไว้วางใจได้ พร้อมเชื่อมโยงผู้คนเข้ากับโอกาสต่างๆ ด้วยยนตรกรรมที่แข็งแกร่ง เรียบง่าย และทนทาน
เมื่อมองไปข้างหน้า โตโยต้ากำลังมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ที่ไม่จำกัดเพียงหนทางใดหนใดหนึ่ง หากแต่มุ่งนำเสนอทางเลือกอันหลากหลาย(Multi-Pathway) เพราะความจริงคือ ไม่มีภูมิภาคใดหรือลูกค้าคนใด ที่เหมือนกัน ความหลากหลายนี้ครอบคลุมถึงระบบขับเคลื่อน รูปแบบตัวรถ และความสามารถในการปรับแต่ง…ทั้งหมดเพื่อไม่ให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง โดยที่โตโยต้าได้พัฒนา HILUX แต่ละรุ่นให้ดียิ่งขึ้น ภายใต้คำมั่นสัญญาที่ยังคงเดิม นั่นคือ HILUX คือเพื่อนคู่ใจและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
มร.ไซม่อน กล่าวถึง มร.อากิโอะ โตโยดะ ที่เชื่อว่ารถยนต์และการผลิตรถยนต์ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของสังคมและความเจริญทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตและวัฒนธรรมอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ประเทศไทยยังเป็นเสมือน “บ้านหลังที่สอง” ทั้งในระดับอาชีพและระดับส่วนตัว จากสายสัมพันธ์ดังกล่าวได้เติบโตเป็นมิตรภาพที่งดงาม ดังนั้น มร. โตโยดะ มักกล่าวเสมอถึงความตั้งใจในการ “ตอบแทนประเทศไทย” ตลอดระยะที่ผ่านมา และความสัมพันธ์กับประเทศไทยได้เติบโต เกินกว่าเป็นการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจ ไปสู่การแลกเปลี่ยนทางวิถีชีวิตและวัฒนธรรม
ปัจจุบัน มร. โตโยดะ ในฐานะประธานสหพันธ์ซูโม่สากล ได้เล็งเห็นถึงโอกาสในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างไทยและญี่ปุ่น เริ่มจากกีฬาซูโม่สากล และได้เชิญ มร. ฮาคุโฮ โช อดีตโยโกสุนะ นักซูโม่ชื่อดัง ตลอดกาล ด้วยสถิติสูงสุด คว้าแชมป์ถึง 45 รายการ และยังได้รับการบันทึกใน กินเนสส์บุ๊กจากชัยชนะรวม 1,187 ครั้ง ทั้งหมดนี้ทำให้เขา…เป็นหนึ่งในนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด…ตลอดกาล มาเยือนกรุงเทพฯ และร่วมงานแถลงข่าว

มร. ฮาคุโฮ โช กล่าวบนเวทีในการเปิดตัวครั้งนี้ว่า “เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสมาเยือนประเทศไทย เพื่อเผยแพร่กีฬาซูโม่สู่เวทีโลก ในการกลับมาประเทศไทยครั้งนี้ ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง และเมื่อ มร.อากิโอะ ชวนผมมาร่วมงานนี้ ผมก็ไม่ลังเลที่จะตอบทันที ซึ่งต้องขอขอบคุณอีกครั้งที่เชิญผมมาร่วมงานเปิดตัวรถระดับโลก ทั้งยังตั้งใจที่เผยแพร่ซูโม่สู่เวทีโลกเช่นกัน ทั้งนี้ กีฬาซูโม่คือความบริสุทธิ์ เป็นการฝึกฝนไม่เพียงแต่ร่างกาย แต่รวมถึงจิตใจด้วย ผมเชื่อว่าการส่งเสริมซูโม่จะช่วยสร้างความหวังในการขจัดการเลือกปฏิบัติและอคติทั่วโลก ผมเป็นชาวมองโกเลียโดยกำเนิด และในฐานะชาวมองโกเลียที่เป็นตัวแทนของญี่ปุ่นบนเวทีโลก ผมรู้สึกใกล้ชิดกับชาวไทยที่เป็นตัวแทนของญี่ปุ่นบนเวทีโลกผ่านโตโยต้า”
มร.ไซมอน กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในฐานะชาวอังกฤษที่ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งกับสิ่งที่คุณพูด! ทั้งในมุมประวัติศาสตร์และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม…ตอนนี้เราจะก้าวไปสู่อีกขั้น กับการยกระดับของ HILUX รุ่นใหม่ ที่เป็นผลงานที่ผมมีความภูมิใจที่ได้ร่วมงานในฐานะหัวหน้าฝ่ายออกแบบ”

นางสาวอัญญารัตน์ สุทธิเบญจกุล หัวหน้าวิศวกรระดับภูมิภาค บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเชีย จำกัด กล่าวถึงแนวคิดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ว่า “วันนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเริ่มประวัติศาสตร์บทใหม่สำหรับ HILUX และยังนับเป็นบทใหม่สำหรับการวิจัย พัฒนา และการผลิตของเราในประเทศไทย สำหรับดิฉันแล้ว นี่คือผลลัพธ์จากความทุ่มเทตลอดหลายปี จากบุคลากรผู้มีความสามารถและความเชี่ยวชาญจากกลุ่มประเทศในเอเชีย และกลุ่มประเทศโลกใต้ ภายใต้การทำงานใกล้ชิดกับสำนักงานใหญ่ของ Toyota ที่ประเทศญี่ปุ่น ควบคู่ไปกับการรับฟังคำแนะนำจากเสียงของลูกค้า ทั้งจากประเทศไทยและจากทั่วโลก
HILUX ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้งานจริงจาก 7 ใน 8 ภูมิภาคทั่วโลก สำหรับ HILUX รุ่นใหม่นี้ พวกเราได้เดินทางไปทั่วทุกภูมิภาค ตั้งแต่ทะเลทรายในตะวันออกกลาง ที่ราบสูงในอเมริกาใต้ ทุ่งหญ้าในแอฟริกา ไปจนถึงพื้นที่ห่างไกลของออสเตรเลีย และพื้นที่หนาวจัดของยุโรป
แต่ละตลาดต่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เราได้เรียนรู้จากสภาพท้องถนน ภูมิอากาศ และไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่แตกต่างกัน แล้วนำข้อมูลเชิงลึกเหล่านั้นมาพัฒนาเป็น แม่แบบในการพัฒนา (Blueprint)
นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราตั้งใจพัฒนาจากในระดับภูมิภาค เพื่อออกแบบรถให้สอดคล้องกับสภาพที่แตกต่างกันของแต่ละพื้นที่ ขณะเดียวกันก็ยังคงรักษามาตรฐานระดับโลกของโตโยต้าเอาไว้ ทั้งในด้านความปลอดภัยและสมรรถนะ ผลลัพธ์ก็คือรถยนต์ที่กลายเป็น “เพื่อนคู่ใจและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต” อย่างแท้จริง
นอกจากนี้ HILUX รุ่นใหม่กำลังพัฒนาไปพร้อมกับยานยนต์ไฟฟ้า (electrification) เทคโนโลยีการเชื่อมต่อ (connected technologies) และบริการดิจิทัล (digital services) โดยที่เรายังคงยึดมั่นในรากฐานเดิม ทุกองค์ประกอบตั้งแต่การออกแบบไปจนถึงการทดสอบ ล้วนถูกขับเคลื่อนด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างยานยนต์ที่น่าเชื่อถือ ยืดหยุ่น และพร้อมสำหรับอนาคต ความหลงใหลนี้ผลักดันให้เราสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ในขณะที่ยังคงยึดมั่นในคุณค่าของ QDR (คุณภาพ ความทนทาน และความน่าเชื่อถือ) ที่ลูกค้าคาดหวังจากโตโยต้า
ประการแรก ความน่าเชื่อถือคือสิ่งสำคัญอันดับแรกที่ลูกค้าของเราต้องการมากที่สุด จากเส้นทางภูเขาที่สมบุกสมบัน สู่ถนนในเมืองที่พลุกพล่าน HILUX รุ่นใหม่ได้รับการพัฒนาให้พร้อมรับมือได้กับทุกสภาพถนน เพื่อให้สามารถเดินทางไปทุกหนทุกแห่ง
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ ไฮลักซ์ใหม่ มีการเสริมความแข็งแกร่งของตัวถัง ปรับจูนประสิทธิภาพช่วงล่างให้เหมาะสม และนำระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า (EPS) มาใช้ เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่และควบคุมได้ง่ายยิ่งขึ้น ผลลัพธ์คือ ยานยนต์ที่ไม่เพียงแค่ทนทานต่อสภาวะที่ยากลำบาก แต่ยังอยู่รอดได้ดีในสภาวะการ์ณเหล่านั้น เป็นการมอบความแข็งแกร่งและความทนทานที่ลูกค้าคาดหวังจากโตโยต้า
เป้าหมายของโตโยต้าคือไม่เพียงสร้างรถที่แข็งแกร่งขึ้น แต่ยังฉลาดขึ้นด้วย HILUX ใหม่ออกแบบให้มีความสดใหม่ทั้งรูปลักษณ์ทั้งภายนอกและภายใน พร้อมรองรับการตกแต่งเพิ่มเติมเองได้ตามความต้องการเฉพาะของลูกค้าแต่ละคน เรายังเพิ่มเทคโนโลยีความปลอดภัยและระบบอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง เช่น Toyota Safety Sense 3 (TSS 3), Panoramic View Monitor (PVM) และ Multi-Terrain Monitor (MTM) นวัตกรรมเหล่านี้ช่วยเพิ่มการปกป้องผู้ขับขี่ให้ดียิ่งข้นในสถานการณ์จราจรที่หลากหลาย นอกจากนี้ ระบบ PVM และ MTM ให้ภาพแบบเรียลไทม์ของพื้นที่รอบตัวและใต้ท้องรถ เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถผ่านเส้นทางที่ท้าทายได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย — ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ใดก็ตาม
ในขณะที่โลกกำลังก้าวไปสู่สังคมแห่งความเป็นกลางทางคาร์บอน โตโยต้ามีเป้าหมายชัดเจน “จะไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง” โตโยต้าเชื่อว่าไม่มีทางออกเดียวที่ตอบโจทย์ลูกค้าทั้งหมดได้ แต่เราต้องมี “ทางเลือกที่หลากหลาย” เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานและวิถีชีวิตของแต่ละคน HILUX ใหม่พร้อมแล้วสำหรับความจริงนี้ ด้วยการพัฒนาให้ก้าวข้ามเครื่องยนต์สันดาปแบบเดิม เพิ่มทางเลือกใหม่ของระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเต็มรูปแบบ (BEV – Battery Electric Vehicle) เพื่อให้ตอบโจทย์ทุกตลาด ทุกลูกค้า และทุกความต้องการ แนวทาง Multi-Pathway นี้คือการสร้างโซลูชันการเดินทางที่ครอบคลุม ปฏิบัติได้จริง และยั่งยืนสำหรับทุกคน
HILUX BEV รุ่นใหม่ได้รับการออกแบบให้ช่วยลดมลพิษทางอากาศ ขณะเดียวกันยังคงสมรรถนะของรถแบบ Body-on-Frame ไว้อย่างครบถ้วน — ทั้งความสามารถในการลุยออฟโรด การลุยน้ำลึก และการบรรทุกหรือการลากจูง เป้าหมายของเราคือทำให้ HILUX เป็นรถที่ตอบโจทย์ทุกกลุ่ม ตั้งแต่ผู้ใช้ในเมือง นักผจญภัย ไปจนถึงผู้คนที่ทำงานในอาชีพต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตและสถานการณ์พลังงานของแต่ละประเทศ ทั้งหมดนี้เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการลดการปล่อยคาร์บอนของโลก
นวัตกรรมทั้งหมดนี้ตอกย้ำบทบาทของ HILUX ในฐานะ “เพื่อนคู่ใจและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต” พร้อมเติบโตไปด้วยกันกับเจ้าของรถ และคงคุณค่าไปตลอดอายุการใช้งาน ความหลากหลายและความยืดหยุ่นนี้ทำให้ HILUX ยังคงตอบโจทย์ทั้งความต้องการของวันนี้ และความท้าทายในวันพรุ่งนี้”

มร.นิค โฮจิออส ผู้จัดการอาวุโส โตโยต้าดีไซน์ ประเทศออสเตรเลีย กล่าวถึงแนวคิดในการออกแบบไฮลักซ์ ทราโว่ ว่า “ ผมเชื่อมั่นว่าลูกค้าทั่วโลกที่มีความต้องการในใช้งานที่หลากหลาย จะชอบ HILUX รุ่นใหม่ อย่างแน่นอน เพราะเป็นรถที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยดีไซน์ใหม่ของ HILUX มีความโดดเด่นและทรงพลัง พร้อมกล่าวถึงการร่วมมือระหว่างทีมออกแบบจากออสเตรเลีย และทีมวิศวกรจากประเทศไทย ว่าเป็นความร่วมมือระดับนานาชาติที่ยอดเยี่ยม ใช้เวลากว่า 10 ปีในการสร้างให้สำเร็จขึ้นมา
รถคันนี้พัฒนาขึ้นจากผู้ที่เข้าใจว่า ผู้ใช้ HILUX ทั่วโลกมีความต้องการอย่างไร เพื่อร่วมกันเพื่อสร้าง HILUX รุ่นใหม่ ที่จะนำมาซึ่งความภูมิใจในการครอบครองให้กับลูกค้าทุกคน ทั้งนี้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราได้ร่วมพัฒนา HILUX ให้ดียิ่งขึ้นเรื่อย ๆ และยังสร้างรุ่นยอดนิยมอย่าง HILUX GR-S และ Rocco อีกด้วย และตอนนี้ เราได้นำประสบการณ์ทั้งหมดมารวมกัน เพื่อสร้าง HILUX รุ่นที่ 9 อันเป็นการเปิดตำนานใหม่ให้กับ HILUX ซึ่งในช่วงเริ่มต้นของโครงการ เรามีตัวแทนจากหลายประเทศมาร่วมวางแนวทางของผลิตภัณฑ์ให้ชัดเจน เพื่อกำหนดทิศทางของรถรุ่นใหม่นี้ภายใต้เป้าหมายเดียวกัน
มร.นิค กล่าวย้ำถึง HILUX ใหม่ว่า “ตัวตนที่แท้จริงของ HILUX” ประกอบด้วย โครงสร้างที่แข็งแกร่งห่อหุ้มด้วยดีไซน์ที่ทันสมัยและทรงพลัง เราตั้งใจสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้รถตอบรับกับทุกความต้องการของผู้ใช้งาน ตัวอย่างเช่น กระจังหน้าแบบเรียวแต่ดูดุดัน และดีไซน์ด้านหน้าแบบสองชั้น ทำให้ HILUX ใหม่ดูโดดเด่น รวมถึงการใส่ตัวอักษร “T O Y O T A” ทั้งด้านหน้าและด้านหลังในทุกรุ่นย่อย ซึ่งมิใช่แค่เพียงการสื่อถึงชื่อแบรนด์เท่านั้น แต่ยังเป็น “สัญลักษณ์แห่งความไว้วางใจ” เป็นดั่งคำสัญญาว่ารถคันนี้จะตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ใช้งานได้ และเป็น “รถแห่งโอกาสไร้ขีดจำกัด” อย่างแท้จริง
ภายในของ HILUX ใหม่ ปรับเปลี่ยนให้ล้ำสมัยและใช้งานได้จริง เปรียบเสมือน”ชุดออกรบ ที่พร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ กับดีไซน์ภายในที่ดูแข็งแรงแต่ทันสมัย อุปกรณ์ต่าง ๆ จัดวางอย่างเหมาะสม ใช้งานสะดวก และเทคโนโลยีก็พัฒนาไปอีกระดับ ทำให้ภายในของรถเป็นพื้นที่เหมาะสมกับ “ทุกการใช้งานและใช้ชีวิตอย่างเต็มที่”
นี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ที่คู่ควรกับชื่อ HILUX อย่างแท้จริง และนี่คือการตีความใหม่ของรถกระบะในตำนาน ที่ถูกสร้างขึ้นโดยทีมงานที่เข้าใจลูกค้ามากที่สุด เพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้คนทั่วโลก และเรื่องราวของ HILUX ยังไม่จบแค่นี้ เพราะตราบใดที่ความต้องการของลูกค้ายังพัฒนาไปข้างหน้า HILUX ก็จะพัฒนาไปด้วยเสมอ เพื่อรับใช้ผู้คนในทุกชุมชนบนโลก จากออสเตรเลีย อเมริกาใต้ แอฟริกาใต้ ไปจนถึงยุโรปและเอเชีย — HILUX คือรถในตำนาน เราทำงานร่วมกันเพื่อออกแบบ HILUX รุ่นใหม่ ที่จะสืบสานตำนานนี้ต่อไปในอนาคต ขอให้ทุกท่านรอติดตามผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่น่าตื่นเต้นจากเราต่อไปครับ”

นายศุภกร รัตนวราหะ แถลงกลยุทธ์ทางการตลาดว่า “ชื่อของ “TRAVO” ได้รับแรงบันดาลใจจากการผสมผสานคำว่า “travel” และ “voyage” สะท้อนถึงจิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหว การสำรวจ และการผจญภัยเป็นเพื่อนร่วมทางของผู้ที่มีแรงขับเคลื่อนในชีวิต พร้อมปรับตัว และกล้าท้าทายสิ่งใหม่ ๆ รวมถึงการเติบโตทั้งในชีวิตส่วนตัวและสายอาชีพ
และแน่นอนว่า ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญ ระหว่างการพัฒนา HILUX TRAVO ทีมวิศวกรของเราได้ลงพื้นที่ศึกษาวิจัยอย่างลึกซึ้ง เพื่อทำความเข้าใจว่า ‘รถกระบะในอุดมคติ’ สำหรับคนไทยควรเป็นอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานแบบผสมผสาน ทั้งด้านโลจิสติกส์ การเดินทาง หรือการใช้ส่วนตัวเพื่อท่องเที่ยว ทีมงานได้สำรวจตลาด รับฟังเสียงจากลูกค้า อินฟลูเอนเซอร์ และร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างใกล้ชิดกับพี่ๆ สื่อมวลชนสายยานยนต์


ตำแหน่งผลิตภัณฑ์ของ HILUX ประกอบด้วย 3 รุ่นหลัก ได้แก่ HILUX REVO / HILUX TRAVO และ HILUX CHAMP
- HILUX REVO จะเน้นการใช้งานเชิงธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มโลจิสติกส์ และผู้ที่ชื่นชอบการตกแต่งรถ
- HILUX TRAVO เน้นฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ลูกค้าหลากหลายกลุ่ม ทั้ง Off road และ Urban Lifestyle ขณะที่ HILUX TRAVO-e เหมาะสำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพระดับพรีเมียม และองค์กรที่มีวิสัยทัศน์
- HILUX CHAMP จะเน้นไปที่ตลาด Conversion ตอบโจทธ์ธุรกิจ และผู้ใช้ส่วนตัวที่รักการตกแต่งรถ
HILUX ทั้ง 3 รุ่นนี้ โตโยต้ายังคงยึดมั่น ในการที่จะไม่ทิ้งลูกค้ากลุ่มใดไว้ข้างหลัง เริ่มจาก HILUX TRAVO นำโดย รุ่น Overland รถเรือธงของเราที่เน้นลูกค้าส่วนบุคคลที่มองหาคู่หูที่ไว้ใจได้ พร้อมลุยทุกเส้นทาง ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น และ ระบบการขับขี่ “Dynamic Cloud” ที่เพิ่มประสิทธิภาพ การควบคุมการทรงตัวและสัมผัสได้ถึงความนุ่มนวลที่ดียิ่งขึ้น เสริมสร้างสมรรถนะในการขับขี่และความสบายในทุกมิติ เพื่อให้ลูกค้าได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์จริง เราขอเชิญทุกท่านที่โชว์รูมโตโยต้าได้ตั้งแต่วันที่ 21–30 พฤศจิกายน
นอกจากนี้ สำหรับลูกค้าในเขตกรุงเทพและปริมณฑล สามารถสัมผัส HILUX TRAVO ได้ที่งาน Thailand International Motor Expo ณ อิมแพค เมืองทองธานี และสำหรับผู้ที่อยากสัมผัสสมรรถนะ 4×4 อย่างเต็มรูปแบบ ขอเชิญร่วมกิจกรรมทดลองขับที่สนามทดสอบใหม่ล่าสุด ณ Toyota ALIVE ในเดือนธันวาคมนี้
สำหรับรถกระบะไฟฟ้า TRAVO-e ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าระดับพรีเมียม และองค์กรที่มีวิสัยทัศน์ ที่ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมและความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) โตโยต้าได้เตรียมแผนการดูแลลูกค้าทุกมิติ ทั้งประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อมแพ็กเกจการดูแลรักษารถ BEV แบบครบวงจร และการช่วยลดต้นทุนผ่านโปรแกรมการเช่าใช้ Kinto โดยเราได้จัดราคาพิเศษสำหรับลูกค้าประเภทองค์กรอีกด้วย
ทั้งนี้ในส่วนของประกันภัย โตโยต้าได้ร่วมมือกับบริษัทประกันภัยชั้นนำ 6 แห่ง จัดทำประกันภัยชั้น 1 Toyota CARE PHYD เพื่อมอบความคุ้มครองที่คุ้มค่าสูงสุดให้แก่ลูกค้า และด้วยคุณภาพมาตรฐานจากโตโยต้า ทำให้บริษัทประกันภัยมั่นใจใน TRAVO-e ด้วยเบี้ยประกันที่ถูกที่สุดในตลาดรถยนต์ BEV สำหรับการต่ออายุประกันภัย ยังได้รับส่วนลดสูงสุดถึง 40% และสามารถต่ออายุความคุ้มครองต่อเนื่องถึง 8 ปี นี่คืออีกหนึ่งความตั้งใจของเรา ที่จะทำให้การเป็นเจ้าของรถไฟฟ้าเป็นเรื่องง่ายและคุ้มค่าสำหรับลูกค้าทุกท่าน
นอกจากตัวผลิตภัณฑ์แล้ว ลูกค้า BEV ของโตโยต้ายังสามารถมั่นใจได้ในบริการหลังการขายแบบครบวงจร เริ่มจากค่าใช้จ่ายการบำรุงรักษาต่ำกว่า ทีมงานที่ผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดี เครือข่ายศูนย์บริการตัวถังและสีที่ครอบคลุมทั่วประเทศ อะไหล่ที่พร้อมใช้งาน และมาตรฐานคุณภาพที่เชื่อถือได้ของโตโยต้า และนี่คือสิ่งยืนยันถึงความพร้อมที่จะส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าในทุกรูปแบบ”
สำหรับ HILUX REVO นายศุภกร กล่าวขออภัยลูกค้า ที่ยังไม่ได้เปิดตัวรุ่น Z Edition ใหม่ได้ในการเปิดตัวครั้งนี้ ทั้งนี้ HILUX REVO Z Edition ได้รับการปรับปรุงโฉมไปในปี พ.ศ. 2567 อย่างไรก็ตาม สำหรับ HILUX REVO มีการเพิ่มระบบความปลอดภัย ADAS ได้แก่ ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า และระบบช่วยเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่โดยยังคงราคาเดิม และนำเสนอชุดแต่งเวอร์ชันใหม่ของ Charismo ในชื่อ “Drift Package & Rock Package” ทั้งยังมาพร้อมแคมเปญที่น่าดึงดูดใจ โดยเน้นไปที่การเป็นเจ้าของได้ง่ายด้วยข้อเสนอผ่อนต่ำ ฟรีประกันภัยชั้น 1 พร้อมแคมเปญเฉพาะกลุ่มอย่างธุรกิจขนส่ง นอกจากนั้น ยังเข้าร่วมมาตรการค้ำประกัน “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” จากรัฐบาล และพิเศษ ลูกค้าโตโยต้าทุกรุ่น สามารถร่วมแคมเปญส่งท้ายปีเก่า อาริกาโตะ รับส่วนลดเมื่อซื้อรถโตโยต้า และลุ้นรางวัลต่อโดยมีมูลค่ารางวัลรวมกว่า 593 ล้านบาท
นายศุภกร กล่าวถึง HILUX CHAMP ที่มีส่วนสำคัญอย่างมากในตลาดรถกระบะ ซึ่งจากการสำรวจ พบว่า ลูกค้า HILUX CHAMP มีการใช้งานเชิงพาณิชย์ สูงถึงประมาณ 80% โดยลูกค้าที่ซื้อส่วนใหญ่เป็นเจ้าของกิจการ ตัดสินใจซื้อรถรุ่นนี้ เพราะเป็นกระบะท้ายเรียบ แบบเปิด 3 ทาง และคุ้มค่าการลงทุน ดังนั้นในไตรมาส 4 แคมเปญพิเศษ จะเน้นเจาะกลุ่มผู้ประกอบการ ในแต่ละรายอาชีพอย่างต่อเนื่อง และ 20% ของกลุ่มลูกค้า HILUX CHAMP เป็นตลาด Private ส่วนใหญ่เป็นลูกค้ารายได้สูง ซื้อรถเพื่อไปตกแต่งตามความชอบ และ Lifestyle ทั้งนี้ ยังได้มีการแนะนำ HILUX CHAMP รุ่นช่วงล้อสั้นพิเศษ ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการตกแต่งเพิ่มเติม
นอกจากนี้ โตโยต้ายังได้นำรถแต่งต้นแบบจากอู่แต่งพันธมิตร TJM ภายใต้ Concept Outdoor Escape และ SSS กับ Concept Mobile Service มาจัดแสดง พร้อมแนะนำ World of Hilux ที่จัดแสดงไฮลักซ์ในรูปแบบที่หลากหลาย เพื่อให้ลูกค้าเห็นภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่า HILUX ตอบสนองการใช้งานได้อย่างครอบคลุม ทั้งสำหรับไลฟ์สไตล์และการใช้งานเชิงพาณิชย์
นายศุภกร กล่าวย้ำถึงเจตนารมณ์ของโตโยต้าว่า “นี่คือเจตนารมณ์ของเรา — ที่จะจุดประกายตลาดการตกแต่งรถ และสนับสนุนธุรกิจชิ้นส่วนท้องถิ่นอย่างจริงจัง สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณทุกท่านที่ยังคงให้การสนับสนุน HILUX อย่างต่อเนื่อง โตโยต้าขอยืนยันถึงความมุ่งมั่นที่จะทำทุกอย่างเพื่อสนับสนุนคนไทย ไม่ใช่แค่ลูกค้าของเราเท่านั้น แต่รวมถึงพันธมิตรและผู้ประกอบการท้องถิ่นด้วย จากวันนี้เป็นต้นไป โตโยต้าจะไม่หยุดพัฒนา เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและความน่าเชื่อถือให้กับคนไทย สมกับที่ได้รับการยอมรับให้เป็น “รถกระบะมหาชน” อย่างแท้จริง”
สัมผัสและทดลองขับได้แล้ววันนี้ ที่ Toyota ALIVE บางนา
โดยสามารถจองทดลองขับได้ที่ https://www.toyota.co.th/alive/testdrive-reservation
และที่โชว์รูมโตโยต้าทั่วประเทศ
พบกับกิจกรรมต่างๆ พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษ
ในช่วงเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม 2568 ได้ที่
– HILUX TRAVO GREATER TOGETHER FEST ที่จะให้คุณได้สัมผัสกับ HILUX TRAVO ครั้งแรก
ระหว่างวันที่ 21 – 30 พฤศจิกายน 2568 ณ โชว์รูมโตโยต้าทั่วประเทศ
– งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42 Thailand International Motor Expo 2025
ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2568 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี
o TOYOTA HILUX TRAVO พร้อมส่งมอบตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป
o HILUX TRAVO-e พร้อมส่งมอบตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป
ติดตามข้อมูลผลิตภัณฑ์ และกิจกรรมการตลาดเพิ่มเติมได้ที่
Facebook: Toyota Motor Thailand
LINE Official: @ToyotaThailand
TikTok: @ToyotaMotorTH
X: @ToyotaMotorTH
Instagram: @toyotamotorthailandofficial
Facebook: Toyota Hilux Thailand
TikTok: @toyotahiluxthailand
Instagram: @toyotahiluxthailand

ข้อมูลผลิตภัณฑ์
TOYOTA HILUX TRAVO “ไฮลักซ์ ทราโว่” และ HILUX TRAVO-e “ไฮลักซ์ ทราโว่ อี”
“GREATER TOGETHER…สู่ความยิ่งใหญ่ไปด้วยกัน”
คอนเซ็ปต์ “Greater Together สู่ความยิ่งใหญ่ไปด้วยกัน” มาจากประวัติศาสตร์อันยาวนานของรถยนต์โตโยต้า ไฮลักซ์ ที่อยู่คู่คนไทยมาถึง 57 ปี ซึ่งรถยนต์โตโยต้า ไฮลักซ์ไม่ใช่แค่ยานพาหนะ แต่เปรียบเสมือนเพื่อนคู่ใจ ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายทั้งในชีวิตประจำวันและเชิงพาณิชย์ นอกจากนั้น ด้วยคุณภาพที่เป็นที่ยอมรับในสากล ทำให้รถยนต์โตโยต้า ไฮลักซ์เป็นหนึ่งในสินค้าส่งออกที่สำคัญของประเทศ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสร้างรายได้เข้าสู่เศรษฐกิจของชาติ และสำหรับรถยนต์ โตโยต้า ไฮลักซ์ ทราโว่ ได้ผ่านการออกแบบโดยคนไทย เพื่อคนไทย ตอบโจทย์ทุกการใช้งานของคนไทย ทั้งในชีวิตประจำวัน เพื่อธุรกิจ และการเดินทางในโอกาสพิเศษ
TOYOTA HILUX TRAVO จะมาในรุ่นยกสูงเท่านั้น
มีทั้งหมด 4 Segments (17 รุ่นย่อย) ได้แก่
1.“HILUX TRAVO OVERLAND” รุ่นเรือธง
(ขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง และ ขับเคลื่อน 4 ล้อ)
“GREAT EXPLORER” เพื่อนร่วมเดินทางที่เคียงข้างไปกับคุณ ให้คุณออกไปค้นพบ และสัมผัสประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ แล้วคุณจะรู้ว่าไม่มีเป้าหมายใดเป็นไปไม่ได้ หากคุณพร้อมลุยไปด้วยกัน
2.“HILUX TRAVO PRERUNNER” ขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง
3.“HILUX TRAVO 4TREX” ขับเคลื่อน 4 ล้อ
“GREAT URBANER” มาในทั้ง Double Cab และ Smart Cab เน้นการใช้งานส่วนบุคคลและไลฟ์สไตล์ สะดวกสบายไปกับเพื่อนร่วมทางที่พร้อมไปกับคุณ ตอบโจทย์ทั้งการขับขี่ในเมืองที่เน้นความคล่องตัว ด้วยPRERUNNER ขับเคลื่อน 2 ล้อ และพร้อมพาคุณออกไปเติมพลัง ดื่มด่ำธรรมชาติกับรุ่น 4TREX ขับเคลื่อน 4 ล้อ มาร่วมเดินทาง และ ทำให้ทุกวันเป็นวันที่ยิ่งใหญ่ไปด้วยกัน
4.“HILUX TRAVO STANDARD CAB 4TREX” ขับเคลื่อน 4 ล้อ
“GREAT ACHIEVER” กระบะคู่ใจที่พร้อมเคียงข้างทุกความมุ่งมั่น เพื่อสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง มาพร้อมตัวถังแบบมาตรฐานและระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ให้สมรรถนะครบทั้งความแกร่งพร้อมลุย การบรรทุกที่เหนือชั้น และความคุ้มค่าในทุกเส้นทาง พร้อมพิชิตทุกความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ไปด้วยกัน
และขอแนะนำทางเลือกใหม่
กระบะไฟฟ้าตัวจริง HILUX TRAVO-e
“GREAT THINKER” กระบะไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนจากแนวคิด MULTI-PATHWAY ถูกคิดเพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลาย ผ่านการมองอนาคตอย่างรอบด้าน คิดเพื่อทุกคน คิดเพื่อสร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ และคิดเพื่อการเดินทางสู่อนาคตใหม่ ที่ยิ่งใหญ่ไปด้วยกัน
จุดขายเด่นของ HILUX TRAVO OVERLAND
ดีไซน์ภายนอก
ผสานความ “แข็งแกร่ง (Tough)” เข้ากับความ “คล่องตัว (Agile)”
สะท้อนภาพลักษณ์ที่ทรงพลังและคล่องตัว
- ด้านหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Cyber Sumo แข็งแกร่ง มั่นคง และทรงพลัง
- ไฟหน้า LED พร้อม Daytime Running Light โฉบเฉี่ยว สะกดทุกสายตา
- สปอร์ตบาร์เสริมความแกร่ง พร้อมไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่
- ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว
ดีไซน์ภายใน
“Robust Simplicity” ดีไซน์เรียบง่ายแต่ทรงพลัง ทุกฟังก์ชันใช้งานได้จริง
- จอแสดงข้อมูลการขับขี่ ขนาด 12.3 นิ้ว แบบดิจิทัล ทันสมัย คมชัด
- พวงมาลัยไฟฟ้า แม่นยำ ควบคุมง่าย
- เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
แบบไร้สาย พร้อม Wireless Charger
- ที่วางแก้วน้ำขนาดใหญ่ และที่พักแขนช่วยลดความเหนื่อยล้าขณะขับขี่
เทคโนโลยี “Dynamic Cloud”
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การควบคุม การทรงตัว และความนุ่มนวลให้ดียิ่งขึ้น
เพื่อเพิ่มสมรรถนะและความสบายในทุกมิติ
- เพิ่มจุดเชื่อมพื้นตัวถัง เพื่อเสริมความแข็งแรงของห้องโดยสาร ปรับปรุงการทรงตัว
และเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่
- ติดตั้งยางรองแท่นเครื่องแบบไฮดรอลิก และ ยางรองตัวถังแบบ Shear Type ลดแรงสั่นสะเทือนเข้าสู่ห้องโดยสาร
- เบาะนั่งออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ หนัง Softex นุ่ม นั่งสบาย
- ระบบช่วงล่างแบบนุ่ม หนึบ เกาะถนน
- แกนพวงมาลัยขนาดใหญ่ ช่วยให้ควบคุมได้เฉียบคม ตอบสนองดี และลดแรงสั่นสะเทือน
เครื่องยนต์ GD SUPER POWER 2.8 ลิตร
ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า
เกียร์ AT แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร
เกียร์ MT แรงบิด 420 นิวตัน-เมตร
- มาพร้อมกับเครื่องยนต์ GD SUPER POWER ขนาด 2.8 ลิตร มาพร้อมทั้งพลัง และความประหยัดที่ดีขึ้น
ตอบสนองความต้องการและการใช้งานของลูกค้าที่ต้องการรถกระบะที่เปี่ยมไปด้วยขุมพลัง
- เทคโนโลยีหัวฉีด อัจฉริยะ i-Art ช่วยให้ประหยัดน้ำมัน ควบคุมหัวฉีดอย่างแม่นยำด้วยเซ็นเซอร์คอมพิวเตอร์ทำงานร่วมกับปั๊มคอมมอนเรล แรงดันสูงสุด 250 MPa ให้ละอองน้ำมันละเอียด เผาไหม้หมดจด
- ติดตั้งระบบ Stop & Start ระบบดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อรถจอดนิ่ง เพื่อเพิ่มการประหยัดน้ำมัน
อุปกรณ์อำนวยความสะดวก และฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย
- ระบบ Multi-Terrain Select (MTS) ช่วยปรับการขับขี่ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นผิวที่หลากหลาย
ทั้งแบบ ดิน ทราย โคลน หิน หรือ หิมะ
- ระบบควบคุมเฟืองท้าย (Auto Limited Slip Differential)
- เบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อมระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ Auto Brake Hold
- บันไดข้าง พื้นลายรังผึ้ง Hexagonal Grip เพิ่มการยึดเกาะ และ สะดวกในการก้าวขึ้นลง
- บันไดเหยียบข้างกระบะท้าย ช่วยให้การขึ้นลงสะดวกขึ้น
- ระบบช่วยผ่อนแรงฝาท้ายกระบะ เปิด-ปิดง่าย
ไว้วางใจด้วยระบบความปลอดภัยที่ครบครัน
- เทคโนโลยีความปลอดภัย Toyota Safety Sense*
- All-Speed Dynamic Radar Cruise Control with Curve Speed Reduction and Lane Tracing Assist
ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติพร้อมช่วยลดความเร็วอัตโนมัติก่อนเข้าโค้ง และช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน
- Pre-collision System ระบบความปลอดภัยก่อนการชน
- Lane Departure Alert ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ
- Automatic High Beam ระบบความคุมไฟอัตโนมัติ
- ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS 7 ตำแหน่ง*
- ระบบ Blind Spot Monitor และ Rear Cross Traffic Alert
- Parking sensor สัญญาณเตือนกะระยะหน้าและหลัง
*มีในรุ่น Overland Plus
จุดขายเด่นของ HILUX TRAVO PRERUNNER และ 4TREX
(*อ้างอิงจากรุ่น Premium)
- ดีไซน์ภายนอกที่ผสานความ “แข็งแกร่ง (Tough)” เข้ากับความ “คล่องตัว (Agile)”
ด้านหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Cyber Sumo แข็งแกร่ง มั่นคง และทรงพลัง
- เครื่องยนต์ GD SUPER POWER 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า
เกียร์ AT แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร
เกียร์ MT แรงบิด 420 นิวตัน-เมตร
- เทคโนโลยี “Dynamic Cloud” ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การควบคุม การทรงตัว และความนุ่มนวลให้ดียิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มสมรรถนะและความสบายในทุกมิติ
ดีไซน์ภายใน “Robust Simplicity” และฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย
- จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่จอสีขนาด 7 นิ้ว แบบดิจิทัล
- เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
แบบไร้สาย พร้อม Wireless Charger
- เบาะนั่งวัสดุผ้า Caretex นั่งสบาย ทำความสะอาดง่าย
- เบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อมระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ Auto Brake Hold
- ระบบ Push start สตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยปลายนิ้ว
- ระบบควบคุมเฟืองท้าย (Auto Limited Slip Differential)
ไว้วางใจด้วยระบบความปลอดภัยที่ครบครัน
- ระบบ Blind Spot Monitor และ Rear Cross Traffic Alert ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา ที่กระจกมองข้างพร้อมช่วยเตือนขณะถอยรถ
- ดิสก์เบรก 4 ล้อให้การเบรกตอบสนองรวดเร็วแม่นยำ
- Rear View Camera กล้องมองภาพขณะถอยหลัง
- Parking sensor สัญญาณเตือนกะระยะหน้าและหลัง
- ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS 3 ตำแหน่ง
- ระบบควบคุมเฟืองท้าย (Auto Limited Slip Differential)
จุดขายเด่นของ TOYOTA HILUX TRAVO STANDARD CAB 4TREX
- ดีไซน์ภายนอกที่ผสานความ “แข็งแกร่ง (Tough)” เข้ากับความ “คล่องตัว (Agile)” ด้านหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Cyber Sumo แข็งแกร่ง มั่นคง และทรงพลัง
- เครื่องยนต์ GD SUPER POWER 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า
เกียร์ AT แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร
เกียร์ MT แรงบิด 420 นิวตัน-เมตร
เพิ่มประสิทธิภาพการการยึดเกาะถนน การควบคุมและการทรงตัวดียิ่งขึ้น
- แกนพวงมาลัยขนาดใหญ่ ช่วยให้ควบคุมได้เฉียบคม ตอบสนองดี และ ลดแรงสั่นสะเทือน
- เพิ่มจุดเชื่อมพื้นตัวถัง เสริมความแข็งแรงของห้องโดยสาร เพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัว
- แหนบกันสะเทือน ดูดซับแรงสะเทือนและเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่
- ยางรองแท่นเครื่องแบบไฮดรอลิก ลดแรงสั่นสะเทือนเข้าสู่ห้องโดยสาร
- ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อม Differential Lock ที่เฟืองท้าย
อุปกรณ์อำนวยความสะดวก และฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย
- จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่จอสีขนาด 7 นิ้ว แบบดิจิทัล
- เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว พร้อมระบบเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto
- เบาะนั่งวัสดุผ้า Caretex นั่งสบาย ทำความสะอาดง่าย
ไว้วางใจด้วยระบบความปลอดภัยที่ครบครัน
- ระบบ Blind Spot Monitor และ Rear Cross Traffic Alert ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้างพร้อมช่วยเตือนขณะถอยรถ
- Rear View Camera กล้องมองภาพขณะถอยหลัง
- Parking sensor สัญญาณเตือนกะระยะหน้าและหลัง
- ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS 3 ตำแหน่ง
รุ่น HILUX TRAVO-e
กระบะไฟฟ้ารุ่นแรกของ HILUX ที่ผสมผสานความแข็งแกร่งตามแบบฉบับ Hilux เข้ากับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า เพื่อสนับสนุนแนวคิด Multi-Pathway สมรรถนะสูง ทนทาน ตอบโจทย์ทุกการใช้งานแบบกระบะตัวจริง
โดย HILUX TRAVO-e มาในรุ่น Double Cab 4TREX เท่านั้น
ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า
- ระบบ Dual Motor มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ All-Wheel Drive ให้กำลังรวมสูงสุด 196 แรงม้า (144 กิโลวัตต์)
ชุดมอเตอร์ไฟฟ้าหน้าแรงบิดสูงสุด 205 นิวตันเมตร
ชุดมอเตอร์ไฟฟ้าหลังแรงบิดสูงสุด 269 นิวตันเมตร
- ความจุแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาด 59.2 kWh ระยะทาง 315 กม.
(อ้างอิงจาก Eco Sticker ตามมาตรฐาน NEDC)
รองรับการชาร์จแบบ AC สูงสุดที่ 10 kW และ แบบ DC สูงสุดถึง 125 kW
มั่นใจกับ “DIAMOND GUARD” เทคโนโลยีปกป้องแบตเตอรี่และชุดขับเคลื่อนไฟฟ้า
- ช่วยปกป้องแบตเตอรี่และชุดขับเคลื่อนไฟฟ้าด้วยแผ่นปิดเสริมความปลอดภัย ทั้งด้านหน้าและใต้ท้องรถ
- แบตเตอรี่ยึดกับเฟรมย่อยเป็นรูป Diamond Shape ช่วยลดความเสียหายต่อแบตเตอรี่จากการบิดตัวของเฟรมระหว่างการใช้งาน
- เสริมความปลอดภัยจากการกระแทกรอบทิศทางด้วยโครงสร้างดูดซับแรงกระแทก
เทคโนโลยี “Dynamic Cloud” สำหรับ TRAVO-e ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
การควบคุม การทรงตัว และความนุ่มนวลให้ดียิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มสมรรถนะ และความสบายในทุกมิติ
- เพิ่มจุดเชื่อมพื้นตัวถัง เพื่อเสริมความแข็งแรงของห้องโดยสาร ปรับปรุงการทรงตัว และเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่
- ยางรองตัวถังแบบ Shear Type ลดแรงสั่นสะเทือนเข้าสู่ห้องโดยสาร
- เบาะนั่งออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ หนัง Softex นุ่ม นั่งสบาย
- แกนพวงมาลัยขนาดใหญ่ ช่วยให้ควบคุมได้เฉียบคม ตอบสนองดี และลดแรงสั่นสะเทือน
- ระบบช่วงล่างแบบนุ่ม หนึบ เกาะถนน ด้านหลังแบบ De-Dion ลดน้ำหนักใต้สปริง นุ่มนวล เสริมสมรรถนะการควบคุม
- แบตเตอรี่ติดตั้งบริเวณกึ่งกลางเฟรม ช่วยให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำ เพิ่มความมั่นคงและสมดุลของรถ
เลือกเป็นเจ้าของ TOYOTA HILUX TRAVO มาพร้อม 6 สีให้เลือก
- ใหม่! สีน้ำตาล SULFUR METALLIC
- ใหม่! สีเทา ASH
- สีขาวมุก PLATINUM WHITE PEARL MICA
- สีขาว SUPER WHITE II
- สีดำ ATTITUDE BLACK MICA
- สีเงิน SILVER METALLIC
(*สีขาวมุก Platinum White Pearl Mica เพิ่ม 10,000 บาท และ สีขาว SUPER WHITE II ลด 7,000 บาท)
และ HILUX TRAVO-e Double Cab 4TREX มาพร้อม 2 สีให้เลือก
- ใหม่! สีเทา ASH
- สีขาวมุก PLATINUM WHITE PEARL MICA
(*สีขาวมุก Platinum White Pearl Mica เพิ่ม 10,000 บาท)
ราคาและแคมเปญ
TOYOTA HILUX TRAVO “ไฮลักซ์ ทราโว่” และ HILUX TRAVO-e “ไฮลักซ์ ทราโว่ อี”
TOYOTA HILUX TRAVO
มาพร้อมหลากหลายรุ่นย่อย ตอบโจทย์ทุกความต้องการ
ดับเบิ้ลแค็บ (DOUBLE CAB)
- Overland Plus AT
ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX ราคา 1,366,000 บาท
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 1,176,000 บาท
- Overland AT
ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX ราคา 1,292,000 บาท
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 1,102,000 บาท
- 2.8 Premium AT
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 999,000 บาท
- 2.8 Premium MT
ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX ราคา 1,090,000 บาท
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 949,000 บาท
- 2.8 Smart AT
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 945,000 บาท
- 2.8 Smart MT
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 895,000 บาท
รับข้อเสนอ:
รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX ดอกเบี้ยพิเศษ 1.89% หรือ ฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota care PHYD
รุ่นขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% หรือ ดอกเบี้ย 1.75% พร้อมประกันภัยชั้น 1 Toyota care PHYD
สมาร์ทแค็บ (SMART CAB)
- 2.8 Premium AT
ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX ราคา 1,029,000 บาท
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 909,000 บาท
- 2.8 Premium MT
ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX ราคา 984,000 บาท
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 859,000 บาท
- 2.8 Smart AT
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 839,000 บาท
- 2.8 Smart MT
ขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ราคา 789,000 บาท
รับข้อเสนอ:
รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX ดอกเบี้ยพิเศษ 1.79% หรือ ฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota care PHYD
รุ่นขับเคลื่อนสองล้อ PRERUNNER ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% หรือ ดอกเบี้ย 1.65% พร้อมประกันภัยชั้น 1 Toyota care PHYD
สแตนดาร์ดแค็บ (STANDARD CAB)
- 2.8 AT
ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX ราคา 826,000 บาท
- 2.8 MT
ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX ราคา 774,000 บาท
รับข้อเสนอ: ดอกเบี้ยพิเศษ 1.69% หรือ ฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota care PHYD
HILUX TRAVO-e
ดับเบิ้ลแค็บ (DOUBLE CAB)
- ขับเคลื่อนสี่ล้อ 4TREX ราคา 1,491,000 บาท
รับข้อเสนอ: ฟรีประกันภัยชั้น 1 Toyota care PHYD
ลูกค้าบุคคลธรรมดาที่จองภายในวันที่ 10 ธันวาคม 2568 และรับรถภายใน 31 มีนาคม 2569
รับฟรี! คูปองชาร์จไฟมูลค่า 10,000 บาท จาก EV Station PluZ และ Luxury Hotel Voucher ของ The Standard Pattaya Na Jomtien มูลค่า 7,700 บาท
| พิเศษช่วงมอเตอร์เอ็กซ์โป ซื้อไฮลักซ์ ทุกรุ่น รับข้อเสนอพิเศษ
กับแคมเปญ “TOYOTA ARIGATO โปรแจกใหญ่จัดเต็ม” เพียงสแกน QR ลงทะเบียน ลุ้นรับเพิ่ม 3 ต่อ ต่อที่ 1 สแกนปั๊บ เลือกรับเลย บัตรกำนัลส่วนลด สูงสุด 10,000 บาท หรือ ส่วนลดดอกเบี้ย สุงสุด 0.4% หรือ แพ็กเกจเช็กระยะ Smart Plan 50,000 กม. ต่อที่ 2 จองใน 7 วัน ลุ้นรับเพิ่ม บัตรกำนัลสูงสุด 100,000 บาท ทุกสัปดาห์ 3,200 รางวัล ต่อที่ 3 รับรถแล้ว ลุ้นรางวัล ทริปญี่ปุ่น รางวัลละ 2 ที่นั่ง 10 รางวัล ตั้งแต่ 4 พฤศจิกายน 2568 – 31 ธันวาคม 2568 |
ชุดอุปกรณ์ตกแต่งแท้โตโยต้า
ยกระดับความเท่ให้ HILUX TRAVO ด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งแท้โตโยต้า แข็งแกร่ง ดุดัน พร้อมลุย
ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน พร้อมการรับประกันสูงสุด 3 ปี หรือ 100,000 กม.
ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง CHARISMO ROCK :
“ตกแต่งอย่างมีสไตล์ ด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์” สู่อีกขั้นของภาพลักษณ์ออฟโรดที่ไม่ซ้ำใคร
- ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง CHARISMO ROCK สำหรับรุ่น สแตนดาร์ดแค็บ
- ราคาขายปลีกแนะนำ 14,750 บาท* หรือผ่อนเพิ่มเริ่มต้น 174 บาท/เดือน**
- ชุดตกแต่งกันชนหน้า ราคา 6,000 บาท
- คิ้วตกแต่งฝากระโปรงด้านข้าง ราคา 1,600 บาท
- กรอบรองที่จับประตู (สีดำ) ราคา 950 บาท
- ชุดตกแต่งซุ้มล้อ ราคา 6,200 บาท
- ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง CHARISMO ROCK สำหรับรุ่น สมาร์ทแค็บ และ ดับเบิ้ลแค็บ
- ราคาขายปลีกแนะนำสำหรับรุ่นดับเบิ้ลแค็บ 14,900 บาท* หรือผ่อนเพิ่มเริ่มต้น 172 บาท/เดือน***
- ชุดตกแต่งกันชนหน้า ราคา 6,000 บาท
- คิ้วตกแต่งฝากระโปรงด้านข้าง ราคา 1,600 บาท
- กรอบรองที่จับประตู (สีดำ) ราคา 1,900 บาท
- คิ้วกันกระแทกประตู ราคา 3,500 บาท
- สปอยเลอร์ฝาท้ายกระบะ ราคา 1,900 บาท
- ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง CHARISMO ROCK สำหรับรุ่นดับเบิ้ลเเค็บ Overland
- ราคาขายปลีกแนะนำ 8,900 บาท* หรือผ่อนเพิ่มเริ่มต้น 103 บาท/เดือน***
- คิ้วตกแต่งฝากระโปรงด้านข้าง ราคา 1,600 บาท
- กรอบรองที่จับประตู (สีดำ) ราคา 1,900 บาท
- คิ้วกันกระแทกประตู ราคา 3,500 บาท
- สปอยเลอร์ฝาท้ายกระบะ ราคา 1,900 บาท
- ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง CHARISMO ROCK สำหรับรุ่น TRAVO-e
- ราคาขายปลีกแนะนำสำหรับรุ่นดับเบิ้ลแค็บ 14,900 บาท* หรือผ่อนเพิ่มเริ่มต้น 172 บาท/เดือน***
- ชุดตกแต่งกันชนหน้า ราคา 6,000 บาท
- คิ้วตกแต่งฝากระโปรงด้านข้าง ราคา 1,600 บาท
- กรอบรองที่จับประตู (สีดำ) ราคา 1,900 บาท
- คิ้วกันกระแทกประตู ราคา 3,500 บาท
- สปอยเลอร์ฝาท้ายกระบะ ราคา 1,900 บาท
นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ตกแต่งแท้โตโยต้าอื่นๆเพิ่มเติม เพื่อเติมเต็มความต้องการและการใช้งานของลูกค้า เช่น พรมปูพื้นรถยนต์แบบเข้ารูป, โลโก้ TOYOTA บนฝากระบะท้าย, กล้องบันทึกภาพด้านหน้าและหลัง รุ่น 2K/4K, แผงบังแดดข้าง, สคัฟเพลท, ชุดตกแต่งฝาถังน้ำมัน, อุปกรณ์ช่วยผ่อนแรงเปิด-ปิดฝากระโปรง, อุปกรณ์ช่วยผ่อนแรงปิดฝาท้าย, อุปกรณ์ล็อคฝาท้ายกระบะรถยนต์ด้วยรีโมทรถยนต์
รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถศึกษาได้ที่: https://www.toyota.co.th/accessories/
หมายเหตุ
- *ราคาขายปลีกแนะนำรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และราคาดังกล่าวไม่รวมค่าแรงติดตั้ง
- **ราคาผ่อนเพิ่ม ไม่รวมค่าติดตั้ง คำนวณเฉพาะอุปกรณ์ตกแต่งบนรถรุ่นสแตนดาร์ดแค็บ(ไม่รวมราคาตัวรถ) โดยโตโยต้าลีสซิ่ง ดาวน์ 25% ระยะเวลา 84 เดือน ดอกเบี้ย 4.49% (ดอกเบี้ยมาตรฐาน สำหรับเดือนพ.ย.2568)
- ***ราคาผ่อนเพิ่ม ไม่รวมค่าติดตั้ง คำนวณเฉพาะอุปกรณ์ตกแต่งบนรถรุ่นดับเบิ้ลแค็บ(ไม่รวมราคาตัวรถ) โดยโตโยต้าลีสซิ่ง ดาวน์ 25% ระยะเวลา 84 เดือน ดอกเบี้ย 4.09% (ดอกเบี้ยมาตรฐาน สำหรับเดือนพ.ย.2568)
- ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง CHARISMO ROCK ที่จัดจำหน่ายผ่านช่องทางผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า อยู่ภายใต้เงื่อนไขการรับประกันคุณภาพอุปกรณ์ตกแต่งแท้โตโยต้าสูงสุด 3 ปี หรือ 100,000 กม. แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน (ตามรุ่นรถยนต์ที่บริษัทฯกำหนด โปรดศึกษารายละเอียดจากคู่มือการรับประกันคุณภาพและคู่มือการใช้งานรถยนต์)
โปรดศึกษารายละเอียดการรับประกันเพิ่มเติมได้ที่ https://www.toyota.co.th/accessories/warranty/tga
ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง GR PARTS
(จัดจำหน่ายโดยบริษัท ทีซีดี เอเชีย เซลส์ จำกัด)
ยกระดับ HILUX TRAVO เติมเต็มภาพลักษณ์ความสปอร์ตดุดันขั้นสุด
- ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง GR PARTS สำหรับรุ่น สแตนดาร์ดแค็บ สมาร์ทแค็บ และ ดับเบิ้ลแค็บ
- ราคาเริ่มต้น 20,470บาท*
- กระจังหน้า ราคา 8,900 บาท
- ชุดกันกระแทกใต้ท้องรถ ส่วนหน้า ราคา 6,070 บาท
- ชุดบังโคลนสีแดง/สีดำ ราคา 5,500 บาท (4ชิ้นต่อชุด)
- ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง GR PARTS สำหรับรุ่น ดับเบิ้ลแค็บ Overland
- ราคาเริ่มต้น 29,460 บาท*
- กระจังหน้า ราคา 8,900 บาท
- ชุดแต่งซุ้มล้อ ราคา 8,990 บาท
- ชุดกันกระแทกใต้ท้องรถ ส่วนหน้า ราคา 6,070 บาท
- ชุดบังโคลนสีแดง/สีดำ ราคา 5,500 บาท (4ชิ้นต่อชุด)
นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ตกแต่ง GR PARTS ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความดุดันและเสริมความอเนกประสงค์ได้อย่างลงตัว อาทิ เช่น บันไดข้าง, ชุดแต่งคอกกระบะหลัง, ชุดแร๊คหลังคาสัมภาระ, ล้ออัลลอยด์แบรนด์ GR ขนาด 17นิ้ว และ ชุดน็อตล้อ GR
รายละเอียดสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ตัวแทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ
หมายเหตุ
- *ราคาขายปลีกแนะนำรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และราคาดังกล่าวไม่รวมค่าแรงติดตั้ง
- อุปกรณ์ตกแต่ง GR PARTS ไม่อยู่ในเงื่อนไขการรับประกันคุณภาพรถยนต์โตโยต้าและอะไหล่แท้โตโยต้า
- อุปกรณ์ตกแต่ง GR PARTS ผลิตและรับประกันโดยบริษัท ทีซีดี เอเชีย เซลส์ จำกัด ติดตั้งกับรถใหม่ (ต้องติดตั้งโดยผู้แทนจำหน่ายเท่านั้น) ระยะเวลารับประกันคุณภาพสูงสุด 1 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) อ้างอิงเงื่อนไขการรับประกันสินค้าจากบริษัท ทีซีดี เอเชีย เซลส์ จำกัด
Design My Toyota จากไอเดีย สู่คันจริงที่คุณดีไซน์เอง
Design My Toyota โปรแกรมแต่งรถเสมือนจริงใหม่ล่าสุดที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถยนต์โตโยต้าพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งให้สะดวกและทันสมัยยิ่งขึ้น มาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ง่ายและสะดวกต่อผู้ใช้งาน
- Vehicle Selection เลือกรุ่นรถ เกรด และสีรถ สำหรับตกแต่งและคำนวณค่าใช้จ่ายรวมถึงยอดผ่อนต่อเดือนได้ง่ายๆ
- Accessories Selection เลือกตกแต่งรถด้วยอุปกรณ์ตกแต่งแท้โตโยต้าและอุปกรณ์ตกแต่งจากพันธมิตรได้ทุกหมวดหมู่ ทั้งภายนอก ภายใน อุปกรณ์ไฟฟ้า และอื่นๆ พร้อมข้อมูลผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยในการตัดสินใจ
- Monthly Installment ทดลองคำนวณค่าผ่อนต่องวดเพิ่มเติมตามยอดเงินดาวน์ ลดความกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย
- Save & Share บันทึกหรือแชร์เป็นรูปภาพหรือไฟล์ง่าย ๆ เพียงคลิกเดียว ไม่ต้องล็อกอินหรือกรอกข้อมูลเพิ่มเติม
- Connect to Dealer ส่งข้อมูลทั้งหมด ทั้งรุ่นรถ อุปกรณ์ตกแต่ง และแผนผ่อนต่อเดือนให้กับผู้แทนจำหน่าย โตโยต้าที่คุณเลือกเพื่อรับการติดต่อกลับจากผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า
Design My Toyota พร้อมให้ลูกค้าทุกคนเข้ามาสัมผัสประสบการณ์ออกแบบรถยนต์โตโยต้า HILUX TRAVO พร้อมอุปกรณ์ตกแต่งในแบบของตัวเองได้แล้วหลังจากเปิดจำหน่าย HILUX TRAVO อย่างเป็นทางการ ที่เว็บไซต์ https://www.toyota.co.th/accessories/designmytoyota
หมายเหตุ: ภาพรถที่ใช้ในโปรแกรมการแต่งรถเสมือนจริง (Design My Toyota) จะแสดงผลเฉพาะหมวดอุปกรณ์ตกแต่งภายนอก เท่านั้น
TOYOTA HILUX TRAVO มาพร้อมบริการจาก T-Connect ตอบโจทย์ทุกการเดินทาง
ปลอดภัย อุ่นใจด้วยบริการ Find My Car รู้ตำแหน่งรถยนต์แบบเรียลไทม์ SOS ช่วยประสานงานติดตามรถหายและช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้ง TCFR Plus+ ขยายระยะรับประกันคุณภาพรถยนต์สูงสุด 8 ปี หรือ 225,000 กม. (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) เมื่อเช็กระยะตามที่กำหนด พร้อมรับสิทธิประโยชน์จากโปรแกรม ALIVE-X สะสมทุกยอดค่าใช้จ่ายเป็นคะแนน The1 และแลกส่วนลดได้ที่ศูนย์บริการโตโยต้าทั่วประเทศ ประกันภัยขับดี ลดให้ (PHYD) คุ้มค่าด้วยส่วนลดต่อประกันภัยด้วยส่วนลดสูงสุด 40% และอีกกว่า 20 บริการจากแอป T-Connect ดาวน์โหลดฟรี “ใช้แล้วเวิร์ก ใช้ได้ทุกวัน ใช้ T-Connect”
สามารถศึกษาข้อกำหนดและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่ www.t-connect.in.th
สัมผัสประสบการณ์ขับขี่ใหม่ กับบริการเสริมที่หลากหลาย
ผ่านเทคโนโลยี T-CONNECT ด้วย 3 คุณสมบัติหลัก ตอบโจทย์ทุกการเดินทาง
1. Always Located & Protected ให้คุณอุ่นใจ ปลอดภัยไร้กังวลในการเดินทาง
– Find My Car บริการเช็กตำแหน่งรถแบบเรียลไทม์ หมดปัญหาจำที่จอดไม่ได้ หารถไม่เจอ
– TheftTrack บริการตรวจสอบตำแหน่งรถยนต์เมื่อถูกโจรกรรม และประสานความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง
– SOS บริการประสานงานช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง
– Geo-Fencing บริการแจ้งเตือนเมื่อรถเคลื่อนออกจากจุดจอดหรือขอบเขตที่คุณกำหนดไว้
2. Telematics Care ดูแลรถได้ง่ายๆ สะดวก พร้อมออกเดินทาง
– TCFR Plus+ สิทธิขยายระยะรับประกันคุณภาพรถยนต์สูงสุด 8 ปี หรือ 225,000 กม. (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)
– Maintenance Reminder บริการแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาเข้าศูนย์บริการ พร้อมนัดหมายศูนย์บริการออนไลน์
– Vehicle Information บริการข้อมูลรถ แสดงสถานะรถ เช็กประวัติ และสถานะงานซ่อมเรียลไทม์
– PHYD Insurance ประกันภัย “ขับดี ลดให้” ที่ทำให้ลูกค้าสนุกกับคะแนนการขับขี่และส่วนลดเพิ่มเติม จากค่าเบี้ยประกันภัยพิเศษที่คำนวณจากพฤติกรรมและระยะทางการขับขี่ของลูกค้า
3. Happiness Mobility บริการเติมเต็มความสุข ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์
– Toyota Alive-X โปรแกรมสะสมคะแนน The 1 ใช้แลกเป็นส่วนลดในการเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการโตโยต้า
– Connect You บริการแจ้งสิทธิพิเศษที่คัดสรรสำหรับลูกค้า T-Connect
– Concierge Services บริการผู้ช่วยส่วนตัว ให้คุณสอบถามเส้นทาง จองร้านอาหาร และอื่นๆอีกมากมาย
หมายเหตุ : การให้บริการของ T-Connect ต้องดาว์โหลดแอปพลิเคชัน และต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของรถเพื่อเข้าใช้งาน สามารถศึกษาข้อกำหนดและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่ www.t-connect.in.th
KINTO ทางเลือกในการเป็นเจ้าของ
TOYOTA HILUX TRAVO รูปแบบใหม่
อีกหนึ่งทางเลือกใหม่ มีรถใช้ แบบไม่ต้องซื้อ บริการให้เช่ารถยนต์ระยะยาวจากโตโยต้า ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นและความคุ้มค่า สามารถเลือกใช้บริการได้อย่างมั่นใจ ด้วยการชำระค่าบริการรายเดือนราคาเดียวตลอดสัญญา ครอบคลุมบริการครบวงจร ทั้งประกันภัยชั้น 1 การบำรุงรักษารถยนต์ การต่อภาษีและ พ.ร.บ. ตลอดอายุสัญญาส่งถึงบ้าน รวมถึงบริการรถทดแทนระหว่างซ่อม* หมดกังวลเรื่องภาระราคาขายต่อในอนาคต
สมัครใช้บริการและศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.kinto-th.com
หมายเหตุ : เงื่อนไขและการให้บริการเป็นไปตามที่ บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด
ข้อมูลผลิตภัณฑ์และแคมเปญ
HILUX REVO Z EDITION และ HILUX CHAMP
HILUX REVO Z EDITION
รถกระบะใช้งานเชิงพาณิชย์ที่เน้นความคุ้มค่า ตอบโจทย์ทั้งงานขนหนัก ระยะทางไกล และยังคงราคาเดิม
เพิ่มระบบความปลอดภัยในทุกรุ่นย่อย
- ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning / FCW)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนตัว (Traffic Movement Notification / TMN)
รับข้อเสนอ: ผ่อนเริ่มต้น 4,100 บาทต่อเดือน พร้อมประกันภัยชั้น 1 Toyota Care PHYD คำนวนจากรุ่น Hilux Revo Smart Cab Z edition 2.4 Entry ราคา 669,000 บาท
HILUX CHAMP
รถกระบะเชิงพาณิชย์ใช้งานอเนกประสงค์ เน้นการดัดแปลง ตอบโจทย์ทั้งงานขนเบา ระยะทางใกล้ ในราคาที่เอื้อมถึง
เพิ่มระบบความปลอดภัยในทุกรุ่น
- ระบบแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning / FCW)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนตัว (Traffic Movement Notification / TMN)
แนะนำรุ่น HILUX CHAMP ช่วงล้อสั้นพิเศษ
“SUPER SHORT WHEEL BASE ATTRACTIVE PACKAGE”
สำหรับลูกค้าใช้งานส่วนบุคคลที่ชื่นชอบการตกแต่งรถตามไลฟ์สไตล์
- มิติภายนอก ยาว 4,520 มม. (-450 มม. จากรุ่นช่วงล้อสั้น)
- ความยาวช่วงล้อ 2,580 มม. (-170 มม. จากช่วงล้อสั้น)
- รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 4.7 ม. (-0.2 ม. จากรุ่นช่วงล้อสั้น)
- ระบบกันสะเทือนหลัง (มีเฉพาะรุ่น Super SWB)
- เพิ่ม คิ้วตกแต่งด้านข้าง
- เพิ่ม ยางปูพื้นกระบะ
- ไฟหน้าแบบ LED Projector พร้อม DRL
- ภายในสีดำตกแต่งด้วยแถบสีส้ม
- กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า
- โลโก้ Toyota ตกแต่งสีเงิน
- ชุดแต่งชายกระบะด้านข้างและด้านท้าย (เฉพาะรุ่นมีกระบะท้าย)
รับข้อเสนอ: ดอกเบี้ย 0% (ดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน) สำหรับผู้ประกอบการ SME และเจ้าของกิจการที่เข้าร่วมโครงการสมาชิกหอการค้าไทย


