เกรท วอลล์ มอเตอร์ เตรียมเปิดจองสิทธิ์เพื่อซื้อ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV 17 กันยายนนี้ มอบข้อเสนอสุดคุ้มกับแคมเปญ ULTRA DEAL มูลค่ารวมกว่า 300,000 บาท

0
718

กรุงเทพฯ – 16 กันยายน 2565 – เกรท วอลล์ มอเตอร์ เร่งขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมยานยนต์ไฟฟ้า เตรียมเปิดตัว All New HAVAL H6  Plug-in Hybrid SUV รถยนต์เอสยูวีพลังงานไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊กรุ่นใหม่ล่าสุดอย่างเป็นทางการในประเทศไทยในเร็วๆ นี้ เอาใจแฟนพันธุ์แท้ส่งแคมเปญ ULTRA DEAL ที่มาพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ ในการจองสิทธิ์เพื่อซื้อก่อนการเปิดตัวและประกาศราคาอย่างเป็นทางการ อาทิ ผ่อน 0% นาน 48 เดือน ฟรี โฮมชาร์จเจอร์ ประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นระยะเวลา 1 ปี และบริการเหนือระดับอื่นๆ อีกมากมาย รวมมูลค่ากว่า 300,000 บาท สำหรับลูกค้าที่จองสิทธิ์เพื่อซื้อรถยนต์รุ่นนี้ในระว่างวันที่ 17 กันยายน 2565 เวลา 00.00 น. ถึงวันที่ 7 ตุลาคม 2565 เวลา 18.00 น. เท่านั้น พิเศษสุด สำหรับลูกค้าที่ทำการจองสิทธิ์ในช่วงเวลาที่กำหนดและทำการชำระเงินจองสำเร็จภายใน 24 ชั่วโมงหลังการประกาศราคาอย่างเป็นทางการ 300 ท่านแรก จะได้รับส่วนลดในการซื้อรถยนต์มูลค่า 50,000 บาท

หลังจากที่ได้สร้างความคึกคักให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่องด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าอัจฉริยะที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยหลากหลายรุ่น ล่าสุด เกรท วอลล์ มอเตอร์ เดินหน้าสร้างปรากฏการณ์เขย่าวงการอีกครั้งผ่านการประกาศเปิดจองสิทธิ์ลงทะเบียนเพื่อซื้อ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV ก่อนการเปิดตัวและประกาศราคาอย่างเป็นทางการ โดยแคมเปญ ULTRAL DEAL โดยมีสิทธิประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น

  1. ดอกเบี้ยพิเศษ 0% นาน 48 เดือน (เมื่อดาวน์ 25%)
  2. ฟรี ประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นระยะเวลา 1 ปี มูลค่าสูงสุด 30,000 บาท
  3. ฟรี GWM โฮมชาร์จเจอร์ พร้อมการติดตั้งในระยะสายไฟยาวไม่เกิน 20 เมตร (จากตู้เมน) จำนวน 1 ครั้ง (ไม่รวมค่าแท่นชาร์จ) มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 60,000 บาท
  4. ฟรี แพ็คเกจค่าอะไหล่และค่าแรงบำรุงรักษาตามระยะทาง (GWM Ultra Service Inclusive: GUSI) สูงสุด 10 ครั้ง ภายในระยะเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (เมื่ออย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) พร้อมอะไหล่สิ้นเปลือง รวมมูลค่า 75,000 บาท
  5. ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง (Roadside Assistance) เป็นเวลา 5 ปี มูลค่า 10,000 บาท
  6. ฟรี สิทธิ์ในการเรียกใช้บริการรับ (Pickup Service) หรือบริการส่งรถยนต์ (Delivery Service) เพื่อเข้ารับบริการบำรุงรักษาตามระยะทาง หรือบริการบำรุงรักษาตามระยะทางนอกสถานที่ (GWM mobile service) จำนวน 2 ครั้ง รวมมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 1,500 บาท
  7. ฟรี น้ำมันรถยนต์ มูลค่าสูงสุด 2,000 บาท
  8. ฟรี กรอบป้ายทะเบียนและพรม GWM มูลค่ารวม 1,640 บาท
  9. ฟรี คะแนน GWM Point เพื่อใช้แลกสินค้าและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ใน GWM Application จำนวน 15,000 คะแนน

รวมมูลค่าข้อเสนอสุดพิเศษภายใต้แคมเปญ ULTRA DEAL กว่า 300,000 บาท

พิเศษสุด สำหรับลูกค้าที่จองสิทธิ์ ULTRA DEAL 300 ท่านแรก ในช่วงเวลาที่กำหนด และทำการจ่ายเงินมัดจำสำเร็จภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากการประกาศราคาอย่างเป็นทางการ จะได้รับส่วนลดในการซื้อรถยนต์ All New HAVAL H6  Plug-in Hybrid SUV มูลค่า 50,000 บาท โดยบริษัทฯ จะยึดเวลาที่ทำการจ่ายเงินมัดจำสำเร็จเป็นหลักในการมอบสิทธิ์พิเศษนี้ให้กับลูกค้า ซึ่งถ้าลูกค้าท่านใดทำการสละสิทธิ์หรือถอนการจองภายหลัง จะไม่สามารถกลับมารับสิทธิ์ได้ใหม่ และทางบริษัทฯ จะไม่มีการเพิ่มรายชื่อลูกค้าท่านอื่นในลำดับถัดไปเข้ามาทดแทน

นายณรงค์ สีตลายน กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “เกรท วอลล์ มอเตอร์ เข้ามาดำเนินกิจการในประเทศไทยด้วยความมุ่งมั่นที่จะผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านยานยนต์ไฟฟ้าของอาเซียน พร้อมกับพันธกิจ ‘Mission 9 in 3’ ที่จะนำรถยนต์รุ่นต่างๆ อย่างน้อย 9 รุ่น เข้ามามอบประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับให้กับแฟนๆ ชาวไทยภายในเวลา 3 ปี โดยก่อนหน้านี้เราประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นจากการเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าไปแล้วทั้งหมด 4 รุ่น ตามลำดับ ได้แก่ All NEW HAVAL H6 Hybrid SUV, ORA Good Cat, All New HAVAL JOLION Hybrid SUV และ ORA Good Cat GT เราพร้อมแล้วที่จะเดินหน้าอีกหนึ่งก้าวสำคัญเพื่อให้แฟนๆ ชาวไทยได้จับจองสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของ All New HAVAL H6  Plug-in Hybrid SUV รถยนต์เอสยูวีพลังงานไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊กรุ่นใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ HAVAL ที่เคยสร้างความฮือฮาให้กับวงการยานยนต์จากการเผยโฉมครั้งแรกของโลกในประเทศไทยเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เราเชื่อว่า All New HAVAL H6  Plug-in Hybrid SUV ซึ่งมาพร้อมความโดดเด่นทั้งด้านรูปลักษณ์ สมรรถนะ และฟังก์ชั่นอัจฉริยะ จะเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสำหรับครอบครัวที่ไม่เพียงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การเดินทางได้อย่างลงตัว แต่ยังจะช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้สมบูรณ์ขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งแคมเปญ ULTRA DEAL ถือเป็นข้อเสนอที่ดีที่สุดของรถแต่ละรุ่นของเราแทนคำขอบคุณสำหรับลูกค้ากลุ่มแรกที่ให้ความไว้วางใจในผลิตภัณฑ์ของเราก่อนการเปิดตัวและประกาศราคาอย่างเป็นทางการในประเทศไทย”

ผู้ที่สนใจและลูกค้าสามารถลงทะเบียนจองสิทธิ์เพื่อซื้อ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV ในแคมเปญ ULTRA DEAL ได้ ผ่านทาง GWM Application และเว็บไซต์  WWW.GWM.CO.TH โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ในระหว่างวันที่ 17 กันยายน 2565 เวลา 00.00 น. ถึงวันที่ 7 ตุลาคม 2565 เวลา 18.00 น. โดยจะต้องชำระเงินมัดจำ จำนวน 10,000 บาท ในระหว่างวันที่ 7 ตุลาคม 2565 เวลา 20.00 น. ถึงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2565 เวลา 23.59 น. และสำหรับข้อเสนอสุดพิเศษ สำหรับลูกค้าที่จองสิทธิ์ ULTRA DEAL 300 ท่านแรกและทำการจ่ายเงินมัดจำสำเร็จภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากการประกาศราคาอย่างเป็นทางการ จะได้รับส่วนลดในการซื้อรถยนต์ All New HAVAL H6  Plug-in Hybrid SUV มูลค่า 50,000 บาท โดยมีกำหนดรับรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2565 หากไม่มีการชำระเงินมัดจำ 10,000 บาท ในแคมเปญ ULTRA DEAL ภายในระยะเวลาที่กำหนด จะถือว่าสละสิทธิ์ โดยสิทธิ์จากข้อเสนอในแคมเปญ ULTRA DEAL สำหรับรถยนต์ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV ไม่สามารถโอนให้ผู้อื่น และไม่สามารถเปลี่ยนหรือคืนมูลค่าของสิทธิ์ที่ระบุไว้เป็นเงินสดได้

สำหรับ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV เป็นรถยนต์เอสยูวีพลังงานไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊ก สะท้อนแนวคิดการออกแบบแห่งอนาคตที่สมบูรณ์แบบและแตกต่าง มาพร้อมมิติตัวรถขนาดกว้างขวาง ดีไซน์ด้านหน้าแบบ Star Matrix ล้ำสมัย ไฟหน้า Intelligent LED Headlamp โดดเด่นสะดุดตา ให้ความสว่างแบบ Ultra-High Flow และมอบความปลอดภัยในทุกเส้นทาง หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิค 360 องศา เข้าทรงกับสปอยเลอร์ท้ายและเสาอากาศแบบ shark fin พร้อมระบบประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้าและระบบแฮนด์ฟรี เสริมด้วยไฟท้าย LED Taillight Strip เป็นแนวยาว และล้ออัลลอยลายสปอร์ตขนาด 19 นิ้ว ขณะที่การออกแบบภายในสะท้อนแนวคิด Minimalist ที่เน้นความกว้างขวาง สะดวกสบาย และใส่ใจในทุกรายละเอียด ด้วยคอนโซลหน้าสีทูโทนสไตล์ Futuristic และครบครันด้วยฟังก์ชันอำนวยความสะดวกมากมายในระหว่างเดินทาง ไม่ว่าจะเป็น หน้าจออัจฉริยะ 3 จอเพื่อการเข้าถึงข้อมูลและความบันเทิงได้อย่างง่ายดายและแม่นยำ เบาะนั่งไฟฟ้าคู่หน้า พร้อมระบบระบายอากาศ เบาะนั่งโดยสารด้านหลังพร้อมที่เท้าแขนกลาง แท่นชาร์จไร้สาย กุญแจ Smart Key และระบบ Push Start

All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV ยังเหนือชั้นด้วยขุมพลังและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย สะท้อนมิติใหม่ของรถยนต์ Plug-in Hybrid ด้วยการสร้างสรรค์บนแพลตฟอร์มโมดูลาร์อัจฉริยะ GWM LEMON ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.5L Turbo ผสานการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า และเพลาขับเคลื่อนอิเล็กทรอนิกส์แบบ Multi-mode DHT ให้กำลังรวมสูงสุด 326 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 530 นิวตันเมตร ผนวกกับแบตเตอรี่ชนิดลิเธียม Ternary ความจุ 34 kWh ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 201 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC และมาพร้อมกับหัวชาร์จไฟฟ้าแบบ CCS Type 2 Combo รองรับการชาร์จแบบเร็วด้วยไฟกระแสตรง DC (0% – 80%) โดยใช้เวลาประมาณ 35 นาที และการชาร์จด้วยไฟบ้าน AC (0% – 100%) ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง  พร้อมด้วยตั้งฟังก์ชันอัจฉริยะมากมาย อาทิ ระบบการอัพเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านระบบออนไลน์อัจฉริยะ (FOTA) ระบบการสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ ระบบควบคุมผ่าน GWM Application ทั้งยังครบครันด้วยเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัยต่างๆ อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก และระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการชนครั้งที่สอง เป็นต้น

ศึกษาข้อมูลและอ่านรายละเอียดเพิ่มเกี่ยวกับแคมเปญ ULTRA DEAL สำหรับรถยนต์ All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์  WWW.GWM.CO.TH หรือ GWM Application หรือ  Official Facebook Page : GWM Thailand และ HAVAL Thailand

All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV | Future Transformed

All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV รถยนต์เอสยูวีพลังงานไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊กที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มโมดูลาร์อัจฉริยะ GWM LEMON ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.5L Turbo ผสานการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าและเพลาขับเคลื่อนอิเล็กทรอนิกส์แบบ Multi-mode DHT ให้กำลังรวมสูงสุด 326 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุดถึง 530 นิวตันเมตร รองรับการขับขี่ที่หลากหลาย พร้อมโหมดการขับขี่สูงสุดถึง 8 โหมด รวมถึงโหมดการขับขี่แบบไฟฟ้า 100% ที่วิ่งได้ระยะทางสูงสุดถึง 201 กิโลเมตรต่อหนึ่งการชาร์จ ตามมาตรฐาน NEDC

รุ่นและสีรถยนต์

  • สีรถภายนอก : มีทั้งหมด 5 สี (ขาว ดำ เทา น้ำเงิน แดง)
  • สีรถภายใน : ทูโทน สีดำ-เทา

การออกแบบภายนอก (Exterior Design)

All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV สร้างสรรค์มาให้สมบูรณ์แบบและแตกต่างจากการออกแบบแห่งอนาคต ผสานเทคโนโลยี Plug-in HYBRID ที่ล้ำสมัยกว่าในรถยนต์ระดับเดียวกัน และให้การขับขี่แบบ EV ไกลสูงสุดถึง 201 กิโลเมตรต่อหนึ่งการชาร์จ (NEDC Standard) สร้างมิติใหม่ของรถยนต์ Plug-in Hybrid

  • ใหม่ ดีไซน์ด้านหน้าแบบ Star Matrix มิติใหม่แห่งการออกแบบ เพิ่มมิติให้ดูล้ำสมัย ด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่สีโครเมียม ไล่ระดับช่องระบายอากาศอย่างมีมิติ เป็นเอกลักษณ์
  • ใหม่ ระบบประตูท้ายเปิด-ปิดไฟฟ้า พร้อมระบบแฮนด์ฟรี ช่วยให้การเปิดประตูด้านท้ายรถในขณะถือสัมภาระง่ายยิ่งขึ้น
  • มิติตัวรถที่ขนาดกว้างขวาง ถูกออกแบบมาอย่างลงตัวตั้งแต่หน้ารถจรดท้ายรถ ใหญ่ที่สุดในรถระดับเดียวกัน มิติตัวรถ 1,886 x 4,683 x 1,730 มม. (กว้าง x ยาว x สูง) ระยะฐานล้อ 2,738 มม. การออกแบบระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง และระบบกันสะเทือนหลังแบบอิสระมัลติลิงค์พร้อมเหล็กกันโคลง ให้การขับขี่ที่ยึดเกาะถนนและนั่งสบายเพื่อตอบสนองความต้องการของทุกคนในครอบครัว
  • ไฟหน้า Intelligent LED Headlamp ดีไซน์โดดเด่น ให้ความสว่างแบบ Ultra-High Flow ชัดเจน ให้ความปลอดภัยในทุกเส้นทาง ด้วยระบบอัจฉริยะ อาทิ ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปรับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ และไฟส่องนำทางหลังดับเครื่องยนต์ (Follow me home)
  • ไฟท้าย LED Taillight Strip ดีไซน์เป็นแนวยาว ตอบโจทย์ทั้งแฟชั่นและฟังก์ชั่น มาพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ล้ำสมัยมองเห็นได้ชัดเจน เพื่อความปลอดภัย
  • หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิคขนาดใหญ่ 1.2 ตารางเมตร เปิดมุมมองใหม่ ให้เห็นโลกรอบตัวได้ถึง 360 องศา มาพร้อมกับสปอยเลอร์ท้าย และเสาอากาศแบบ shark fin ช่วยในเรื่องแอร์โรไดนามิค
  • ล้ออัลลอยลายสปอร์ต ขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางขนาด 235/55 R19 มอบภาพลักษณ์อันโฉบเฉี่ยว และการขับขี่ที่ไว้ใจได้ในทุกเส้นทาง

การออกแบบภายใน (Interior Design)

ALL NEW HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV ยังคงการออกแบบภายในสไตล์ Minimalist ที่เน้นความกว้างขวาง สะดวกสบาย และใส่ใจทุกรายละเอียดด้วยคอนโซลหน้าสีทูโทน พร้อมตกแต่งด้วยวัสดุสี Rose Gold, Silver, Piano Black, Chrome ให้ความโมเดิร์นในสไตล์ Futuristic

  • การเชื่อมต่อของหน้าจอทั้ง 3 ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายและแม่นยำ
    • หน้าจอกลางอัจฉริยะแบบ HD Touch Screen Audio Display ความละเอียดสูง ขนาด 12.3 นิ้ว เต็มอิ่มกับความบันเทิงได้ทั้ง Apple CarPlay, Android Auto, MP3, JOOX และ Navigator บอกตำแหน่ง Point of Interest ทั้งร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน และ ห้างสรรพสินค้า
    • HD Multi Information Display ความละเอียดสูง ขนาด 10.25 นิ้ว
    • Head Up Display หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า
  • เบาะนั่งไฟฟ้าคู่หน้า พร้อมระบบระบายอากาศ สัมผัสนุ่มสบายด้วยเบาะหนังสังเคราะห์คุณภาพเยี่ยม ที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง พร้อมระบบดันหลังปรับด้วยระบบไฟฟ้า ช่วยลดความเหนื่อยล้าในการขับขี่ เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับตำแหน่งเบาะผู้โดยสารด้านหน้าจากด้านคนขับ
  • เบาะนั่งโดยสารด้านหลัง พร้อมที่เท้าแขนกลาง อีกระดับของความสบายด้วยช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง และช่องเสียบ USB
  • พื้นที่ห้องโดยสารอเนกประสงค์ มากประโยชน์ใช้สอยด้วยห้องโดยสารและที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ ปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยได้ตามต้องการ เบาะนั่งโดยสารด้านหลังสามารถแยกพับเบาะได้แบบ 60:40 เพิ่มความสะดวกในการจัดเก็บสัมภาระ
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมระบบกรองอากาศ 5
  • Wireless Charger แค่วางก็ชาร์จ Smart Phone ได้ง่ายๆ สะดวกและรวดเร็ว
  • Ambient Light สวยงาม และช่วยสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร
  • Electronic Shifter ชุดเกียร์ไฟฟ้า ดีไซน์หรู พร้อมสีพิเศษแบบ High gloss เท่ทุกจังหวะการขับขี่
  • กุญแจ Smart Key และระบบ Push Start เปิดประตูพร้อมสตาร์ทเครื่องได้สะดวกและง่ายกว่า

สมรรถนะ

  • All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 5 ลิตร Turbo ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังรวมสูงสุด 326 แรงม้า ให้แรงบิดรวมสูงสุด 530 นิวตันเมตร ระบบเกียร์แบบ DHT ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับระบบการขับเคลื่อนที่หลากหลายของรถยนต์ไฮบริด เมื่อทํางานร่วมกับเครื่องยนต์ สร้างการขับเคลื่อนอย่างมีพลังและประหยัดน้ำมัน
  • All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV สามารถเลือกระบบการขับขี่ได้ 2 ระบบ คือ ระบบไฮบริด และระบบไฟฟ้า
    แต่ละระบบมาพร้อมโหมดการขับขี่ 4 แบบ ได้แก่ โหมดมาตรฐาน โหมดสปอร์ต โหมดประหยัด และโหมดสภาพถนนลื่น

แบตเตอรี่

  • แบตเตอรี่ชนิดลิเธียม Ternary ความจุ 34 kWh มีระยะทางวิ่งสูงสุด 201 กิโลเมตรต่อหนึ่งการชาร์จ (อ้างอิงผลการทดสอบระยะทางการขับขี่ด้วยไฟฟ้าตามมาตรฐาน New European Driving Cycle (NEDC Standard)
  • หัวชาร์จไฟฟ้าแบบ CCS Type 2 combo (Combined Charging System) รองรับการชาร์จแบบเร็วด้วยไฟกระแสตรง (DC) และการชาร์จแบบไฟบ้าน (AC)
  • ระยะเวลาในการชาร์จ
    • การชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC (0% – 80%) ประมาณ 35 นาที
    • การชาร์จแบบธรรมดาด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC (0% – 100%) ประมาณ 6 ชั่วโมง

*ระยะเวลาการชาร์จขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ระดับแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ และกำลังไฟของสถานีชาร์จนั้นๆ เป็นต้น

GWM LEMON PLATFORM

แพลตฟอร์มโมดูล่าร์อัจฉริยะที่สามารถปรับเปลี่ยนและรองรับเครื่องยนต์ได้หลากหลายรูปแบบ เป็นแพลตฟอร์มมีน้ำหนักเบา ช่วยให้การขับขี่ดีขึ้นทั้งในแง่ประสิทธิภาพการเร่ง การเบรก และการควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ที่ดีเยี่ยม มีการปรับปรุงให้มีความต้านทานแรงบิดและความแข็งแรงโดยใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงสูง High-strength steel ในการทำตัวโครงสร้างมากกว่า 70% และเหล็กความแข็งแรงสูงที่ 2000 MPa

ฟังก์ชั่นอัจฉริยะ (Intelligent Functions)

  • การอัพเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านระบบออนไลน์อัจฉริยะ (FOTA) ระบบดังกล่าวมาพร้อมกับความสามารถในการอัพเกรดเฟิร์มแวร์สำหรับการควบคุมระบบขับเคลื่อน ระบบส่งกำลัง ระบบการขับขี่อัจฉริยะต่างๆ รวมถึงระบบ Infotainment และระบบควบคุมอื่นๆ ภายในรถยนต์ได้อย่างง่ายดาย
  • การสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ (Voice Command) มีความสามารถในการจดจำเสียงได้เป็นอย่างดี จึงสามารถช่วยลดการใช้งานจากการกดปุ่ม เป็นการเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับขี่และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ โดยผู้ขับขี่สามารถสั่งการและโต้ตอบด้วยเสียงเพื่อใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ รวมไปถึงการเข้าถึงระบบเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ภายในรถ
  • GWM Application: ระบบที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมและเชื่อมต่อฟังก์ชั่นของรถยนต์ได้ แม้ผู้ขับขี่จะอยู่ในระยะที่ไกลจากตัวรถ เช่น ระบบตรวจสอบสถานะปริมาณกำลังไฟแบตเตอรี่ไฟฟ้า ระบบตรวจสอบสถานะการชาร์จแบตเตอรี่ไฟฟ้า ระบบจัดการการชาร์จ การควบคุมระบบปรับอากาศ การล็อคและปลดล็อคประตู การค้นหารถยนต์ การปิดหน้าต่าง ปิดซันรูฟ การควบคุมระบบการระบายความร้อนของเบาะ การแสดงตำแหน่งรถยนต์ การกำหนดรัศมีการใช้งานรถ และระบบตรวจสอบสถานะอื่นๆ

 

ระบบการช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัย

All New HAVAL H6 Plug-in Hybrid SUV มาพร้อมเทคโนโลยีที่ล้ำสมั้ยให้คุณและครอบครัวเดินทางอย่างปลอดภัยไร้กังวล

  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (Intelligent ACC) มาพร้อมกล้องติดรถยนต์ ADAS ช่วยควบคุมในช่วงความเร็วเต็มพิกัดที่กำหนดไว้ รวมถึงการหยุดและรีสตาร์ทกลับไปยังความเร็วที่ตั้งไว้ก่อนหน้า เมื่อระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) ทำงาน กล้องจะทำการตรวจสอบความโค้งของถนน และความเร็วจะถูกปรับอัตโนมัติหากจำเป็นต้องลดความเร็วในขณะเข้าโค้งเพื่อความปลอดภัย และเมื่อผ่านโค้งไปแล้ว รถจะกลับเข้าสู่ความเร็วเดิมที่ตั้งไว้
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA) เป็นระบบควบคุมความเร็ว ที่ช่วยควบคุมรถให้ติดตามรถด้านหน้าหรือขับต่อไปด้วยความเร็วคงที่เพื่อลดภาระของผู้ขับขี่
  • ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (IIP) ใช้เซนเซอร์และกล้องในการตรวจสอบเพื่อตรวจจับวัตถุและเส้นบริเวณช่องจอดหรือจุดจอดรถ และช่วยทำงานเต็มรูปแบบเพื่อเข้าจอด ทั้งแนวตรง แนวจอดเทียบข้าง และแนวเฉียง โดยเมื่อระบุช่องว่างที่จะนำรถเข้าจอดแล้ว รถจะทำการจอดด้วยตัวเองด้วยการควบคุมพวงมาลัย เบรก และคันเร่ง
  • ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA) ในขณะที่ขับรถต่ำกว่า 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบจะบันทึกเส้นทางและสามารถถอยหลังกลับได้ในระยะ 50 เมตรโดยอัตโนมัติ ในเส้นทางที่ถูกบันทึกไว้
  • กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา ประกอบไปด้วยกล้องที่มองได้รอบ 4 ตัว มีความละเอียดคมชัด 4 Megapixel โดยระบบจะรวมเอามุมมองภาพทั้ง 4 กล้องมาสร้างภาพที่มีมุมมอง 360 องศา เพื่อแสดงให้เห็นมุมมองของรถจากมุมบน ระบบทำงานอัตโนมัติเมื่อเข้าสู่โหมดการถอยหลัง โดยสามารถดูได้เมื่อขับรถที่ความเร็ว 15 หรือ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและตอนสตาร์ทรถ
  • ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI) ช่วยตรวจจับรถยนต์ทั้งทางตรงและทางแยก เมื่อเสี่ยงต่อการชน ระบบจะส่งสัญญาณเตือนด้วยเสียงและการเบรกอัตโนมัติช่วยหลีกเลี่ยงการชนหรือลดแรงกระแทก
  • ระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB) เซนเซอร์ช่วยตรวจสอบจุดอับสายตาด้านหลังของตัวรถทั้งด้านซ้ายและด้านขวาของช่องทางเดินรถในขณะถอยหลัง เมื่อกำลังถอยหลังออกจากช่องจอด เซนเซอร์หลังของรถจะทำการเช็กด้านซ้ายและขวาของช่องจราจรและ ส่งสัญญาณเตือนด้วยเสียง หากผู้ขับขี่ยังเพิกเฉย ไม่หยุดรถ ระบบเบรกอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉินจะเริ่มทำงานเพื่อหลีกเลี่ยงการชน
  • ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS) โดยระบบจะตรวจสอบรถบรรทุกขนาดใหญ่หรือรถที่มีขนาดยาว​ ในระหว่างการแซง ระบบจะรักษาช่องว่างระหว่างรถตามระยะที่เหมาะสม​เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และกลับสู่เลนเดิมอัตโนมัติ
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) ระบบตรวจจับเส้นถนนและช่วยประคองพวงมาลัยให้รถอยู่ในเลน
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) ระบบตรวจจับเส้นถนนและช่วยแจ้งเตือนเมื่อรถกำลังออกนอกเลน
  • ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK) ระบบตรวจจับเส้นถนนและช่วยประคองรถให้อยู่กึ่งกลางเลน
  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK) โดยหากมีการตรวจสอบพบรถอีกคันกำลังแล่นมา หรือมีรถแซงขึ้นมาจากอีกเลนหนึ่ง ระบบจะทำการแทรกแซงการทำงานมากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดการชน
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSD) ช่วยตรวจสอบรถในเลนที่ติดกัน
  • ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2 (SCM) โดยรถจะพยายามรักษาเสถียรภาพเอาไว้เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน
  • ระบบช่วยลงทางลาดชัน (HDC) ใช้เบรกเพื่อช่วยควบคุมความเร็วของรถขณะขับบนทางลาดชันเพื่อให้ผู้ขับขี่มีสมาธิในการบังคับพวงมาลัย
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA) เมื่อออกจากจุดที่หยุดนิ่งบนเนินสูงชัน เบรกจะยังคงค้างอยู่ราว 2 วินาที จนกระทั่งคันเร่งทำงานเพื่อป้องกันการถอยหลัง
  • ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู (DOW) หลังจากจอดรถยนต์แล้ว ระบบจะแจ้งเตือนหากระบบตรวจพบเป้าหมายที่เสี่ยงต่อการชนหากเปิดประตูรถยนต์
  • ระบบตรวจความดันลมยาง (TPMS) โดยรถจะทำการวัดแรงดันลมยางอย่างต่อเนื่องและเตือนผู้ขับขี่หากมีแรงดันลมยางล้อใดลดลง
  • ระบบช่วยเตือนความเมื่อยล้าขณะขับขี่ (DFM) ช่วยประเมินและวิเคราะห์ลักษณะในการขับขี่ หากพบว่ามีลักษณะการขับขี่ที่เหนื่อยล้า หรือหลังจากขับรถด้วยความเร็วเกิน 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มากกว่า 4 ชั่วโมง ระบบจะแจ้งเตือนและแนะนำให้หยุดพัก

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่