มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย วางศิลาฤกษ์ ก่อสร้างโรงพ่นสีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแห่งใหม่

0
608

• โรงพ่นสีแห่งใหม่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการลงทุนมูลค่า 7 พันล้านบาทเพื่อยกระดับความสามารถด้านการผลิตรถยนต์ในประเทศไทย

• เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนธันวาคมปี 2564 จะช่วยเพิ่มคุณภาพ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขัน

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย วางศิลาฤกษ์ ก่อสร้างโรงพ่นสี
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย วางศิลาฤกษ์
ก่อสร้างโรงพ่นสี

บรรยายภาพ: นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)
(ที่ 4 จากขวา) ร่วมเป็นประธานกับ มร. โมะริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด (ที่ 5 จากขวา) ในพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างโรงพ่นสีแห่งใหม่ของ
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย โดยมี นายจักรรัฐ เลิศโอภาส รองผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ที่ 4 จากขวา) และแขกผู้มีเกียรติร่วมในพิธีดังกล่าว

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างโรงพ่นสีแห่งใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี โรงพ่นสีแห่งใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการลงทุนมูลค่า 7 พันล้านบาทเพื่อปรับปรุงเทคโนโลยีและยกระดับขีดความสามารถของศูนย์การผลิตรถยนต์ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่ดำเนินงานมาอย่างยาวนานในประเทศไทย มุ่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านการผลิตและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

นอกจากการก่อสร้างโรงพ่นสีแห่งใหม่นี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังมีแผนการปรับปรุงพัฒนาเพื่อยกระดับศูนย์การผลิตแหลมฉบังในอนาคต

นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ให้เกียรติร่วมเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ซึ่งจัดขึ้นที่ศูนย์การผลิตแหลมฉบังของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย โดยมี มร. โมะริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ให้การต้อนรับ

“โรงพ่นสีแห่งใหม่คือส่วนหนึ่งของการลงทุนมูลค่า 7 พันล้านบาทที่นำไปสู่การพัฒนาความสามารถทางการแข่งขันด้านการผลิตของเราให้เพิ่มสูงขึ้นด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การพัฒนาในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจสู่อนาคตอันยั่งยืนของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส” มร. โมะริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

โรงพ่นสีแห่งใหม่นี้จะก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ในเดือนธันวาคม 2564 เมื่อแล้วเสร็จจะประกอบด้วยอาคาร 4 ชั้น ครอบคลุมพื้นที่กว่า 21,000 ตารางเมตร และจะเป็นโรงพ่นสีที่มีความทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เป็นผู้บุกเบิกในด้านเทคโนโลยีการพ่นสีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเริ่มต้นในปี 2555 เราเป็นผู้นำเทคโนโลยีระบบสีที่ใช้น้ำเป็นตัวทำละลาย (Waterborne) ที่ทันสมัยที่สุด ณ เวลานั้น มาใช้อย่างเป็นทางการที่โรงงานแหลมฉบัง 3 ซึ่งจะทำให้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เป็นศูนย์การผลิตแห่งแรกในประเทศไทย ที่ใช้เทคโนโลยีการพ่นสีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมล่าสุดในทุกโรงงาน

ปัจจุบันกระบวนการพ่นสีของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ที่เป็นแบบสีที่ใช้สารระเหยจะยังคงสามารถดำเนินการผลิตได้เป็นอย่างดีตามมาตรฐานและข้อกำหนดของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย แต่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้ตระหนักถึงผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมจึงได้พิจารณาลงทุนเพิ่มในเทคโนโลยีที่สามารถลดการปล่อยสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย หรือ VOCs ( Volatile Organic Compounds) ให้ได้มากที่สุด

โรงพ่นสีแห่งใหม่นี้จะติดตั้งระบบหุ่นยนต์อัตโนมัติและระบบ IoT (Internet of Things) เพื่อเพิ่มคุณภาพและประสิทธิภาพความแม่นยำในกระบวนการพ่นสีให้สูงขึ้น พร้อมด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อเพิ่มความสามารถในการกำจัดสารระเหยที่หลงเหลือจากขั้นตอนการผลิต โรงพ่นสีแห่งใหม่จะสามารถลดการปล่อย VOCs ได้ถึงร้อยละ 81 พร้อมกันนี้จะใช้ระบบสายพานขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์บังคับแรงเสียดทาน (Friction Conveyor System) ที่สามารถลดมลภาวะทางเสียงในโรงงานได้ดีอีกด้วย

ขณะเดียวกันน้ำเสียจากกระบวนการพ่นสีจะถูกรีไซเคิลผ่านระบบรีเวอร์สออสโมซิสและนำกลับมาใช้ในกระบวนการผลิต จึงสามารถช่วยลดปริมาณน้ำเสียลงร้อยละ 80 และยังช่วยลดการนำน้ำใหม่มาใช้ในกระบวนการพ่นสีร้อยละ 80 เมื่อเทียบกับกระบวนการพ่นสีในปัจจุบัน

โรงพ่นสีแห่งใหม่นี้ยังจะได้รับการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนดาดฟ้า ที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ถึง 3,000
เมกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 1,707 ตันต่อปี โดยเมื่อรวมกับแผนการใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ของโรงงานแหลมฉบังแล้ว จะสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้เกือบ 6,000 ตันต่อปี

การลงทุนก่อสร้างโรงพ่นสีแห่งใหม่และการยกระดับศูนย์การผลิตได้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นและการให้ความสำคัญของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ที่มีต่อประเทศไทย โดยปัจจุบันรถยนต์ 4 รุ่นหลักของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่ผลิตขึ้นในประเทศไทย ได้แก่ มิตซูบิชิ ไทรทัน มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต
มิตซูบิชิ แอททราจ และ มิตซูบิชิ มิราจ ได้ส่งออกไปยังกว่า 120 ประเทศทั่วโลก โดยในปี 2562 ที่ผ่านมา มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ครองอันดับหนึ่งด้านการส่งออกรถยนต์ของประเทศไทย

การยกระดับความสามารถด้านการผลิตในประเทศไทยยังสอดคล้องกับกลยุทธ์ระยะยาวของ
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่ได้ให้ความสำคัญต่อความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การประหยัดพลังงานและการใช้พลังงานทางเลือก รวมถึงการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้เพื่อเพิ่มคุณภาพและประสิทธิภาพในการผลิตให้สูงขึ้น

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2504 โดยโรงงานผลิตที่แหลมฉบังเริ่มดำเนินงานครั้งแรกในปี 2535 และได้เติบโตสู่การเป็นศูนย์กลางด้านการผลิตและส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส นอกประเทศญี่ปุ่น จึงมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจ และสร้างความแข็งแกร่งให้กับ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในระดับโลก การก่อสร้างโรงพ่นสีแห่งใหม่นับเป็นโครงการเริ่มต้นของแผนการยกระดับและปรับปรุงศูนย์การผลิตครั้งสำคัญในรอบเกือบ 30 ปี ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย วางศิลาฤกษ์ ก่อสร้างโรงพ่นสีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแห่งใหม่
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย วางศิลาฤกษ์
ก่อสร้างโรงพ่นสีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแห่งใหม่
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย วางศิลาฤกษ์ ก่อสร้างโรงพ่นสีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแห่งใหม่
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย วางศิลาฤกษ์
ก่อสร้างโรงพ่นสีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแห่งใหม่
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย วางศิลาฤกษ์ ก่อสร้างโรงพ่นสีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแห่งใหม่
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย วางศิลาฤกษ์
ก่อสร้างโรงพ่นสีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแห่งใหม่

ติดตามข่าวสารยานยนต์ เรื่องรถที่ผู้หญิงก็อยากรู้ ได้ที่ www.carswaii.com
FB Page : carswaii.com
IG : carswaii
Youtube : carswaii-channel

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่