• ไมเคิล โอเว่น เป็นลูกค้ารายแรกของ Leapmotor ในสหราชอาณาจักร หลังจากรับมอบรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด Leapmotor C10
• C10 จำหน่ายในราคาเพียง 36,500 ปอนด์ มาพร้อมออปชันครบครัน และเทคโนโลยีช่วยขับขี่ขั้นสูงเป็นมาตรฐาน
• รถยนต์ครอบครัว C10 และรถขนาดเล็ก T03 เตรียมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในสหราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป
ไมเคิล โอเว่น อดีตกองหน้าทีมชาติอังกฤษ กลายเป็นลูกค้ารายแรกของ Leapmotor ในสหราชอาณาจักร หลังจากรับมอบรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่น C10 ซึ่งเป็นรถรุ่นใหม่ที่กำลังเข้าสู่ตลาดสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มีนาคมนี้ ด้วยราคาจำหน่ายเพียง 36,500 ปอนด์
Leapmotor C10 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย ระบบความปลอดภัยระดับสูง และราคาที่คุ้มค่า และเป็นรถเอสยูวีขนาดกลาง (D-segment) ที่มีมาตรฐานความปลอดภัยระดับแนวหน้า ระยะทางขับขี่สูงสุด 263 ไมล์ (มาตรฐาน WLTP) และมอบความสะดวกสบายระดับพรีเมียม เหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์ของอดีตศูนย์หน้าลิเวอร์พูลอย่าง ไมเคิล โอเว่น และครอบครัวของเขา
โอเว่น วัย 45 ปี ปัจจุบันเป็นเจ้าของและผู้เพาะพันธุ์ม้าแข่ง กล่าวว่า “ผมรู้สึกยินดีที่ได้เป็นลูกค้ารายแรกของ Leapmotor ในสหราชอาณาจักร C10 เป็นรถที่ดูสวยงามมาก และเป็นรถที่เหมาะสำหรับผมและครอบครัว ด้วยเทคโนโลยีล้ำยุค พื้นที่ภายในที่กว้างขวาง และมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูง”
ดาเมียน ดัลลี กรรมการผู้จัดการ Leapmotor UK กล่าวว่า “ไมเคิล โอเว่น เป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ดีที่สุดที่สหราชอาณาจักรเคยมีมา ดังนั้นนี่จึงเป็นการเซ็นสัญญาครั้งสำคัญสำหรับแบรนด์ของเรา
“ที่ Leapmotor เราเชื่อว่าเรามีสิ่งที่น่าตื่นเต้นสำหรับตลาดรถยนต์ในสหราชอาณาจักร C10 และ T03 มอบคุณค่าที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง คุณภาพยอดเยี่ยม และความมั่นใจในการขับขี่จากเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายที่ได้รับการรับรอง พร้อมการรับประกัน 4 ปี”
C10 และ T03 ซึ่งเป็นรถขนาดเล็กระดับ B-segment ที่มาพร้อมอุปกรณ์ระดับพรีเมียมในราคาต่ำกว่า 16,000 ปอนด์ เป็นผลลัพธ์จากความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่าง Stellantis และ Leapmotor ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีจากจีน
Stellantis เจ้าของแบรนด์รถยนต์ชั้นนำอย่าง Vauxhall, Peugeot, Citroën, Jeep, Alfa Romeo และ Fiat มีประสบการณ์ยาวนานเกือบ 120 ปีในอุตสาหกรรมยานยนต์ของสหราชอาณาจักร พร้อมความเชี่ยวชาญจาก 14 แบรนด์ระดับนานาชาติ และเครือข่ายธุรกิจทั่วโลก ครอบคลุมพนักงานกว่า 170 ประเทศ มีการดำเนินงานในกว่า 130 ตลาด โรงงานผลิตในกว่า 30 ประเทศ และเครือข่ายการขายและบริการหลังการขายที่ให้ความมั่นใจสูงสุดในด้านคุณภาพและความน่าเชื่อถือ