เมื่อแบรนด์ต่างเผชิญสถานการณ์ Drop-off จาก Consideration สู่ Purchase สูงถึง 50-75% ทำให้แบรนด์ไม่โตตามเป้า
และสูญเสียโอกาสทางรายได้ถึง 35-55% VML เอเยนซีผู้นำด้านความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยีเปิดเผยผลวิจัยใหม่ล่าสุด
เกี่ยวกับความย้อนแย้งในใจผู้บริโภคไทยที่มีผลต่อการตลาด พร้อมนำเสนอ No Leak Solution™
โซลูชันครบวงจรสำหรับการปิดรอยรั่วและสร้างโอกาสใหม่ทางการตลาดในทุก Consumer Journey
กรุงเทพฯ (18 กันยายน 2568) – ในโลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งจากความผันผวน
ทางเศรษฐกิจ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ กระแสโซเชียลมีเดียที่เปลี่ยนแปลงค่านิยม และการดิสรัปชันของเทคโนโลยีใหม่อย่าง AI ได้ส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ในหมู่ผู้บริโภค นั่นคือ “Consumer Paradox Mindsets” หรือความคิดและพฤติกรรมที่ย้อนแย้งกัน
ในตัวผู้บริโภค
VML Thailand เอเยนซีผู้นำด้านการให้โซลูชันความคิดสร้างสรรค์ ข้อมูล และเทคโนโลยีอย่างครบถ้วน ได้ทำการศึกษาวิจัยเชิงลึกเกี่ยวกับปรากฏการณ์นี้ โดยนำผลการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคจากงานวิจัย “The Future 100” และ “Future Shopper” ของ VML
ที่จัดทำอย่างต่อเนื่องทั่วโลกมากว่าสิบปี ร่วมกับการสำรวจผู้บริโภคทั่วโลกจำนวนกว่า 45,000 คน พร้อมตรวจเช็คความสอดคล้องกับข้อมูลจากพาร์ทเนอร์บริษัทวิจัยชั้นนำอย่าง Kantar, Global Web Index และ Euromonitor มาร่วมวิเคราะห์ เพื่อถอดรหัสความเข้าใจพฤติกรรมที่ย้อนแย้งของผู้บริโภค ซึ่งทำให้เกิดความสับสนลังเลในการตัดสินใจทำอะไรต่างๆ จนนักการตลาดต้องเสียโอกาส
ในการขายไป พร้อมนำเสนอมุมมองแนวคิดเบื้องต้นที่เสมือนกุญแจในการปลดล็อกความย้อนแย้งในใจ เพื่อไขสู่โอกาส
ในการทำตลาดใหม่ๆ กับผู้บริโภคในทุกเจเนอเรชัน
ปรากฏการณ์ Consumer Paradox ที่กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าการตลาดไทย
ผลการวิจัยเผยให้เห็นถึง 4 มิติสำคัญที่เป็นตัวอย่างของความย้อนแย้งที่เกิดขึ้นในใจผู้บริโภคไทย ซึ่งสะท้อนให้เห็นความซับซ้อน
ของจิตใจมนุษย์ในยุคปัจจุบัน
- The Spending Paradox: Willing to Spend vs. Power to Spend คือความย้อนแย้งใน “ความอยากจ่าย” กับ “กำลัง
ในการจ่าย” แม้จะมีแรงกดดันทางเศรษฐกิจที่ทำให้กำลังซื้อลดลง แต่ผู้บริโภคชาวไทยโดยเฉพาะ Gen Z กลับมีความอยาก
ที่จะใช้จ่ายในหลายหมวดหมู่สินค้าและโซลูชันมากกว่าทุกเจเนอเรชัน โดยเฉพาะค่าอาหาร เครื่องดื่ม และค่าใช้จ่ายส่วนตัว
ทำให้กว่า 70% ต้องมองหาแบรนด์ทางเลือกที่ราคาถูกกว่า อย่างไรก็ตาม เกือบครึ่งของผู้บริโภคกลุ่มนี้ยังมีความอยากเก็บเงินและลงทุนเพื่ออนาคต ในขณะที่กลุ่ม Gen X ถึง Baby Boomer ที่มีฐานะดีกว่ากลับเน้นประหยัดกับค่าปัจจัยพื้นฐาน
แต่ยังแอบเปิดใจให้กับสินค้าโซลูชันด้านสุขภาพและการแสวงหาประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สนุกสนาน - The Relationship Paradox: Need to Disconnect vs. Drive to Reconnect คือความย้อนแย้งใน “การอยากเชื่อมต่อ”
กับ “อยากหยุดเชื่อมต่อ” ถึงแม้ว่าคนไทยกว่า 90% สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้และเชื่อมต่อกับโซเชียลมีเดียตลอดเวลา
แต่ผู้บริโภคชาวไทยเกือบ 80% กำลังพิจารณาเรื่อง “การควบคุมปริมาณข้อมูล” เช่น การเลิกติดตาม หรือบล็อกโซเชียลมีเดียบางแพลตฟอร์ม ขณะที่ 71% เริ่มรู้สึกเอียนเทคโนโลยีและต้องการอิสระ ทำให้คนไทยกว่าหนึ่งในสามหรือประมาณ 38%
หันมาสนใจกิจกรรมในโลกจริงเพื่อสุขภาพจิตที่ดี อย่างไรก็ตามพวกเขายังมองเทคโนโลยีในแง่ดีมากกว่าแง่ไม่ดี และเชื่อว่า
เป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับความสามารถในการเชื่อมต่อกับผู้คนและโอกาสในชีวิตที่ดีขึ้นได้ - The Belief Paradox: Demand for Real vs. Crave for Wow คือความย้อนแย้งใน “ความต้องการความซื่อสัตย์จริงใจ”
กับ “ความโหยหาความตื่นเต้นเซอร์ไพรส์เร้าใจ” จากผลการวิจัยล่าสุดของ VML กับผู้บริโภคไทยพบว่า ความเชื่อมั่นในบุคคล แบรนด์ และอินฟลูเอนเซอร์กำลังถูกท้าทายจากความไม่เชื่อใจของผู้บริโภค เนื่องจากข่าวด้านลบและข่าวปลอม
บนโซเชียลมีเดีย โดยคนไทยกว่า 80% กังวลเรื่องข่าวปลอม ขณะที่ความเชื่อมั่นใน AI กลับสูงเทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญ
ทำให้ผู้บริโภคเรียกร้องความจริงและความซื่อสัตย์เป็นคุณค่าสูงสุด โดยต้องการแบรนด์ที่จริงใจ 64% และน่าเชื่อถือ 70% อย่างไรก็ตาม การเป็นเพียงแบรนด์ที่จริงใจและน่าเชื่อถืออาจไม่เพียงพอ เพราะผู้บริโภคกว่า 73% ยังต้องการแบรนด์ที่บันเทิง ดึงดูดทุกโสตประสาทสัมผัส และสร้างความ “ว้าว” ด้วย ถึงจะเป็นแบรนด์ที่โดดเด่น และเป็น Top of Mind ในใจผู้บริโภค - The Health & Wellness Paradox: Fear of Aging vs. Joy of Aging คือความย้อนแย้งใน “ความกลัวแก่” กับ “ความสุขสนุกของชีวิตในวัยหลังเกษียณ” เนื่องจากสุขภาพกายและใจเป็นหนึ่งในสองคุณค่าสูงสุดทั้งในหมู่คนไทยและทั่วโลก
หมวดสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีจึงเป็นอันดับต้นๆ ที่คนไทยยินดีจ่ายเงินเพิ่ม และกว่า 70% กำลังดูแลสุขภาพกาย สุขภาพจิต และจิตวิญญาณอย่างจริงจัง สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ ผู้ที่กลัวความแก่ชรามากที่สุดกลับเป็นคนรุ่นใหม่ Gen Z
ซึ่งมองว่าการดูแลรูปลักษณ์เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องลงทุนมากกว่าคนรุ่นอื่น ในทางกลับกัน กลุ่ม Baby Boomer ซึ่งเป็นผู้สูงวัยที่สุดกลับเป็นกลุ่มที่กลัวความแก่น้อยที่สุด โดย 90% เชื่อว่า “อายุเป็นเพียงตัวเลข” และกว่า 50% คิดว่าชีวิตและการใช้ชีวิตเริ่มต้นใหม่ได้หลังอายุ 60 ปี
สถานการณ์ตลาดปัจจุบัน* ที่ทำให้แบรนด์ไม่โตตามเป้าหมาย
คุณแจมมี่ – ปรัตถจริยา ชลายนเดชะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร VML Thailand กล่าวว่า “สถานการณ์ตลาดปัจจุบันชี้ให้เห็นว่าแบรนด์ต่างๆ ไม่ได้ขาด Awareness แต่กลับประสบปัญหาใหญ่หลวงจากการขาด Effective Push-through สู่ Conversion
และ Retention โดยมีอัตราการ Drop-off จาก Consideration สู่ Purchase สูงถึง 50-75% ในทุกอุตสาหกรรม ส่งผลให้แบรนด์สูญเสียโอกาสทางรายได้ถึง 35-55% จากรอยรั่วเหล่านี้ ยิ่งไปกว่านั้น ค่าโฆษณาที่แพงขึ้น 2.5-3.5 เท่า กลับเพิ่ม Conversion ได้เพียง
5-10% เท่านั้น ข้อมูลเชิงลึกชี้ให้เห็นว่าค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลง 8-12% แต่ความคาดหวังจากคุณภาพของสินค้ากลับสูงขึ้น
15-20% ขณะที่ต้นทุนสื่อพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง 15-25% และ Cost per acquisition สูงขึ้นถึง 25-45% นอกจากนี้ 68% ของลูกค้า
พร้อมเปลี่ยนแบรนด์ใน 1 คลิกหากเจอ Customer Experience, User Experience หรือ Offer ที่ดีกว่า และ 72% ของคู่แข่งใช้ AI
ในการ Optimize Funnel เพิ่มขึ้น 35% จากปี 2567”
“ทุกการ Drop-off คือรายได้ที่สูญเสียไป เราจะหยุดการรั่วไหลนี้และเปลี่ยนให้เป็นการเติบโต และนอกจากนั้นเรามาทำความเข้าใจ
ความย้อนแย้งในใจผู้บริโภค เพื่อดึงมุมเหล่านี้มาสร้างความอยากลองอยากมีประสบการณ์กับแบรนด์ อยากเปิดใจลอง เพื่อนำไปสู่โอกาสใหม่ๆ ทางการตลาด” ปรัตถจริยา กล่าวต่อ “VML Thailand ตระหนักดีว่าในปี 2568-2569 ตลาดจะยิ่งท้าทายขึ้น ผู้บริโภคมีความอดทนน้อยลง และความภักดีต่อแบรนด์เปราะบางลงอย่างมาก แบรนด์ที่จะชนะคือแบรนด์ที่สามารถมอบประสบการณ์ที่ราบรื่น สร้างความผูกพันทางอารมณ์ และขับเคลื่อนผลลัพธ์ได้อย่างแท้จริง”
เปิดตัว NO LEAK SOLUTION™ โซลูชันปฏิวัติการตลาดยุคใหม่
ด้วยความท้าทายเหล่านี้ VML Thailand จึงเปิดตัวโซลูชันใหม่ล่าสุด No Leak Solution™ ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความท้าทาย
ของตลาดในปัจจุบัน โดยมุ่งเน้นการอุดรอยรั่วตลอดเส้นทางของผู้บริโภคเพื่อเปลี่ยนทุกการสูญเสียให้เป็นโอกาสในการเติบโต
ของรายได้ ไปจนถึงการเปิดโอกาสทางการตลาดในมุมใหม่ๆ เพิ่มความพึงพอใจให้ลูกค้าในมุมที่อาจไม่ได้นึกถึงก่อนหน้านี้ เพื่อนำไปสู่โอกาสของยอดขายใหม่ๆ
NO LEAK SOLUTION™ ของ VML Thailand คือคำตอบที่แตกต่าง โดยก้าวข้ามการสร้างแคมเปญไปสู่การออกแบบประสบการณ์แบรนด์ที่ขับเคลื่อนด้วยมนุษย์ที่จะยกระดับประสบการณ์ลูกค้า เพิ่มคุณค่าตลอดเส้นทางของผู้บริโภค
และปรับปรุงการค้าให้เหมาะสมเพื่อความได้เปรียบในอนาคต โซลูชันนี้ถูกออกแบบมาบนฐานความเข้าใจ Consumer Paradox Mindsets โดยการรับรู้และยอมรับความย้อนแย้งที่ซับซ้อนในใจผู้บริโภคยุคใหม่ แล้วนำความเข้าใจนั้น
มาแปลงเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่สร้างประสบการณ์แบรนด์ที่ตอบสนองทั้งสองด้านของความต้องการที่ขัดแย้งกัน เช่น
การสร้างประสบการณ์ Phygital ที่ผสานโลกดิจิทัลและโลกจริง การพัฒนา Real Showmanship ที่ผสานความจริงใจ
กับความตื่นตาตื่นใจ การสร้างความเชื่อและคุณค่าร่วมกันที่ตอบโจทย์ทั้งความอยากจ่ายและขีดจำกัดในการจ่าย
และการเปลี่ยนมุมมองเรื่องวัยให้เป็น Empowering Journey ในทุกช่วงชีวิต ผ่าน 5 โซลูชันหลักที่จะช่วยปลดล็อกศักยภาพรายได้สูงสุดและขับเคลื่อนเส้นทาง End-to-End แบบไร้รอยรั่ว เพื่อ Conversion และ Retention สูงสุด
5 โซลูชันหลักของ NO LEAK SOLUTION™
- NO LEAK ECOSYSTEM™ ระบบนิเวศที่สมบูรณ์แบบเพื่อป้องกันการรั่วไหลในทุก Consumer Journey
ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดสำหรับแบรนด์คือ การที่ลูกค้าหลุดและรายได้หายโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็น Awareness ดี แต่ยอดขายไม่พุ่ง ลูกค้าเดินเข้าร้านแล้วกลับไปซื้อบนเว็บไซต์อื่น หรือลูกค้าเพิ่มของลงตะกร้าแต่ไม่ซื้อ นี่คือ “รูรั่ว” ที่เกิดจากจุดบอดใน Customer Journey และ Communication ที่นำไปสู่การหลุดออกจากแบรนด์
No Leak Ecosystem คือโซลูชันที่มาแก้ปัญหานี้โดยตรงด้วย “Leak Discovery Framework” เปรียบเสมือน “เครื่องตรวจโรค” สำหรับแบรนด์ ผ่านการใช้ข้อมูลมหาศาลมาช่วยส่องดูพฤติกรรมลูกค้าและแพลตฟอร์มของแบรนด์แบบทะลุปรุโปร่ง
โดยการร่วมมือระหว่าง Brand Strategist และ CX Strategist เพื่อระบุจุดที่ลูกค้ากำลังจะหลุดมือไปหรือไม่พึงพอใจ
จุดเด่นของโซลูชันนี้ ประกอบด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกด้วยเทคนิคขั้นสูงเพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมลูกค้า การระบุจุดรั่วไหลที่แม่นยำในการค้นหา “จุดวิกฤต” ที่นำไปสู่การลดลงของลูกค้า แนวทางแก้ไขที่วัดผลได้โดยนำเสนอโซลูชันที่ปฏิบัติจริงเพื่อแก้ไขปัญหาและเพิ่มประสิทธิภาพ และการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนที่ช่วยรักษาฐานลูกค้า เพิ่มรายได้ และสร้างการเติบโตที่มั่นคง
ในระยะยาว
- ACQUISITION AND RETENTION TECH TOOL เครื่องมือเทคโนโลยีที่ช่วยในการดึงดูดและรักษาลูกค้า
Acquisition & Retention Tools คือโซลูชันดิจิทัลแบบกะทัดรัดที่สร้างแคมเปญจูงใจอย่างง่ายดาย เพื่อดึงดูด แปลงเป็นยอดขาย และรักษาลูกค้า พร้อมลดต้นทุนเทคโนโลยีและการบริหารจัดการแคมเปญ สามารถเชื่อมต่อ Customer Journey ทั้ง Online
และ Offline ทั้งยังเริ่มใช้งานได้ในระยะเวลาสั้น
เครื่องมือนี้สามารถอุด “รอยรั่ว” ตลอด Funnel และรองรับแคมเปญหลายรูปแบบ เช่น คูปองดิจิทัล การแนะนำเพื่อน Gamification และ Loyalty Tier พร้อมจัดเก็บข้อมูลลูกค้าเพื่อปรับปรุงแคมเปญได้อย่างต่อเนื่อง
ประโยชน์ที่แบรนด์จะได้รับ รวมถึงการลด Leak และเพิ่มยอดขาย ROI ที่คาดการณ์ได้ภายใต้กรอบต้นทุนที่คุ้มค่าและทำซ้ำได้ แคมเปญออกสู่ตลาดได้เร็วและลดความซับซ้อนการปฏิบัติงาน การสร้างความผูกพันและการบอกต่อที่นำไปสู่การซื้อซ้ำ และรองรับการขยายแคมเปญหลายตลาดและหลายช่องทาง ทำให้แบรนด์สามารถสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
ตลอดเส้นทางการซื้อ
- PRODUCTION @SCALE การผลิตเนื้อหาและแคมเปญที่มีประสิทธิภาพในวงกว้าง
Production @Scale คือโซลูชันที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตชิ้นงานโฆษณาในจำนวนหลักพันในเวลาไม่นาน
โดยใช้ระบบการผลิตที่ผสานเทคโนโลยี AI ที่หลากหลาย รวมถึง WPP Open AI และระบบอัตโนมัติขั้นสูงกับความคิดสร้างสรรค์
ระดับมืออาชีพ ช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างเนื้อหาที่หลากหลายและตรงใจผู้บริโภคได้ในจำนวนมากและรวดเร็วอย่างที่ไม่เคยเป็นไปได้มาก่อน โซลูชันนี้ครอบคลุมตั้งแต่การวางแผนกลยุทธ์เนื้อหาแบบ Data Driven การผลิตวิดีโอ กราฟิก และเนื้อหาดิจิทัล
ในรูปแบบต่างๆ ไปจนถึงการปรับแต่งเนื้อหาให้เหมาะสมกับแต่ละแพลตฟอร์ม เซกเมนต์ลูกค้า และช่วงเวลาต่างๆ ด้วยระบบ
การทำงานที่มีประสิทธิภาพสูง และ Scalable Architecture
ผลประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับคือ การลดเวลาในการ Go-to-market ได้มากถึง 60-70% การลดต้นทุนการผลิตเนื้อหาโดยรวม
40-50% ความสามารถในการทดสอบและปรับปรุงเนื้อหาแบบ Real-time ผ่านระบบ A/B Testing อัตโนมัติ และการเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอในทุกจุดสัมผัส ส่งผลให้เกิดการสร้างความเชื่อมโยงที่แข็งแกร่งระหว่างแบรนด์กับลูกค้า และเพิ่มโอกาสในการ Convert ได้ดียิ่งขึ้น
4. INFLUENVER™ กลยุทธ์การตลาดอินฟลูเอนเซอร์ด้วย Paradox Mindset x เทคโนโลยี เปลี่ยน KOL Campaign
ให้เป็น CREATIVE KOL Campaign ที่มีอิมแพ็ค
INFLUENVER™ คือการปฏิวัติ Influencer Marketing โดยใช้ Paradox Mindset มาเป็นหัวใจสำคัญในกระบวนการคิด
การเลือก และการทำงานร่วมกับ KOL การเลือก KOL ส่วนใหญ่จะมองเพียงแค่จำนวนผู้ติดตาม อัตราการมีส่วนร่วม
และความเข้ากันได้กับสินค้า แต่ที่แท้จริงแล้วมี Magic ที่ทรงพลังกว่าซ่อนอยู่ในความย้อนแย้งของตัวบุคคล Paradox Mindset
จึงสร้างข้อได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ในการทำ KOL Campaign ให้กับแบรนด์ผ่าน Authentic Storytelling ที่ทำให้เรื่องเล่า
มีความเป็นจริงและธรรมชาติ การเข้าถึง Untapped Audiences หรือกลุ่มเป้าหมายที่ซ่อนอยู่ Viral Potential ที่สร้างกระแส
การพูดถึงและการแชร์อย่างเป็นธรรมชาติ และ Cultural Relevance เพราะความย้อนแย้งตรงใจผู้บริโภคยุคใหม่มากกว่า
ความสมบูรณ์แบบ
INFLUENVER™ แก้ไขความท้าทายของแบรนด์ในการทำ KOL Marketing ด้วยกลยุทธ์และไอเดียงาน KOL ที่สร้างสรรค์
โดยทีม Strategy และ Creative Think Tank ของ VML Thailand ที่ได้รับรางวัล Creative Agency of the Year ติดต่อกัน 5 ปีซ้อนทำงานแคมเปญไอเดีย “คมชัด” พร้อมกลยุทธ์การทำ KOL Selection ผ่าน PARADOX MATCHING กับ Product และ Campaign ทำให้ KOL ที่เลือกมีความ “สดใหม่” และสร้างผลลัพธ์ที่ดี การทำงานที่ราบรื่นด้วยระบบ Project Management Platform
ที่เชื่อมต่อทุกฝ่าย ให้ทุกกระบวนการทำงาน “ง่าย” และการวัด Campaign Performance ด้วย VML RADAR™
ระบบ AI-powered Analytics ให้ทุกแคมเปญ “วัดผลได้” ตรงจุด เปลี่ยน KOL Campaign ให้เป็น CREATIVE KOL Campaign
ที่มีอิมแพ็ค
- GROWTH SPARK จุดประกายไอเดียใหม่ๆ สุดปังในการขาย และขยายโอกาสการเติบโตให้แบรนด์
Growth Spark คือโซลูชันที่ออกแบบมาเพื่อใช้ค้นหาโอกาสใหม่ๆ ทางการตลาดให้ธุรกิจและแบรนด์ แล้วนำมาพัฒนาเป็น
แผนกลยุทธ์ทางการสื่อสารทางการตลาดและการสร้างแบรนด์ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวได้ ผ่านอินไซต์เรื่องความย้อนแย้ง
ในใจของผู้บริโภคและแนวคิดเชิงกลยุทธ์ของ Brand Paradox Thinking รวมทั้งยังสามารถนำมารังสรรค์เป็นแคมเปญการตลาด
เพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วมหรือตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคด้วยไอเดียครีเอทีฟสุดปังที่พร้อมสร้างสรรค์ได้ทันทีแบบควิกวิน (Quick-win Solution)
Growth Spark มีจุดเด่นที่แตกต่างด้วยการนำเทรนด์และข้อมูลวิจัยเกี่ยวกับแบรนด์และผู้บริโภคทั่วโลกจาก Future 100 Trends, Future Shoppers, และ Brand Asset Valuator (BAV) มาผสานกับเครื่องมือ AI ทางการตลาดสุดล้ำอย่าง WPP Open AI ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ของบริษัทในเครือ มาใช้ในการค้นหาอินไซต์ใหม่ๆ ของกลุ่มผู้บริโภคที่เราสนใจและนำมาช่วยพัฒนาไอเดีย
แนวคิดเชิงกลยุทธ์แบบ Brand Paradox Thinking โดยทีม Strategists ชั้นนำที่มีประสบการณ์มากมายจากหลากหลาย
อุตสาหกรรม ผสานการทำงานร่วมกันกับทีม Award-winning Creative ที่เข้าประชันแข่งขันกันเพื่อหาไอเดียสุดปังในการรังสรรค์
เป็นแคมเปญกระตุ้นยอดขายแบบควิกวิน โดยแบ่งโซลูชันออกเป็น 3 แพ็กเกจ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกัน
ของลูกค้าได้แก่ 1) Brand Spark Workshop เพื่อพัฒนาแผนกลยุทธ์การขาย และขยายโอกาสในการเติบโตให้แบรนด์ไปยัง
ตลาดและกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ ผ่านการเบรนสตอร์ม ทำเวิร์คช็อปร่วมกันกับลูกค้า ผสานการใช้เครื่องมือ
WPP Open AI ในการร่วมสร้างสรรค์ไอเดียแบบ Real-time 2) Creative Spark with Quick-win Solution โดยทีมครีเอทีฟมือรางวัลที่ใช้เวลาคิดสร้างสรรค์ไอเดียสุดปังทางการตลาดมากมายภายในเวลาอันสั้น และ 3) Growth Spark Solution
(Brand Spark Workshop + Creative Spark Solution) ซึ่งรวมจุดเด่นของทั้งสองแพ็กเกจในราคาและเวลาที่คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น
อนาคตของการตลาดไทยในยุค Paradox
จากผลวิจัยที่นำเสนอ เราได้เห็นถึง 4 มิติแห่งความย้อนแย้งของผู้บริโภคยุคใหม่อย่างชัดเจน ความย้อนแย้งเหล่านี้ไม่ใช่เพียงอุปสรรค แต่หากนำมาพลิกมุมมองแบบ Brand Paradox Thinking ซึ่งจะช่วยชี้ให้เห็นถึงปัญหาที่จะสูญเสียลูกค้าทั้งในปัจจุบันและอนาคต รวมทั้งโอกาสใหม่ๆ อันไร้ขีดจำกัดสำหรับแบรนด์ที่จะสร้างความเชื่อมโยงได้อย่างลึกซึ้งและยั่งยืน VML มุ่งมั่นที่จะเป็นพันธมิตร
ทางธุรกิจที่ช่วยให้แบรนด์ก้าวข้ามความท้าทายในยุคดิจิทัล และเปลี่ยนทุกการรั่วไหลให้เป็นโอกาสในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ติดต่อ VML วันนี้ เพื่อค้นพบว่า NO LEAK SOLUTION™ จะช่วยธุรกิจของคุณได้อย่างไร
*Source :
- Online Shopping Conversion Rate by Country 2025
- VWO
- Thailand Media Landscape Evolution 2025 in Focus
- Financial Post (2025)
- The Cost of Digital Marketing in Thailand (2025)
- Digital Marketing Trends in Thailand and Future Outlook 2025
- DHL E-Commerce Trends Report 2025
- Financial Post (2025)
- The Cost of Digital Marketing in Thailand (2025)
- Digital Marketing Trends in Thailand and Future Outlook 2025
- DHL E-Commerce Trends Report 2025