วันจันทร์, ตุลาคม 7, 2024
spot_img
หน้าแรกAuto Newsสิ้นสุดการรอคอย เกรท วอลล์ มอเตอร์ เตรียมเปิดตัวและประกาศราคาอย่างเป็นทางการของ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV...

สิ้นสุดการรอคอย เกรท วอลล์ มอเตอร์ เตรียมเปิดตัวและประกาศราคาอย่างเป็นทางการของ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV 7 ตุลาคม 2565 นี้!

-

สามารถรับชมการถ่ายทอดสดแบบ Live Stream พร้อมกันทั่วประเทศได้ทาง Facebook: GWM Thailand และ HAVAL Thailand ในวันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม 2565 เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป

กรุงเทพฯ – 23 กันยายน 2565 – เกรท วอลล์ มอเตอร์ ชวนแฟนๆ ชาวไทยร่วมนับถอยหลังสู่การเปิดตัวและประกาศราคาอย่างเป็นทางการในประเทศไทยของ All New HAVAL H6  Plug-in Hybrid SUV รถยนต์เอสยูวีพลังงานไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊กรุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ดีไซน์อันโดดเด่น และสมรรถนะทรงพลังพร้อมรองรับการขับขี่ที่หลากหลาย ภายใต้แนวคิด Future Transformed ตอกย้ำภารกิจของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้า (xEV Leader) ที่มุ่งมั่นขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคตอย่างเต็มรูปแบบ โดยแฟนๆ ชาวไทยสามารถติดตามบรรยากาศการถ่ายทอดสดผ่านช่องทางออนไลน์ได้ทั้ง Facebook: GWM Thailand และ HAVAL Thailand ในวันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม 2565 ตั้งแต่เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป

นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “All New HAVAL H6  Plug-in Hybrid SUV ซึ่งถูกนำมาเผยโฉมเป็นครั้งแรกของโลกในงานมหกรรมยานยนต์เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจนกลายเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอัจฉริยะอีกหนึ่งรุ่นที่ผู้บริโภคชาวไทยจับตามองและรอคอยมาอย่างต่อเนื่อง การันตีความร้อนแรงด้วยการกวาดยอดจองสิทธิ์เพื่อซื้อรถยนต์รุ่นนี้กับแคมเปญ ULTRA DEAL ถึง 3,067 คันภายในระยะเวลาเพียง 24 ชั่วโมงภายหลังการเปิดรับจองสิทธิ์ดังกล่าวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2565 ตั้งแต่เวลา 00.00 น. เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในฐานะบริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก (Global Intelligent Technology Company) มีความยินดีอย่างยิ่งที่จะได้สานต่อแนวทางการดำเนินธุรกิจที่เน้นผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง (User-centric) และสร้างปรากฏการณ์เขย่าวงการยานยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งในช่วงครึ่งปีหลังด้วยการเปิดตัวและประกาศราคาจำหน่ายรถยนต์รุ่นนี้ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม 2565 เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป เราเชื่อว่า All New HAVAL H6  Plug-in Hybrid SUV ซึ่งมาพร้อมความโดดเด่นทั้งด้านรูปลักษณ์ สมรรถนะ ฟังก์ชั่นอัจฉริยะที่เป็น Best-in-class และ First-in-class และระยะทางการวิ่งในโหมดอีวีสูงถึง 201 กิโลเมตรต่อหนึ่งการชาร์จ (ตามมาตรฐาน NEDC) จะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากผู้บริโภคชาวไทยและสร้างความคึกคักให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย พร้อมทั้งเพิ่มจำนวนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มีเทคโนโลยีอัจฉริยะบนท้องถนนทั่วประเทศ ซึ่งจะมีส่วนสำคัญต่อการเติมเต็มระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าไทยให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นในท้ายที่สุดอีกด้วย”

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจยังสามารถลงทะเบียนจองสิทธิ์เพื่อซื้อ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV ในแคมเปญ ULTRA DEAL ได้ ผ่านทาง GWM Application และเว็บไซต์  WWW.GWM.CO.TH โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ในระหว่างวันที่ 17 กันยายน 2565 เวลา 00.00 น. ถึงวันที่ 7 ตุลาคม 2565 เวลา 18.00 น. โดยจะต้องชำระเงินมัดจำ จำนวน 10,000 บาท ในระหว่างวันที่ 7 ตุลาคม 2565 เวลา 20.00 น. ถึงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2565 เวลา 23.59 น.

พิเศษสุด สำหรับลูกค้าที่จองสิทธิ์ ULTRA DEAL 300 ท่านแรก ในช่วงเวลาที่กำหนด และทำการจ่ายเงินมัดจำสำเร็จภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากการประกาศราคาอย่างเป็นทางการ จะได้รับส่วนลดในการซื้อรถยนต์ All New HAVAL H6  Plug-in Hybrid SUV มูลค่า 50,000 บาท โดยบริษัทฯ จะยึดเวลาที่ทำการจ่ายเงินมัดจำสำเร็จเป็นหลักในการมอบสิทธิ์พิเศษนี้ให้กับลูกค้า ซึ่งถ้าลูกค้าท่านใดทำการสละสิทธิ์หรือถอนการจองภายหลัง จะไม่สามารถกลับมารับสิทธิ์ได้ใหม่ และทางบริษัทฯ จะไม่มีการเพิ่มรายชื่อลูกค้าท่านอื่นในลำดับถัดไปเข้ามาทดแทน

ชิดจอรอชมกันได้เลยกับการเปิดตัวพร้อมประกาศราคาจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการสำหรับรถยนต์เอสยูวีพลังงานไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊กรุ่นใหม่ล่าสุด All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV ในวันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม 2565 เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป ผ่านช่องทางออนไลน์ทั้ง Facebook: GWM Thailand และ HAVAL Thailand

All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV เป็นรถยนต์เอสยูวีพลังงานไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊กที่สะท้อนแนวคิดการออกแบบแห่งอนาคต มาพร้อมมิติตัวรถขนาดกว้างขวาง ดีไซน์ด้านหน้าแบบ Star Matrix ล้ำสมัย ไฟหน้า Intelligent LED Headlamp โดดเด่นสะดุดตา ให้ความสว่างแบบ Ultra-High Flow มอบความปลอดภัยในทุกเส้นทาง หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิค 360 องศา เข้าทรงกับสปอยเลอร์ท้ายและเสาอากาศแบบ shark fin พร้อมระบบประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้าและระบบแฮนด์ฟรี เสริมด้วยไฟท้าย LED Taillight Strip เป็นแนวยาว และล้ออัลลอยลายสปอร์ตขนาด 19 นิ้ว ขณะที่การออกแบบภายในชูแนวคิด Minimalist ที่เน้นความกว้างขวาง สะดวกสบาย และใส่ใจในทุกรายละเอียด ด้วยคอนโซลหน้าทูโทนสีดำ-เทาสไตล์ Futuristic และครบครันด้วยฟังก์ชันอำนวยความสะดวกมากมายในระหว่างเดินทาง ไม่ว่าจะเป็น หน้าจออัจฉริยะ 3 จอเพื่อการเข้าถึงข้อมูลและความบันเทิงได้อย่างง่ายดายและแม่นยำ เบาะนั่งไฟฟ้าคู่หน้า พร้อมระบบระบายอากาศ เบาะนั่งโดยสารด้านหลังพร้อมที่เท้าแขนกลาง แท่นชาร์จไร้สาย กุญแจ Smart Key และระบบ Push Start มาพร้อมสีภายนอกให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีขาว สีดำ สีเทา สีน้ำเงิน และสีแดง

All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV ยังเหนือชั้นด้วยขุมพลังและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย สะท้อนมิติใหม่ของรถยนต์ Plug-in Hybrid ด้วยการสร้างสรรค์บนแพลตฟอร์มโมดูลาร์อัจฉริยะ GWM LEMON ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.5L Turbo ผสานการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า และเพลาขับเคลื่อนอิเล็กทรอนิกส์แบบ Multi-mode DHT ให้กำลังรวมสูงสุด 326 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 530 นิวตันเมตร ผนวกกับแบตเตอรี่ชนิดลิเธียม Ternary ความจุ 34 kWh ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 201 กิโลเมตรต่อหนึ่งการชาร์จ ตามมาตรฐาน NEDC และมาพร้อมกับหัวชาร์จไฟฟ้าแบบ CCS Type 2 Combo รองรับการชาร์จแบบเร็วด้วยไฟกระแสตรง DC (0% – 80%) โดยใช้เวลาประมาณ 35 นาที และการชาร์จด้วยไฟบ้าน AC (0% – 100%) ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง

นอกจากนี้ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SVU ยังอัดแน่นด้วยฟังก์ชันอัจฉริยะมากมายทั้งระบบการอัปเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านระบบออนไลน์อัจฉริยะ (FOTA) ระบบการสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ ระบบควบคุมผ่าน GWM Application ทั้งยังครบครันด้วยเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัยเพื่อการเดินทางที่สะดวกสบายและอุ่นใจไร้กังวลสำหรับทุกคน อาทิ

  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent ACC)
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA)
  • ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ (IIP)
  • ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA)
  • ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI)
  • ระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB)
  • ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS)
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK)
  • ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2 (SCM)
- Advertisment -

Must Read