10 ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมยานยนต์ ในทศวรรษที่ผ่านมา

0
660

อุตสาหกรรมยานยนต์มีความก้าวล้ำอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา เราได้เห็นรถยนต์ไฟฟ้าหลากหลายรุ่นวิ่งอยู่บนท้องถนน ได้เห็นรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ (หรือ รถยนต์ไร้คนขับ) วิ่งทดสอบอยู่ในเมือง บนถนนที่มีการจราจรหนาแน่น และยังเห็นรถยนต์และกระบะที่มีน้ำหนักเบาลง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมรวมทั้งสามารถเชื่อมต่อกับทุกการสื่อสารในทุกเส้นทางได้มากขึ้น นี่คือ 10 เทคโนโลยีสุดล้ำในอุตสาหกรรมยานยนต์ ระหว่างปี 2010 – 2019 ที่ผ่านมา

• บอกลาปั๊มน้ำมันไปได้เลย วันนี้คุณสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ที่ไม่ต้องเติมน้ำมันเลยตลอดชีวิต รถยนต์ไฟฟ้าเชฟโรเลต โบลต์ สามารถวิ่งได้ไกลถึง 259 ไมล์ (ประมาณ 417 กิโลเมตร) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และในปัจจุบันตามเมืองใหญ่ๆ อย่างในกรุงเทพฯ ก็มีสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นทุกวัน หรือเพื่อความสะดวกจะติดตั้งที่ชาร์จไฟไว้ที่บ้านก็ได้ อย่าคิดว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะมีแค่รถขนาดเล็ก รถอเนกประสงค์รุ่นยอดนิยมจากหลายค่ายก็เริ่มพัฒนาให้รองรับระบบไฟฟ้าได้แล้ว รวมถึงรถกระบะที่วิ่งด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่ก็ได้รับการพัฒนาขึ้นเช่นกัน

• ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างง่ายดาย เราสามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการใช้รถยนต์ได้มากกว่าการประหยัดน้ำมันและการลดปริมาณการเผาผลาญน้ำมัน ผู้ผลิตรถยนต์หลายราย รวมถึงจีเอ็ม ใช้ชิ้นส่วนรถยนต์ที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลเพื่อลดปริมาณขยะและลดน้ำหนักของตัวรถ เช่นการนำขวดน้ำพลาสติกรีไซเคิลมาผลิตเป็นฉนวนของเครื่องยนต์สำหรับรถยนต์ รุ่นอิควีนอกซ์ รวมถึงการที่จีเอ็ม ประเทศไทยได้พัฒนาให้เครื่องยนต์ของรถอเนกประสงค์เทรลเบลเซอร์และรถกระบะโคโลราโดรองรับการใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 ได้

• ไม่พลาดทุกการติดต่อสื่อสารในทุกการเดินทาง สมาร์ทโฟนช่วยให้ผู้คนในปัจจุบันที่ต้องเร่งรีบดินทาง และใช้ชีวิตอยู่นอกบ้านได้รับความสะดวกมากขึ้น ไม่แปลกใจเลยที่ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายได้พัฒนาให้รถยนต์สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างชาญฉลาดขึ้น อย่างเช่น รถอเนกประสงค์เชฟโรเลต แคปติวา ใหม่ ที่มาพร้อมระบบการเชื่อมต่อการสื่อสารและความบันเทิง Chevrolet Link ซึ่งสามารถใช้งานพร้อมกันทั้งบนหน้าจอรถยนต์และหน้าจอโทรศัพท์ระบบแอนดรอยด์ ทำให้สามารถรับสายโดยไม่ต้องละมือออกจากพวงมาลัยรถ พร้อมเข้าถึงแอปพลิเคชันหลากหลายได้ผ่านหน้าจอในรถยนต์ (สามารถรองรับ Apple CarPlay™ ได้ในช่วงต้นปี 2563) เชฟโรเลต โคโลราโด และเทรลเบลเซอร์ ก็มีระบบการเชื่อมต่อการสื่อสารและความบันเทิง Chevrolet MyLink ที่มีรูปแบบการใช้งานคล้ายกัน และสามารถรองรับ Apple CarPlay™ ได้

• มองเห็นรถทั้งคันจากมุมสูง ขอบคุณความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยในปัจจุบันที่ช่วยให้เราสามารถพัฒนารถยนต์ที่เปี่ยมด้วยระบบความปลอดภัยล้ำสมัยขึ้น รถยนต์ที่จีเอ็มผลิตนั้นมาพร้อมระบบช่วยจอดรถ ระบบไฟหน้าอัตโนมัติ และระบบป้องกันการชน ทั้งนี้เพื่อปกป้องผู้ขับขี่และผู้ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงให้มีความปลอดภัย เช่นเดียวกับเทคโนโลยีอันก้าวล้ำในรถอเนกประสงค์แคปติวา ใหม่ ที่มีกล้อง 360 องศาให้มองเห็นทุกมุมรอบตัวรถ พร้อมกล้องมุมสูงให้มุมมองในแบบ bird’s eye view ผ่านหน้าจอแสดงผลแบบสัมผัสขนาด 10.4 นิ้ว

• นั่งรถไปกับคนแปลกหน้า ซึ่งหากเป็นเมื่อก่อนพ่อแม่คงไม่ยอมให้เราทำแบบนั้นแน่ๆ แต่ปัจจุบันเรามีทางเลือกมากขึ้น อย่างการให้บริการร่วมเดินทาง หรือ ridesharing ไม่ต้องรอเรียกรถแท็กซี่ ผู้ให้บริการรถโดยสารผ่านแอปพลิเคชันอย่าง Lyft หรือ Grab ที่ได้รับความนิยมในบ้านเราสามารถไปรับลูกค้าถึงทีเพื่อเดินทางไปยังจุดหมายที่เขาต้องการ ในอเมริกาถึงกับมีธุรกิจรูปแบบใหม่ เพื่อรองรับการเติบโตของบริการนี้ เช่น Maven Gig ที่ให้เช่ารถยนต์เพื่อให้บริการผู้ขับของ Lyft, Seamless, Postmates
• ลดน้ำหนักของรถลง ความก้าวหน้าของซอฟต์แวร์ด้านการออกแบบพร้อมด้วยวัสดุที่ล้ำสมัยขึ้น ทำให้บริษัทรถยนต์สามารถนำเทคนิคการลดน้ำหนักมาใช้ในการผลิตรถยนต์ให้มีน้ำหนักเบาลงและประหยัดน้ำมันมากขึ้น โดยการใช้เทคโนโลยีการออกแบบควบคู่ไปกับความก้าวหน้าด้านการผลิต เช่น การพิมพ์แบบสามมิติที่พลิกโฉมการออกแบบและพัฒนารถยนต์ครั้งสำคัญ ก่อให้เกิดผลลัพธ์ ที่ดียิ่งขึ้นทั้งกับลูกค้าที่ได้ครอบครองรถยนต์ที่ดีขึ้นทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

• อัพเดทซอฟต์แวร์สำหรับรถยนต์โดยไม่ต้องไปที่ศูนย์บริการ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในปัจจุบันช่วยให้ลูกค้าสามารถดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ต่างๆไปยังรถยนต์ผ่านเครือข่ายออนไลน์ วิศวกรรมอิเล็คทริคสมัยใหม่ช่วยให้จีเอ็มสามารถอัพเดทซอฟต์แวร์ของรถยนต์หลายรุ่นตลอดอายุการใช้งานของรถ เมื่อมีการอัพเดทใหม่ๆลูกค้าจะได้รับการแจ้งเตือนผ่านระบบอินโฟเทนเมนต์และสามารถเลือกได้ว่าจะติดตั้งซอฟต์แวร์ล่าสุดหรือปฏิเสธการอัพเดต

• ขับขี่โดยไม่ต้องจับพวงมาลัย ในขณะที่เราถูกย้ำเตือนอยู่เสมอว่าห้ามละสายตาจากถนนและจับพวงมาลัยรถตลอดเวลา แต่ต่อไปนี้เทคโนโลยีจะช่วยเราขับรถ ระบบช่วยขับขี่ Super Cruise ซึ่งเป็นเทคโนโลยีของจีเอ็ม ช่วยให้ผู้ขับสามารถปล่อยมือจากพวงมาลัยรถเมื่อรถวิ่งอยู่บนไฮเวย์ที่กำหนด โดยจีเอ็มได้พัฒนาเซ็นเซอร์และระบบแจ้งเตือนต่างๆ มาช่วยให้คุณขับรถอย่างปลอดภัย โดยมีเส้นทางกว่า 200,000 ไมล์ (ประมาณ 321,869 กิโลเมตร) ครอบคลุมเกือบทั่วสหรัฐอเมริกาที่รองรับระบบนี้

• ลืมพวงมาลัยและคันเร่งไปได้เลย การพัฒนาอย่างต่อเนื่องของรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติกำลังเปลี่ยนโฉมรูปแบบและขีดความสามารถของรถยนต์ที่เราเห็นในปัจจุบันไปอย่างสิ้นเชิง และเร่งไปสู่การขับเคลื่อนแห่งอนาคต

หลายสิ่งเปลี่ยนแปลงไปในรอบ 10 ปีที่ผ่านมานี้ แต่ที่จีเอ็ม เราไม่เคยหยุดพัฒนาและตื่นเต้น ที่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของอึตสาหกรรมยานยนต์ในปีหน้า ในทศวรรษหน้า และในอนาคตต่อไป เรามุ่งมั่นที่จะสานต่อวิสัยทัศน์แห่งอนาคตของเราในการพัฒนาโลกในอนาคตให้อุบัติเหตุเป็นศูนย์ ไร้มลพิษ และปราศจากความแออัด (Zero Crashes, Zero Emissions และ Zero Congestion)

10 ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมยานยนต์
10 ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมยานยนต์
10 ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมยานยนต์
10 ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมยานยนต์
10 ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมยานยนต์
10 ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมยานยนต์
10 ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมยานยนต์
2018 Chevrolet Bolt EV
10 ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมยานยนต์
The Cruise AV is designed to operate safely on its own, with no driver, steering wheel, pedals or other manual controls when it goes on the road in 2019.

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่