กรุงเทพฯ 6 กรกฎาคม 2566 – สโฟวล์ท เอเนอจี้ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) บริษัทผู้นำด้านการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าและระบบการจัดเก็บพลังงานระดับโลก หรือ SVOLT จัดพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ (Module PACK Factory) แห่งแรกในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี สะท้อนความมุ่นมั่งในการบุกตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างแข็งแกร่ง และการยึดมั่นในคำมั่นสัญญาของบริษัทฯ ที่ต้องการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน
พิธีวางศิลาฤกษ์ในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากแขกผู้มีเกียรติ ทั้งจากภาครัฐ ผู้นำภาคอุตสาหกรรม และผู้แทนจากหน่วยงานสำคัญ อาทิ นายวิษณุ ทับเที่ยง หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน นายณัฐกร อุเทนสุต ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต นายสิทธิพัฒน์ เหรียญรุ่งเรือง ผู้อำนวยการส่วนบริการศุลกากร 3 สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ดร. เกรียงศักดิ์ วงศ์พร้อมรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ ตลอดจนคณะผู้บริหารจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ อาทิ นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองประธานฝ่ายการตลาดประจำภูมิภาคอาเซียน นายครรชิต ไชยสุโพธิ์ รองประธานฝ่ายกิจการองค์กรและรัฐกิจสัมพันธ์ และ มร.ไมเคิล ฉง ผู้จัดการทั่วไป รวมถึงตัวแทนจากหอการค้าจีน, ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารแห่งประเทศจีน (Bank of China) และ โฮซอน ออโต้ (Hozon Auto) เข้าร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์ โดยการก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่แห่งนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2566
โดยระหว่างพิธีนั้น มร. หยาง หงซิน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สโฟวล์ท ได้เน้นย้ำถึงบทบาทและความสำคัญของไทยในฐานะประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทการผลิตและการส่งออกรถยนต์ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมศักยภาพสำหรับแบรนด์จีนในการส่งมอบรถยนต์พลังงานใหม่สู่ตลาดสากล
มร. หยาง เผยว่า “สโฟวล์ทยึดมั่นในปรัชญา Going out & Bringing in หรือการ “ก้าวออกไป” และ “นำกลับมา” ที่มุ่งเน้นการจับมือกับประเทศในภูมิภาคต่าง ๆ เพื่อกระชับความสัมพันธ์และต่อยอดความสำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร่วมมือกับประเทศไทย ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของตลาดอาเซียน เปิดโอกาสให้ สโฟวล์ท ได้ใช้เทคโนโลยีอันล้ำสมัยในการพัฒนาแบตเตอรี่ภายในประเทศ และใช้ประโยชน์จากนโยบายการสนับสนุนจากภาครัฐได้อย่างเต็มที่ โดยบริษัทฯ ได้ตั้งหมุดหมายสำคัญในการสร้างห่วงโซ่อุปทานแบตเตอรี่ระดับท้องถิ่น เพื่อขยายบทบาทการเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาดพลังงานใหม่ และผลักดันสู่การเป็นผู้นำในกลุ่มผู้ผลิตพลังงานใหม่ระดับโลก ผ่านการนำเสนอเทคโนโลยีแบตเตอรี่ลิเธียมที่ล้ำสมัยจากประเทศจีน”
สโฟวล์ทในประเทศไทย ดำเนินงานผ่านบริษัทในเครือภายใต้ บริษัท สโฟวล์ท เอเนอจี้ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ที่ดูแลการดำเนินงานของโรงงาน โดยเน้นความต้องการในตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดยานยนต์และเจาะกลุ่มลูกค้าภายในประเทศให้ได้อย่างรวดเร็ว และเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว โรงงานผลิตแบตเตอรี่ SVOLT Energy Module Pack จึงถูกก่อตั้งขึ้นด้วยการพัฒนาพื้นที่ของโรงงานเดิม ซึ่งคาดการณ์กำลังการผลิตไว้ที่ 60,000 ชุดต่อปี เพื่อสอดรับกับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น
โรงงานของ สโฟวล์ท ประเทศไทย ได้วางแผนแบ่งสายการผลิตไว้สองสาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าภายในประเทศ โดยสายงานแรกเน้นไปที่การผลิตโมดูลสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (HEV) ในขณะที่สายที่สองมุ่งเน้นไปที่การผลิตโมดูลและชุดอุปกรณ์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) โดยทั้งสองสายการผลิตประกอบด้วยเซลล์แบตเตอรี่ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาโดยเฉพาะ ทั้งเซลล์แบบ Soft Pouch และเซลล์แบบ Prismatic โดยใช้กระบวนการเชื่อมอัตโนมัติและเครื่องมือตรวจสอบขั้นสูง เพื่อการันตีประสิทธิภาพและมาตรฐานการผลิตที่มีคุณภาพสูง
การก่อตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทยนี้ สโฟวล์ท ตั้งเป้าใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบภายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการต่อยอดและขยายการร่วมลงทุนในธุรกิจการจัดเก็บพลังงานและการรีไซเคิลแบตเตอรี่ โดย สโฟวล์ท มุ่งมั่นจัดส่งแบตเตอรี่เซลล์อย่างเป็นระบบและตอบโจทย์ความต้องการภายในประเทศ
นายวิษณุ ทับเที่ยง หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า “การลงทุนและการจัดตั้งโรงงานของ สโฟวล์ท ในประเทศไทย กระตุ้นการจ้างงานและขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ของประเทศไทยอย่างมีประสิทธิภาพ การที่ประเทศไทยเป็นตลาดยานยนต์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของภูมิภาคอาเซียนจึงเป็นข้อได้เปรียบสำหรับภาคส่วนยานยนต์พลังงานใหม่ที่กำลังเข้าสู่ช่วงสำคัญของการพัฒนา รัฐบาลจึงมุ่งมั่นสร้างสภาพแวดล้อมที่ช่วยส่งเสริมศักยภาพการเติบโตของบริษัทด้านพลังงานใหม่ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายและประโยชน์ร่วมกัน และขับเคลื่อนความก้าวหน้าในอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ให้ก้าวไปอีกขั้น”
ทั้งนี้ สโฟวล์ท ได้จับมือร่วมกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งมากมาย อาทิ เกรท วอลล์ มอเตอร์ และ โฮซอน ออโต้ เพื่อร่วมกันพัฒนาและผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า โดยมีวัตถุประสงค์เพิ่มประสิทธิภาพและปลดล็อกสมรรถนะและระยะทางในการขับขี่ของรถยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเดินหน้าขยายฐานลูกค้าผ่านการเจรจาธุรกิจกับบริษัทพันธมิตรในประเทศไทย เพื่อสร้างรากฐานสำหรับความร่วมมืออื่น ๆ และขยายตลาดสู่กลุ่มเป้าหมายใหม่ในอนาคต
ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ แบรนด์รถยนต์พลังงานใหม่จากประเทศจีนหลายรายขยายธุรกิจเชิงรุกสู่ตลาดต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำอย่าง เกรท วอลล์ มอเตอร์ และแบรนด์สัญชาติจีนอื่น ๆ ที่เร่งเดินหน้าเข้าสู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่งผลให้ห่วงโซ่ของอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดย สโฟวล์ท ได้นำกลยุทธ์การพัฒนาระดับโลกมาปรับใช้ตั้งแต่เริ่มต้น พร้อมต่อยอดไปสู่การจัดตั้งโรงงานและศูนย์วิจัยในหลากหลายพื้นที่ทั่วโลก รวมถึงในประเทศเยอรมนี