Mini Hopkirk Edition เอาใจคนรักรถในตำนาน เสมือนได้สัมผัสรถแข่งแชมป์เปี้ยนยุคปี 1964 ด้วยเบอร์ 37 ในตำนาน

0
2109
Mini Hopkirk Edition เอาใจคนรักรถในตำนาน เสมือนได้สัมผัสรถแข่งแชมป์เปี้ยนยุคปี 1964 ด้วยเบอร์ 37 ในตำนาน
Mini Hopkirk Edition เอาใจคนรักรถในตำนาน เสมือนได้สัมผัสรถแข่งแชมป์เปี้ยนยุคปี 1964 ด้วยเบอร์ 37 ในตำนาน

ยนตรกรรม MINI Cooper  ถือได้ว่าเป็นรถที่โดดเด่นทั้งเอกลักษณ์เฉพาะตัวดีไซน์น่ารักไม่เหมือนใคร ประวัติที่ไม่ธรรมดา ชุดแต่งที่ถูกใจคนทุกเพศทุกวัย และประวัติศาสตร์ของการคว้าแชมป์มอเตอร์สปอร์ตในตำนานที่ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นรถรุ่นพิเศษให้ได้ครอบครองกันหลายรุ่น ล่าสุดได้เผยโฉม MINI Cooper S Hopkirk Edition รุ่น 2 ประตู ที่ถ่ายทอดจิตวิญญาณของรถแข่ง และสุดยอดนักแข่งรถให้สาว ๆ และคนรุ่นใหม่ได้เป็นเจ้าของกัน งานนี้โดดเด่นโดนใจไม่แพ้ใครเลยทีเดียว

Mini Hopkirk Edition เอาใจคนรักรถในตำนาน เสมือนได้สัมผัสรถแข่งแชมป์เปี้ยนยุคปี 1964 ด้วยเบอร์ 37 ในตำนาน
Mini Hopkirk Edition เอาใจคนรักรถในตำนาน เสมือนได้สัมผัสรถแข่งแชมป์เปี้ยนยุคปี 1964 ด้วยเบอร์ 37 ในตำนาน

MINI Cooper S Hopkirk Edition ว่าที่รถรุ่นพิเศษที่ได้ถ่ายทอดตำนานนักแข่งรถชื่อดัง แพทริค ‘แพดดี้’ ฮอปเคิร์ก พร้อมรถแข่งแรลลี่มินิคูเปอร์หมายเลข 37 คว้าชัยในการแข่งขันรายการมอนติคาร์โลแรลลี่ในปี 1964 ด้วยการนำเสนอตัวถังสีแดง Chili Red พร้อมหลังคารถแถบสีขาว และตัวเลข 37 อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของรถแข่งแรลลี่ ประกอบกับแถบสีขาวบนฝากระโปรงหน้าก็ได้ซ่อนลายเลขทะเบียนรถ “33EJB” เป็นกิมมิคเล็ก ๆ ที่ไม่ธรรมดา

Mini Hopkirk Edition เอาใจคนรักรถในตำนาน เสมือนได้สัมผัสรถแข่งแชมป์เปี้ยนยุคปี 1964 ด้วยเบอร์ 37 ในตำนาน
Mini Hopkirk Edition เอาใจคนรักรถในตำนาน เสมือนได้สัมผัสรถแข่งแชมป์เปี้ยนยุคปี 1964 ด้วยเบอร์ 37 ในตำนาน

อีกหนึ่งจุดเด่นของรถรุ่นพิเศษนี้ก็คือ “ลายเซ็น” แพทริค ‘แพดดี้’ ฮอปเคิร์ก ทั้งบนฝากระโปรงหน้า, ฝากระโปรงท้าย, แผงแดชบอร์ดฝั่งผู้โดยสาร จนถึงแผ่นรองธรณีประตู เฉกเช่นเดียวกับโลโก้ 37 ที่ปรากฎตามจุดต่าง ๆ นอกเหนือจากบานประตูหน้า เช่น โลโก้ตรงเสา C, ชิ้นส่วนโลโก้ตรงไฟเลี้ยว, กุญแจรีโมทที่มีให้เลือก 2 แบบ เป็นต้น

Mini Hopkirk Edition เอาใจคนรักรถในตำนาน เสมือนได้สัมผัสรถแข่งแชมป์เปี้ยนยุคปี 1964 ด้วยเบอร์ 37 ในตำนาน
Mini Hopkirk Edition เอาใจคนรักรถในตำนาน เสมือนได้สัมผัสรถแข่งแชมป์เปี้ยนยุคปี 1964 ด้วยเบอร์ 37 ในตำนาน
Mini Hopkirk Edition เอาใจคนรักรถในตำนาน เสมือนได้สัมผัสรถแข่งแชมป์เปี้ยนยุคปี 1964 ด้วยเบอร์ 37 ในตำนาน
Mini Hopkirk Edition เอาใจคนรักรถในตำนาน เสมือนได้สัมผัสรถแข่งแชมป์เปี้ยนยุคปี 1964 ด้วยเบอร์ 37 ในตำนาน
Mini Hopkirk Edition เอาใจคนรักรถในตำนาน เสมือนได้สัมผัสรถแข่งแชมป์เปี้ยนยุคปี 1964 ด้วยเบอร์ 37 ในตำนาน
Mini Hopkirk Edition เอาใจคนรักรถในตำนาน เสมือนได้สัมผัสรถแข่งแชมป์เปี้ยนยุคปี 1964 ด้วยเบอร์ 37 ในตำนาน
Mini Hopkirk Edition เอาใจคนรักรถในตำนาน เสมือนได้สัมผัสรถแข่งแชมป์เปี้ยนยุคปี 1964 ด้วยเบอร์ 37 ในตำนาน
Mini Hopkirk Edition เอาใจคนรักรถในตำนาน เสมือนได้สัมผัสรถแข่งแชมป์เปี้ยนยุคปี 1964 ด้วยเบอร์ 37 ในตำนาน

แถมยังได้รับชุดแต่งดีไซน์พิเศษหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็น กระจังหน้าสีดำเงา พร้อมไฟสปอร์ตไลท์, ฝาถังน้ำมันสีดำ, ขอบแต่งไฟหน้าและไฟท้ายสีดำเงา, ล้อสีดำขนาด 17 นิ้ว จาก John Cooper Works, Excitement Package, ภายในโทนสีดำ, Excitement Package, Comfort Access และอื่น ๆ อีกมากมาย ปิดท้ายด้วยโลโก้ MINI สีดำเงา

Mini Hopkirk Edition เอาใจคนรักรถในตำนาน เสมือนได้สัมผัสรถแข่งแชมป์เปี้ยนยุคปี 1964 ด้วยเบอร์ 37 ในตำนาน
Mini Hopkirk Edition เอาใจคนรักรถในตำนาน เสมือนได้สัมผัสรถแข่งแชมป์เปี้ยนยุคปี 1964 ด้วยเบอร์ 37 ในตำนาน
Mini Hopkirk Edition เอาใจคนรักรถในตำนาน เสมือนได้สัมผัสรถแข่งแชมป์เปี้ยนยุคปี 1964 ด้วยเบอร์ 37 ในตำนาน
Mini Hopkirk Edition เอาใจคนรักรถในตำนาน เสมือนได้สัมผัสรถแข่งแชมป์เปี้ยนยุคปี 1964 ด้วยเบอร์ 37 ในตำนาน
Mini Hopkirk Edition เอาใจคนรักรถในตำนาน เสมือนได้สัมผัสรถแข่งแชมป์เปี้ยนยุคปี 1964 ด้วยเบอร์ 37 ในตำนาน
Mini Hopkirk Edition เอาใจคนรักรถในตำนาน เสมือนได้สัมผัสรถแข่งแชมป์เปี้ยนยุคปี 1964 ด้วยเบอร์ 37 ในตำนาน

สำหรับตัวเครื่องยนต์จะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร จาก Cooper S มอบพละกำลังสูงสุด 189 แรงม้า แรงบิด 281 นิวตันเมตร มีเกียร์ธรรมดา 6 สปีด กับเกียร์ดูอัลคลัทช์ (DCT) 7 สปีดให้เลือก และมีเฉพาะระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ให้อัตราเร่งจาก 0 – 96 กม./ชม. ใน 6.5 วินาที และความเร็วสูงสุด 235 กม./ชม.

Mini Hopkirk Edition เอาใจคนรักรถในตำนาน เสมือนได้สัมผัสรถแข่งแชมป์เปี้ยนยุคปี 1964 ด้วยเบอร์ 37 ในตำนาน
Mini Hopkirk Edition เอาใจคนรักรถในตำนาน เสมือนได้สัมผัสรถแข่งแชมป์เปี้ยนยุคปี 1964 ด้วยเบอร์ 37 ในตำนาน
Mini Hopkirk Edition เอาใจคนรักรถในตำนาน เสมือนได้สัมผัสรถแข่งแชมป์เปี้ยนยุคปี 1964 ด้วยเบอร์ 37 ในตำนาน
Mini Hopkirk Edition เอาใจคนรักรถในตำนาน เสมือนได้สัมผัสรถแข่งแชมป์เปี้ยนยุคปี 1964 ด้วยเบอร์ 37 ในตำนาน
Mini Hopkirk Edition เอาใจคนรักรถในตำนาน เสมือนได้สัมผัสรถแข่งแชมป์เปี้ยนยุคปี 1964 ด้วยเบอร์ 37 ในตำนาน
Mini Hopkirk Edition เอาใจคนรักรถในตำนาน เสมือนได้สัมผัสรถแข่งแชมป์เปี้ยนยุคปี 1964 ด้วยเบอร์ 37 ในตำนาน
Mini Hopkirk Edition เอาใจคนรักรถในตำนาน เสมือนได้สัมผัสรถแข่งแชมป์เปี้ยนยุคปี 1964 ด้วยเบอร์ 37 ในตำนาน
Mini Hopkirk Edition เอาใจคนรักรถในตำนาน เสมือนได้สัมผัสรถแข่งแชมป์เปี้ยนยุคปี 1964 ด้วยเบอร์ 37 ในตำนาน
Mini Hopkirk Edition เอาใจคนรักรถในตำนาน เสมือนได้สัมผัสรถแข่งแชมป์เปี้ยนยุคปี 1964 ด้วยเบอร์ 37 ในตำนาน
Mini Hopkirk Edition เอาใจคนรักรถในตำนาน เสมือนได้สัมผัสรถแข่งแชมป์เปี้ยนยุคปี 1964 ด้วยเบอร์ 37 ในตำนาน
Mini Hopkirk Edition เอาใจคนรักรถในตำนาน เสมือนได้สัมผัสรถแข่งแชมป์เปี้ยนยุคปี 1964 ด้วยเบอร์ 37 ในตำนาน
Mini Hopkirk Edition เอาใจคนรักรถในตำนาน เสมือนได้สัมผัสรถแข่งแชมป์เปี้ยนยุคปี 1964 ด้วยเบอร์ 37 ในตำนาน

แฟน ๆ ชาวสหราชอาณาจักร ได้สัมผัสรถรุ่นพิเศษ MINI Hopkirk Edition ก่อนใคร ด้วยจำนวนจำกัดเพียง 100 คันเท่านั้น มีราคาเริ่มต้นที่ 27,405 ปอนด์ และมีแพลนจำหน่ายในอเมริกาตามลำดับ ส่วนแฟน ๆ ทั่วโลก รวมถึงแฟน ๆ ชาวไทยจะมีโอกาสได้ครอบครองหรือไม่นั้น คงต้องรอลุ้นกันยาว ๆ

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://www.carscoops.com/2020/09/2021-mini-hopkirk-edition-honors-the-1964-monte-carlo-rally-winner/

https://www.autoblog.com/2020/09/21/mini-celebrates-its-first-monte-carlo-victory-with-paddy-hopkirk-edition-hardtop/

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่