ทดสอบขับขี่ New Suzuki CIAZ GL Plus
วันนี้แอดมิน จะมาสรุปการทดสอบการขับขี่ ทดสอบขับขี่ New Suzuki CIAZ GL Plus กันคะ ก่อนอื่นมาดูความต่าง ที่เพิ่มเติมขึ้นมาของรถรุ่นนี้ ที่ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างคุ้มค่า คุ้มราคา นับตั้งแต่เปิดตัวการันตีความนิยม ด้วยยอดขายรวมกว่า 37,000 คัน เพื่อเป็นการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและกระตุ้นตลาดรถอีโคคาร์ให้กลับมาคึกคัก New Suzuki CIAZ GL Plus ซีดาน อีโคคาร์ ระดับพรีเมียม ที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน ความกว้างขวาง สะดวกสบาย ภายใต้คอนเซปท์ More To Discover พลัสครบทั้งฟังก์ชั่นและดีไซน์ ซึ่งการทดสอบครั้งนี้ถูกแบ่งการทดสอบ เป็นทั้งหมด 4 กลุ่ม แอดมินก็จะเป็น กลุ่มที่ 3 ในวันจันทร์ ที่ 1 กรกฎาคม 2562 ของเดินทางในวันนี้ เส้นทาง กรุงเทพฯ – เพชรบุรี – สมุทรสงคราม
เอาล่ะ ก่อนออกเดินทางเราก็มีการทำความเข้าใจกับรถในเบื้องต้นพร้อมกับเส้นทางที่เราจะไปทำการทดสอบ ก่อนจะไปสัมผัสการขับจริง โดยนัดเจอกัน ณ โพธาลัย เลเชอร์ ปาร์ค กรุงเทพฯ โดยเริ่มออกเดินทาง เวลา 09.15 น. เพื่อไปตามเส้นทางที่กำหนด…. แอดมินได้นั่งรถทดสอบคันที่ 3 สีน้ำตาล (Dignity Brown Pearl Metallic) (จากทั้งหมด 5 สี สีขาว (Pure White Pearl ) สีดำ (Super Black Pearl) สีเทาดำ (Mineral Gray Mettallic) สีเทา (Star Silver Metallic ) และสีน้ำตาล (Dignity Brown Pearl Metallic) ระยะทางจากจุดสตาร์ท ไปยังจุดพักที่ 1 เอสโซ่ วัฒนา วังมะนาว ที่ร้านกาแฟสตาบัค ระยะทาง 120.5 กิโลเมตร
สมาชิกการเดินทางประกอบไปด้วย สี่สาววัยว้าวุ่น วุ่นวายกับการขับขี่ในครั้งนี้ 5555555 คนแรกที่เป็นมือหนึ่ง เราก็โหวตเชิงบังคังให้เจ่เจ้เกียว หรือเก๋ (ไอสปีด)(คนที่2 นับจากซ้าย) Web Site : iSpeed Egazine Cars & Technology กับระยะทาง 120.5 กิโลเมตร ก็สบายไป เพราะด้วยเช้าวันจันทร์เส้นทางที่เราออกทางเลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ นั้นค่อนข้างหนาแน่น ขยับตัวได้เรื่อยๆตามรถคันหน้า และด้วยฝนที่ปอยๆมาหน่อย แค่นี้รู้เรื่อง!! ว่าสภาพการจราจรจะเป็นอย่างไร 555 ติดค่ะ!! ติดอยู่กับที่ จนขึ้นทางด่วนมา เราก็เลยได้เริ่มการทดสอบอย่างแท้จริง เจเจ้เกี่ยวก็พูดถึงอารมณ์ของการขับขี่ว่าค่อนข้างมั่นใจ เกาะถนนได้ดี ทั้งถนนแห้งและถนนเปียกที่กลุ่มที่ 3 เราได้เจอ พวงมาลัยไม่แกว่ง(จริงๆมีอีกคำที่เจ่เจ้บอกมาแต่ลืม) เอาเป็นว่าเอาอยู่ ต้องขอบคุณเจ่เจ้เกียวนะคะ ที่เป็นมือหนึ่งพาเรามาถึงจุดพักรถแบบปลอดภัย นิ่มนิ่ม สบาย สบาย……
หลังจากแวะจุดพัก แวะดื่มกาแฟเข้าห้องน้ำเป็นที่เรียบร้อย เราก็แตะมือ สลับมือขับมือสอง ก็คือแอดมิน www.carswaii.com เอง ขึ้นรถปรับที่นั่งกระจกหลัง เรียบร้อย ก็เริ่มออกเดินทางทดสอบกันต่อ จากปั้มเอสโซ่ วัฒนา วังมะนาวสู่ร้านอาหารรัญจวน อัมพวา ระยะทาง 40.4 กิโลเมตร เพื่อไปทานอาหารกลางวันกันก่อน…. สัมผัสแรกของการแตะคันเร่ง เฮ้ย!!ออกตัวได้พุ่ง และแรงดีมาก (ในใจคิดเหยียบคันเร่งลึกไปไหม) ใน New Suzuki Ciaz GL Plus สมกับ “สมรรถนะ” อันยอดเยี่ยม ด้วยเครื่องยนต์รหัส K12B ขนาด 1.25 ลิตร แบบ 4 สูบ 6 วาล์ว ซึ่งให้พละกำลังสูงสุด 91 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 118 นิวตันเมตรที่ 4,800 รอบต่อนาที นี่คือเครื่องยนต์ที่ติดมากับรถอีโคคาร์ คันนี้ แอดมินก็ต้องปรับฝีเท้าตัวเองให้เข้ากับรถ เพื่อความปลอดภัยกับฝนที่ตกลงมาให้ชุ่มฉ่ำถนน การทดสอบของแอดมินก็เริ่มขึ้น!! เพื่อเดินทางย้อนกลับมายัง อำเภออัมพวา ในจังหวัดสมุทรสงคราม แหล่งท่องเที่ยวที่ยังคงครึกครื้นด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ เพื่อรับประทานอาหารมื้อกลางวันกันริมน้ำที่ “รัญจวน อัมพวา” ร้านอาหารไทยพื้นบ้าน บรรยากาศอบอุ่นริมเขื่อนอัมพวา เติมพลังใส่ร่าง ก่อนจะเดินท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์กันต่อ ด้วยระยะทาง 40.4 กิโลเมตร เจอฝนตก น้ำเป็นแอ่ง ทางเบี่ยง รถบรรทุก ฟิลลิ่งในการขับรู้สึกถึงความมั่นใจของรถ เกาะถนน ไม่เหิน ไม่ลอย ทรงตัวดี และรู้สึกปลอดภัยมาก แอดมินก็พาสมาชิกมาถึงร้านอาหารเป็นที่เรียบร้อย….
หลังจากอิ่มท้อง พร้อมเดินทางต่อ เพื่อไปยังอุทยาน ร.2 จังหวัดสมุทรสงคราม ระยะทาง 1.2 กิโลเมตร โดยเป็นถนน 2 เลน ต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้น แหล่งชุมชน รถชาวบ้านก็จะเยอะๆหน่อย เริ่มคุ้นเคยกับรถล่ะ ไปต่อค่ะ เพื่อทำกิจกรรมทำ Workshop ขนมไทยลูกชุบ ตามตัวอย่างหรือจินตนาการของแต่ละผู้ทดสอบ….
…..เสร็จจากกิจกรรม Workshop ทีมทดสอบได้มีโอกาส สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเป็นสิริมงคล ณ วัดบางกุ้ง จังหวัดสมุทรสงคราม..ระยะทาง 6.2 กิโลเมตร และแตะมือต่อกับ ผู้ทดสอบคนที่ 3 คุณจอยซี่ แห่ง www.incarsmagazin.com
เราออกเดินทางจาก วัดบางกุ้ง จังหวัดสมุทรสงคราม มุ่งหน้ากลับจุดสตาร์ท ณ โพธาลัย เลเซอร์ ปาร์ค ระยะทาง 107.5 กิโลเมตร ฟรีรันกันได้เลย ระหว่างทางก็มีแตะมือสลับกับคุณจอย แห่งรายการ ZTV (ดับเบิ้ลจอย วันนี้ทั้งสองสาว ใจตรงกันสวมนาฬิกาเหมือนกันเป๊ะ) จนถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย โดยถึงเวลาก่อนกำหนดการประมาณ 10 นาที ซึ่งทีมงานที่ดูแลทริปนี้แจ้งว่า เราทำได้ดีสุด กว่าทุกกลุ่ม (ยิ้มอ่อน โชคดีรถไม่ติด) และที่สำคัญไป-กลับน้ำมันยังเหลือค่าา เอาเป็นว่า โดยรวมของเจ้า New Suzuki CIAZ GL Plus คือ 10 เต็ม 10 ค่ะ สนนราคาเริ่มต้นเพียง 568,000 บาทเท่านั้น คุณภาพคุ้มค่า คุ้มราคาค่ะ ใครมองหารถซักคัน อ่านรีวิวนี้แล้ว อย่าเชื่อค่ะ ไปลองขับขี่กันก่อนที่โชว์รูมใกล้บ้านคุณ แอดมินท้าให้ลองค่ะ
รูปเพิ่มเติมเครื่องยนต์
รูปเพิ่มเติมภายนอก
รูปลักษณ์ภายนอกตกแต่งสไตล์สปอร์ตรอบคัน ซึ่งประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า, สเกิร์ตข้าง, สเกิร์ตหลัง และสปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 เสริมด้วยความโดดเด่นจากอุปกรณ์มาตรฐาน เช่น กระจังหน้าแบบโครเมี่ยม, ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ กระจกบังลมหน้าแบบสีตัดแสง และกระจกบังลมหลังพร้อมระบบไล่ฝ่าตลอดจนกระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถปรับด้วยระบบไฟฟ้า
รูปเพิ่มเติมภายใน
ส่วนของภายในห้องโดยสารยังคงเป็นสไตล์ของ Suzuki Ciaz ที่เปี่ยมด้วยความกว้างขวาง ตกแต่งด้วยวัสดุผ้า พร้อมด้วยอุปกรณ์มาตรฐานที่ครบครัน เช่น มาตรวัดความเร็ว, รอบเครื่องยนต์, ระบบน้ำมัน และอุณหภูมิน้ำยาหล่อเย็น ซึ่งจะมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลที่สามารถแจ้งอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง, ค่าเฉลี่ยการใช้น้ำมันต่อระยะทาง, ระยะการเดินทาง และอุณหภูมิภายนอก ตลอดจนสัญญาณไฟเตือนต่างๆ บนหน้าจอ อาทิ เตือนการคาดเข็มขัดนิรภัย, ถุงลมนิรภัย, การปิดประตูไม่สนิท และระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS รวมถึงสัญญาณเสียงเตือนกรณี ลืมปิดไฟหน้า หรือลืมกุญแจไว้ในรถ
ในขณะที่สิ่งอำนวยความสะดวก จะประกอบไปด้วย กุญแจรีโมทพร้อมไฟกระพริบตอบรับ, พวงมาลัยสปอร์ตแบบ 3 ก้านปรับระดับสูง-ต่ำได้, กระจกไฟฟ้าฝั่งคนขับปรับขึ้น-ลงอัตโนมัติ ตามด้วยระบบความบันเทิงจากเครื่องเล่นวิทยุ CD MP3 จอระบบสัมผัสขนาด 6.2 นิ้ว พร้อมระบบเชื่อมต่อบลูทูธ และ USB สามารถเชื่อมต่อเพลงผ่านบลูทูธได้สูงสุดพร้อม กัน 5 เครื่อง พร้อมกล้องมองหลัง ช่วยยกระดับความมั่นใจขณะถอยรถ พร้อมลำโพง 4 ตำแหน่ง และเสาอากาศแบบฝังกระจกหลัง รวมถึงฟังก์ชั่นที่เอื้ออำนวยให้ใช้งานได้อย่างง่ายดายจาก ระบบเซ็นทรัลล็อค พร้อมปุ่มควบคุมบริเวณคนขับ, ที่เปิดฝาท้ายรถแบบไฟฟ้า ซึ่งมากับไฟส่องสว่างห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ ควบคู่ไปกับอุปกรณ์ความปลอดภัยมาตรฐาน เช่น โครงสร้างตัวถังที่มาพร้อมคานกันกระแทกด้านข้าง, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า SRS ทำงานร่วมกับพวงมาลัยแบบยุบตัว และเข็มขัดนิรภัยด้านหน้าแบบ ELR 3 จุด พร้อมระบบดึงกลับอัตโนมัติ และปรับระดับสูงต่ำได้ โดยมีด้านหลังเป็นแบบ ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง และ 2 จุด 1 ตำแหน่ง เสริมด้วยระบบล็อคนิรภัยป้องกันเด็กเปิดประตูหลัง, ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรกอิเล้กทรอนิกส์ EBD, ระบบช่วยเบรก BA ตลอดจนระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer, ระบบเตือนภัย Security Alarm และชุดซ่อมยางฉุกเฉิน
ช่องทางติดต่อทางออนไลน์